“ไผเป็นไผ”! “เพจดัง” ไล่ไทม์ไลน์ “ตู้ห่าว” โยง 2 พรรคใหญ่ จี้ “พท.” ฝ่ายค้านที่แข็งแกร่งที่สุด ตรวจสอบ “อดีตบิ๊ก ศรภ.” เชื่อ พิษทุนจีนสีเทา “จุดจบ” แลนด์สไลด์ “พี่คนดี” ร่ายกวี กับตู่ ทำเป็นห้าว กับตู้ห่าว ทำเป็นหงอย
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (3 ธ.ค. 65) เพจเฟซบุ๊ก The METTAD โพสต์ภาพ พร้อมไทม์ไลน์ “ตู้ห่าว” โยง 2 พรรคใหญ่ ระบุว่า
“หาวเจ๋อตู้ หรือ #ตู้ห่าว เป็นนักธุรกิจชาวจีน เข้ามาปักหลักในประเทศไทยมานานกว่า 20 ปี มีภรรยาเป็นคนไทย เดิมชื่อ “วัฒนารี คำนิล” อาชีพรับราชการตำรวจ นอกจากนี้ ยังเป็นหลานของอดีตตำรวจ-รัฐมนตรี ในรัฐบาลทักษิณ ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น “วันทนารีย์”
ตู้ห่าว เปิดบริษัททำธุรกิจหลายบริษัท เช่น บริษัท สยาม โกลเด้น เบย์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด มีชื่อเดิมบริษัท ทีเคซี โฮลดิ้ง กรุ๊ป จำกัด, บริษัท ทีเคซี โฮลดิ้ง กรุ๊ป จำกัด, บริษัท ไทย โค้ดอินท์ ฟินิตี้ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 23 เม.ย. 2555 ทุนปัจจุบัน 500 ล้านบาท
- 2551 “ตู้ห่าว” ได้เวิร์กเพอร์มิต เข้ามาทำงานในไทย
- 3 สิงหาคม 2554 ตู้ห่าว ซึ่งเดิมมีสัญชาติจีน ชื่อของเขาอยู่ในทะเบียนบ้านพื้นที่แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร ยื่นคำขอแปลงสัญชาติเป็นไทย กับกองบัญชาการตำรวจสันติบาล ตามกฎหมายว่าด้วยสัญชาติ กรณีเป็นสามีของบุคคลสัญชาติไทย
- 2555 ตู้ห่าวกับภรรยาถูกคนร้ายคดีเผาสวนงู จ.ภูเก็ต ซัดทอดว่า เป็นผู้จ้างวาน-พยายามฆ่า
- 18 มิถุนายน 2556 นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ระหว่างวันที่ 1 ต.ค. 2555-30 ก.ย. 2558 เป็นประธาน เสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองเกี่ยวกับสัญชาติ
- นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย เป็นผู้พิจารณาอนุญาตให้แปลงสัญชาติเป็นไทย
- เมีย ตู้ห่าว เป็นหลานของ ประชา พรหมนอก ดังนั้น “ตู้ห่าว” จึงมีศักดิ์เป็นหลานเขย
- พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก เป็น อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในสมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
- พบแกนนำเพื่อไทย รมต. บิ๊กตำรวจ ร่วมงานกับ ตู้ห่าว อย่างแน่นแฟ้น รวมถึง ธรรมนัส ที่ตอนนั้นยังอยู่กับเพื่อไทย
- บริษัท เอฟเวอร์ ยูเนียน ธุรกิจให้เช่าอสังหาฯ ร้านค้าปลอดอากร ใน จ.ภูเก็ต ปรากฏชื่อ นางนุดีพร เพชรพนมพร (เป็นบุตรสาว อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นภรรยา นายศาวุธ เพชรพนมพร ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย) ถือหุ้นลำดับ 2 ตั้งแต่ปี 2557
- 2557 อนุพงษ์ รมว.มหาดไทย เซ็นคำสั่งให้สัญชาติไทยแก่คนต่างด้าว ซึ่งในนั้นมีตู้ห่าวรวมอยู่ด้วย ตามขั้นตอนของมหาดไทย ที่อนุญาตไว้ตั้งแต่ปี 56 ( รมว.จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ )
- ตู้ห่าว เปลี่ยนชื่อเป็น “ชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์”
- ธ.ค. 2560 อัยการมีหนังสือชี้แจงสั่งไม่ฟ้อง 2 สามีภรรยา ในคดีเผาสวนงู และถือว่าคดีถึงที่สุด
- 2563 ตระกูลชินวัตร ขาย มหาวืทยาลัยชินวัตร ให้ทุนจีน ส่วนตึกมหาวืทยาลัยเดิม ปล่อยเช่าให้ แก๊งมังกรจีนของ “เส้า เสี่ยวปอ”
https://www.youtube.com/watch?v=EEQ1rMPD6cQ
- 5 พ.ค. 2564 ตู้ห่าว ( ในฐานะคนสัญชาติไทย) บริจาคเข้า พปชร 3 ล้านบาท (ตู้ห่าว มีคอนเนกชันทาง ธรรมนัส)
- 9 ก.ย. 2564 ธรรมนัส + นฤมล ถูกปลดพ้นตำแหน่ง รมต.
