xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิรัตน์” ชู “กูเซ็ง” หัวหอกปักธงจังหวัดชายแดนใต้ ยก “นราธิวาส” เป็นบ้านใหญ่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สนธิรัตน์” ชู “กูเซ็ง” หัวหอกปักธงจังหวัดชายแดนใต้ ยก “นราธิวาส” เป็นบ้านใหญ่ ปลุก ปชช.เลือกตั้งต้องเลือกคนที่จะมาเป็นนายกฯ พาประเทศพ้นวิกฤต ร่ายยาวผลงาน “สมคิด” มือหนึ่ง ศก. ลั่นหากได้เป็น รบ.นำจังหวัดชายแดนใต้สู่ความเปลี่ยนแปลง ปั้นโรงไฟฟ้าชุมนุม พร้อมติดโซลาร์เซลล์ทุกหลังคา

วันนี้ (1 ธ.ค.) ที่โรงแรมอิมพีเรียล นราธิวาส พรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) จัดกิจกรรมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นราธิวาส โดยมีแกนนำพรรค นำโดย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรค, นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค และ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค เป็นต้น

โดยว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นราธิวาส ของพรรคสร้างอนาคตไทย ทั้ง 3 เขต ประกอบด้วย นายวัชระ ยาวอฮะซัน เขต 1, นายสารี สะมะแอ เขต 2 และ นายอามีน โต๊ะนากายอ เขต 4 โดยมีสมาชิกพรรคและสมาชิกสภาจังหวัด 21 เขต จาก 30 ที่นำโดย นายกูเซ็ง ยาวอวหะซัน นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นราธิวาส ร่วมกิจกรรม
นายสนธิรัตน์ ปราศรัยตอนหนึ่งว่า วันนี้เป็นความภูมิใจของพรรคที่ได้มาพบปะพี่น้องชาวนราธิวาส ซึ่งเป็นวันประวัติศาสตร์ของประเทศไทย และ จ.นราธิวาส สิ่งที่ปรากฏต่อหน้าเป็นสิ่งที่ไม่เกิดขึ้นได้ง่ายๆ สิ่งที่พี่น้องชาวนราธิวาสรอคอย คือ การเกิดขึ้นของบ้านใหญ่นราธิวาส ที่จะตัดสินใจเดินหน้าทางการเมือง นราธิวาสคือพื้นที่เป้าหมายของพรรคสร้างอนาคตไทย ที่ไม่ต้องการเพียง ส.ส. แต่พรรคต้องการคนที่มาร่วมสร้างบ้านเมือง ซึ่งพรรคเราได้หารือกับ นายกูเซ็ง มานานแล้ว และเป็นความสัมพันธ์ที่มีมาอย่างยาวนานตั้งแต่ทำการเมืองเมื่อครั้งที่แล้ว และได้เรียนรู้ซึ่งกันและกันมา

“ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่การตัดสินทางการเมือง ว่า จะเพียงนำพา ส.ส.ให้กับพี่น้อง แต่การร่วมงานที่เกิดจากความรู้สึกว่า ตัวแทนที่แข็งแรงที่สุดของจังหวัดชายแดนใต้ ที่ถือเป็นบ้านใหญ่ที่ทรงพลัง คือ นายกูเซ็ง ที่ถือว่าไม่แพ้ ท่านมหาธีร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกฯ มาเลเซีย และวันนี้ ตัดสินใจจับมือกับพวกเรา ไม่ได้แค่ ส.ส. แต่ต้องการสร้างประเทศไทยกับพรรคสร้างอนาคตไทย” นายสนธิรัตน์ ระบุ


นาสนธิรัตน์ กล่าวว่า ถ้าเป็นคนนราธิวาส คงไม่มีอะไรที่น่าภูมิใจอะไรที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าการที่มีนักการเมืองดูแลประชาชนมากกว่า 30 ปี ยิ่งการพิสูจน์การเลือกตั้งครั้งแล้วครั้งเล่าเป็นหัวใจที่ทำเพื่อพี่น้องประชาชน ศึกการเลือกตั้งครั้งหน้า ไม่ใช่ศึกเลือก ส.ส. เพราะบ้านเมืองวันนี้เดินมาถึงจุดที่เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อ ไม่มียุคไหนที่พรรรคการเมืองแตกกันมากเท่ายุคนี้ ถ้าจำได้การเมืองไทยไม่เคยแตกละเอียดเหมือนครั้งนี้มาก่อน แตกไม่รู้กี่พรรค แตกจนชาวบ้านงงว่า วันนี้การเมืองเล่นอะไรกันอยู่ แต่สิ่งเหล่านี้ คือ สิ่งที่พรรค สอท. ถือเป็นหน้าที่ที่ต้องรวบรวมคนดี คนเก่งมาเข้ามาร่วมสร้างบ้านเมือง เพราะการต่อสู้ครั้งนี้ไม่ใช่แค่การเลือก ส.ส. แต่การต่อสู้ครั้งนี้จะต้องเลือกนายกรัฐมนตรี ฉะนั้น พวกตนจึงต้องไปกราบเรียนเชิญ นายสมคิด บอกว่า บ้านเมืองไม่ไหวแล้ว ลำบากยากแค้น เป็นหนี้เป็นสินทำมาหากินไม่ได้ และยังมีโควิด-19 ที่ทำพวกเราช้ำทั้งประเทศรวมถึงสงครามยูเครน-รัสเซีย

