รายการ “ถอนหมุดข่าว”เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP และสถานีโทรทัศน์ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2565 นำเสนอรายงานพิเศษ ลับๆ ล่อๆ คดีตู้ห่าว ปล่อยรถหรูแลก 8 ล. ไขเซฟลับเจอ 120 บาท
นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือตู้ห่าว มีพลังอำนาจในตัวของจริง ขนาดนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ประกาศหมดหน้าที่ เพราะส่งไม้ต่อให้เจ้าหน้าที่รัฐ จัดการกับตู้ห่าว เรียบร้อยแล้ว
แต่หมดหน้าที่ไปนอนชิลๆ ได้วันเดียว นายชูวิทย์ก็ต้องแจ้นกลับมาทำหน้าที่ต่อ พุ่งเป้าฟาดใส่ นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. เพราะเห็นว่ามีอาการยึกๆ ยักๆ ไม่อยากยึดเครื่องบินไพรเวทเจทของตู้ห่าว อ้างว่าชื่อเจ้าของไม่ตรงกัน
นายชูวิทย์ใช้ถ้อยคำเสียดสีแรงว่า “ตีกรรเชียงถอยหลัง เป็นมวยล้มต้มคนดู” และ “กลิ่นทะแม่งมันโชยมาแต่ไกล”
พร้อมฮึ่มว่า อย่าให้เขาต้องล็อกเป้าใคร เพราะจะชำแหละไปถึงกระดูก
ไม่แปลกที่ผู้โชกโชนเส้นทางสีเทา จะรู้สึกไม่โอเคกับ ป.ป.ส. เพราะขอบข่ายงานของ ป.ป.ส. ต้องปราบปรามยาเสพติดระดับสเกลใหญ่
ปกติ ก็จะรู้เท่าทันความสลับซับซ้อน ขององค์กรซ่อนเงื่อนของพวกมาเฟียยาเสพติด แต่หนนี้ไม่น่าเชื่อว่า เลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นฝ่ายต้องให้นายชูวิทย์ มาเลกเชอร์การสืบสวนใครเป็นเจ้าของไพรเวทเจท
นายชูวิทย์ยังข้องใจ ป.ป.ส. อีกเรื่อง กรณีเพิ่งมีคำสั่งแต่งตั้ง พล.ต.อ.สมเกียรติ ศรีวรขาน เป็น “ประธานคณะอนุกรรมการ ตรวจสอบทรัพย์สินยาเสพติด”
เพราะ พล.ต.อ.สมเกียรติ เป็น “ลูกเขย” ของ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก อดีต ผบ.ตร. ส่วนตู้ห่าว ก็เป็น “หลานเขย” ของ พล.ต.อ.ประชา เท่ากับส่ง “ลูกเขย” มาตรวจทรัพย์สินของ “หลานเขย” มันดูไม่น่าไว้ใจ
นายชูวิทย์เชื่อว่า คนอย่างตู้ห่าวยังมี “ปาฏิหาริย์ อิทธิฤทธิ์” อีกเยอะ เหมือนตอนรถหรู 4 คัน ราคากว่า 100 ล้านบาท ที่ยึดจากผับจินหลิง ตำรวจยังปล่อยไปได้
เทียบเคียงก็คล้ายกับเครื่องบินลำเดียว ยังทำเอา ป.ป.ส. มึนๆ งงๆ ได้ วันหนึ่งบอกไม่ใช่ของตู้ห่าว อีกวันบอกใช่ กลับไปกลับมา
ย้อนไปถึงเรื่องรถหรูหน้าผับจินหลิง วันแรกที่ตำรวจบุกจับ สื่อก็ออกข่าวทั่วกันว่า เจอรถหรู นำโดยโรลส์รอยซ์ จอดอยู่ถึง 35 คัน ตำรวจจึงยึดไว้ตรวจสอบ
แต่คล้อยหลังไม่กี่วัน จำนวนรถก็ลดฮวบ กลายเป็น 31 คันซะอย่างนั้น สุดท้ายก็กลายเป็นประเด็นสินบน 8 ล้าน แลกรถ 4 คัน
โดย พ.ต.อ.ณัฐพล โกมินทรชาติ รองผบก.น.6 ที่อุตส่าห์มารักษาการ ผกก.สน.ยานนาวา เพื่อจัดการกับตู้ห่าว กลับต้องมาเสียประวัติเพราะตู้ห่าว
ซึ่งเจ้าตัวชี้แจงว่า ยอมรับว่าเซ็นปล่อยรถปอร์เช่และอื่นๆ ถึง 5 คัน อ้างว่าตรวจแล้วพบว่า เจ้าของรถไม่เกี่ยวข้องใดๆ และไม่ใช่รถของตู้ห่าว อย่างที่พูดๆกัน
ตอนนี้ รถหรูเหล่านั้น จึงโดนเรียกกลับมา เพื่อเป็นของกลางตามเดิม ส่วน พ.ต.อ.ณัฐพล โกมินทรชาติ แม้จะโดนคำสั่งเด้ง ก็เป็นการส่งกลับไปนั่งที่เดิม และก็ยังไม่โดนแจ้งข้อหาใดๆ
ไม่ใช่แค่เรื่องปล่อยรถ ยังมีเรื่องการปล่อยตัวนายหวัง เจิ้นหนาน อายุ 21 ปี หลานชายของตู้ห่าว ที่อยู่ในผับจินหลิง ขณะโดนทลาย ยาเสพติดเกลื่อนพื้น
พอได้รับอิสรภาพ หลุดจากมือตำรวจแบบปาฏิหาริย์ นายหวัง เจิ้นหนาน ก็ขึ้นเครื่องบินไพรเวทเจท จากสนามบินภูเก็ต หนีออกนอกประเทศไปยังสิงคโปร์ทันที ในวันรุ่งขึ้น
ทิ้งคอนโดฯ หรูริมแม่น้ำ ให้ตำรวจบุกยึดทรัพย์สินต่างๆ และรถราคาแพงระยับได้อีกหลายคัน รวมมูลค่าถึง 150 ล้าน
รถเหล่านั้นน่าตื่นตะลึง ล้วนแต่สับเปลี่ยนทะเบียนกันจนเละ เจ้าของรถไม่รู้เป็นใครกันแน่ แต่ส่อสันดานอาชญากรชัดเจน
เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีประเด็นเรื่องตู้เซฟที่ยึดมาจากผับจินหลิง 5 ใบ ตอนแรกตำรวจแจ้งนักข่าวว่าจะเปิดตู้เซฟอย่างโปร่งใส ต่อหน้าสื่อมวลชน
ไปๆมาๆ ตำรวจดันแอบเปิดเซฟลับหลังสื่อ แล้วประกาศว่าเจอเงินในเซฟแค่ 120 บาท ถือเป็นอีกหนึ่งความพิลึกของคดีนี้
ความสับสนอลหม่านในหมู่เจ้าหน้าที่รัฐ นับแต่เกิดคดีจินหลิง มาเฟียจีนผู้นี้ คงจะเชื่อมั่นในภาษิตจีน “มีเงินใช้ผีโม่แป้ง” เป็นแน่แท้
ตามประวัติศาสตร์ของมาเฟียทั้งหลาย ต่อให้ต้องย้ายนิวาสถานไปอยู่คุก คนพวกนี้ก็สามารถบริหารองค์กรด้วยระบบ “รีโมทคอนโทรล” หรือบงการจากระยะไกลได้
ดูแล้วเรือนจำ ก็น่าจะเป็นสถานที่ถัดไป ที่จะเกิดความวุ่นวายโน่นนี่นั่นตามมา
--------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2 เดือน )
ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1