ธรรมนัส เคือง เล็งตั้งพรรคใหม่
- 19 ม.ค. 2565 ธรรมนัส ลาออก จาก เลขาธิการ พปชร.
ส.ส. ก๊วนธรรมนัส 21 คน ถูกขับออกจาก พปชร.
- 8 ต.ค. 2565 มีกระแสข่าว ดีลลับดูไบ ธรรมนัส ขน ส.ส.กลับเพื่อไทย
- 25 ต.ค. 2565 ทักษิณ ปัดดีล ธรรมนัส กลับเพื่อไทย
- 26 ต.ค. 2565 ตำรวจบุกผับจินหลิง คุมตัวนักเที่ยวชาวจีนตรวจหาสารเสพติด หลังบุกจับผับหรูย่านสาทร-เจริญราษฎร์ พบปัสสาวะสีม่วง 104 คน เตรียมทำเรื่องเพิกถอนวีซ่า ส่วนเจ้าของผับอยู่ระหว่างขยายผล เชื่อเป็นกลุ่มนายทุนจีน
ในอาคารแบ่งเป็นห้องคาราโอเกะ เกือบ 20 ห้อง ประดับด้วยไฟแสงสี และมีห้องลับเก็บตู้เซฟ ใช้เก็บยาเสพติด หลายร้อยซอง เช่น เคตามีน แฮปป์วอเตอร์ เฮโรอีนผง 323 ซอง ยาอี 91 ซอง ยาอีผงบรรจุในซองกาแฟ 71 ซอง ยาอีผง ซองสีเหลือง 167 ซอง ยาเคตามีน 16 ถุง เงินสด 1.3 ล้านบาท ตู้เซฟ 6 ใบ
- 27 ต.ค. 2565 พบ เจ้าของผับคือ ตู้ห่าว ชาวจีนสัญชาติไทย และเคยบริจาคเงินให้ พปชร.
- 28 ต.ค. 2565 หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ชลน่าน รับเพื่อไทยยังไม่ตรวจสอบยื่นเอาผิดเงินบริจาค พปชร. บอกไม่เห็นด้วย กับการยุบพรรค โดยไม่มีเหตุผล
- 31 ต.ค. 2565 ธรรมนัส โผล่ดูไบ
- 23 พ.ย. 2565 ตู้ห่าวมอบตัว ยันไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด
- 29 พ.ย. 2565 ตำรวจบุกค้นหมู่บ้านทุนจีน พบซื้อเงินสด 50 หลัง กว้านซื้อเกือบยกหมู่บ้าน เป็นหมู่บ้านหรูในโครงการของ SC ASSET
- ธ.ค. 2565 เพื่อไทย จี้ กกต.ตรวจสอบเงินบริจาค 3 ล้าน ของ พปชร.
สรุป
เบาเกินปุยมุ้ย เพื่อไทย มึงควรตรวจสอบเรื่องอื่นด้วยนะ อย่างเช่น นอมินีทุนจีนกว้านซื้อบ้าน / ดีลลับธรรมนัส ก่อนแฉเรื่องตู้ห่าว / นักการเมืองที่ร่วมหุ้น หรือ มีเอี่ยวกับทุนจีนสีเทา
เพื่อให้สมกับการเป็นฝ่ายค้านที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ 😂😂😂😂😂
ขณะเดียวกัน พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า
“จุดจบของ “แลนด์สไลด์”
ตอนนี้ขอให้รอดูรูปคดี “ทุนจีน” ซื้อชาติไทยของพวกเราต่อไป
อย่ากะพริบตาครับ
เพราะถ้า ตู้ห่าว หนีกลับจีนก็สามารถทำได้สบายๆ
แต่ถึงจีนเมื่อไร ก็ตายลูกเดียว ดังนั้น การที่ยอม
ถูกจับที่ไทย ทั้งๆ ที่มีเครื่องบินส่วนตัวและมีเวลานอนคิดอยู่หลายวันนั้น
แสดงให้เห็นว่า “ตู้ห่าว” คิดรอบคอบดีแล้ว ว่า ยังมีทางรอดในประเทศไทย มากกว่าประเทศอื่นๆ และ “ทางรอด” ในขบวนการยุติธรรมของไทยนั้นมีอยู่แยะด้วย
จากประสบการณ์ของ “ตู้ห่าว” เอง ที่คิดว่า “เดี๋ยวคนไทยก็ลืมแล้ว”
แต่คราวนี้ คนไทย คงจะลืมกันยากหน่อยครับ เพราะการดำรงอยู่ของ “เครือข่าย ตู้ห่าว” นั้น เกี่ยวข้องกระทบมาถึง ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของไทยด้วย
เรื่องนี้จึงส่งผลทำให้เกิดการพลิกล็อกขึ้น
แลนด์สไลด์ที่คุยโม้มาเกือบ 2 ปี ต้องพังทลายลงไป
ปัจจุบันนี้ เหลือแค่ ต่างคนต่างเอาตัวรอด
น่าจะเป็นทางที่ดีที่สุดครับ.”
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เพจเฟซบุ๊ก พี่คนดี กวีสมัครเล่น โพสต์บทกลอนเรื่อง “กับตู่ ทำเป็นห้าว กับตู้ห่าว ทำเป็นหงอย” ระบุว่า
“กับตู่ ทำเป็นห้าว กับตู้ห่าว ทำเป็นหงอย
ด่าตู่ กันจ๋อยจ๋อย กลับเงียบจ้อย ดูหงอยเหงา
กับตู่ ด่า “ขายชาติ” รุมพิฆาต ฟาดไม่เบา
แต่เรื่อง แก๊งจีนเทา เขาไม่ทวิตต์ ให้ติดเทรนด์
ตอนแรก เต้นสั่งลุย ร่วมขุดคุ้ย กันยกใหญ่
แต่ขุด ลึกลงไป เริ่มรู้ได้ ว่าใครเหม็น
พวกกัน เลยเงียบกริบ ไม่กล้าหยิบ จับประเด็น
ไม่ป่าว เป็นข่าวเด่น กลับซ่อนเร้น ไม่เห็นแคร์
ไม่ค่อย เห็นเรื่องเล่า ตอนเย็นเช้า พูดกล่าวขาน
ไม่ค่อย เห็นฝ่ายค้าน มาช่วยเต้น เล่นเปิดแผล
ไม่ค่อย เห็นช่องข่าว มาปั่นป่าว กร้าวออนแอร์
ไม่เห็น ใครมาแฉ โหนกระแส แต่อย่างใด
ขายบ้าน ให้คนร้าย อยู่มากมาย แบบขายขาด
พวกเคย อาละวาด ด่าขายชาติ กันบ้างไหม
ราคา คฤหาสน์ หลายล้านบาท อนาถใจ
ซื้อขาย ผ่านคนไทย มีผู้ใด ที่เกี่ยวพัน”
แน่นอน, ประเด็น “ตู้ห่าว” และ “ทุนจีนสีเทา” ยิ่งขุดคุ้ย ยิ่งเห็นชัดว่า “เงิน” ง้างทุกอย่างได้จริงๆ แม้แต่ “อำนาจทางการเมือง” ที่ว่าแน่ “มหาเศรษฐี” ที่ว่าร่ำรวยระดับไหน ก็ยังสยบยอมอยู่ใต้เงามืดสีเทา
คิดไม่ออกว่า ถ้าประเทศไทย ถูกปกครองด้วย “อำนาจสีเทา” บวก “เงินสีเทา” บวก “ธุรกิจสีเทา” อะไรจะเกิดขึ้น ดูจาก “ไทม์ไลน์” ที่ “เพจดัง” เอามาแฉกันแบบ “จะแจ้ง” แล้ว ไม่รู้คนไทยยังหวังอะไรได้จากพรรคการเมืองใหญ่ ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลอยู่หรือไม่?
เพราะการคัดเลือกคนเข้าสู่การเมือง แบบนักเลงการเมือง ใจถึงพึ่งได้ และกล้าหาเงิน แม้จะดำหรือเทา กล้าใช้เงินลงทุนทางการเมือง เพื่อสนองใครก็ตามที่ต้องการอำนาจ ย่อมนำมาสู่ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น
คนไทยมีบทเรียนมาแล้วซ้ำซาก และลืมง่าย แล้วก็พร้อมที่จะให้หลอกอีกต่อไป?