“อยากบอกพี่น้องชาวนราธิวาส ว่า วันนี้ไม่ใช่เลือกแค่ ส.ส. แต่มันยิ่งใหญ่กว่าอดีต เพราะกำลังจะเลือกจุดเปลี่ยนประเทศไทย ต้องมองว่าใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรีที่จะมีความสามารถ ประสบการณ์ ให้พี่น้องหมดจากความทุกข์ยาก ความลำบากให้ได้ ศึกใหญ่ครั้งนี้ ไม่ใช่ศึกการเมืองอย่างที่เขาเล่นกันอยู่ แต่เป็นศึกปากท้องของพี่น้องทั้งประเทศ” เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย กล่าว

นายสนธิรัตน์ กล่าวต่อว่า วันนี้คือจุดตัดสินใจที่เราต้องช่วยกันเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ประเทศไม่ใช่การเล่นละครทางการเมือง ประเทศไม่ใช่แค่การรักษาดุลอำนาจทางการเมือง แต่ประเทศต้องสร้างความหวังและต้องรับใช้พี่น้องประชาชน พวกเราภูมิใจที่นายกูเซ็ง ตัดสินใจมาสร้างบ้านสร้างเมืองกับพรรคที่จะเป็นอนาคต ได้ขอร้อง นายกูเซ็ง ขอให้พรรคสร้างอนาคตไทยมี จ.นราธิวาสเป็นบ้านใหญ่ของจังหวัดชายแดนใต้ และเป็นการปักธงจากนราธิวาส จะเป็นการปักธงตัวแทนพี่น้องมุสลิมและพุทธไปสู่ จ.ปัตตานี และ จ.ยะลา เราอยากเห็น จ.นราธิวาส เป็นเมืองหลวงของพรรคสร้างอนาคตไทยและของจังหวัดชายแดนใต้

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เวลาใครมาขายฝัน ถ้าเขาตอบไม่ได้ว่าเขาเคยทำอะไรมา ถ้าเขาตอบไม่ได้ว่าเขาจะทำอะไรมันก็คือความฝัน พรรคสร้างอนาคตไทยอาสามาซับน้ำตาด้วยการแก้ปัญหาปากท้อง นายสมคิด ดูเศรษฐกิจมา 2 ช่วงรัฐบาล ซึ่งทุกครั้งที่นายสมคิดมาประเทศวิกฤตทุกรอบต้องเข้ามาแก้ พอแก้เริ่มจะดีก็ต้องมีอันเปลี่ยนแปลง ปี 2540 เกิดวิกฤตต้มยำกุ้ง ปี 2544 นายสมคิด เข้ามาคุมเศรษฐกิจภายใต้พรรคไทยรักไทยใช้เวลาเกือบ 5 ปี พลิกฟื้นจนประเทศไทยกลายเป็นผู้นำของอาเซียน และก็เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและทะเลาะกันมาต่อเนื่องจนมาถึงปี 2557 ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เกิดรัฐประหาร คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นรัฐบาล ครอบอำนาจก็พยายามแก้ปัญหาแต่ทำไม่ได้ จีดีพีตกลงอย่างที่ไม่เป็นมาก่อน และเขาก็มาเชิญนายสมคิดมาดูแลเศรษฐกิจจนดีขึ้น และเมื่อมีการเลือกตั้งปี 2562 ตนก็มาเป็นรัฐบาลได้เพียง 1 ปี เพราะเราไม่เล่นการเมืองแบบเก่าแต่เป็นคนทำงาน

“ถ้าพี่น้องเลือกพรรคสร้างอนาคตไทย เราจะทำให้จังหวัดชายแดนใต้เป็นพื้นที่พิเศษด้านพลังงาน โรงไฟฟ้าชุมชนเกิดขึ้นเมื่อสมัยผมเป็น รมว.พลังงาน แต่ทำไม่เสร็จ เพราะถูกการเมืองผลักดันออกมาก่อน จะกลับมาทำโรงไฟฟ้าชุมชนแน่ๆ พี่น้องจะได้เป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าร่วม ได้ปันผล ได้มีโรงไฟฟ้าที่ของพวกเรา ทั้งนี้ หากเราเป็นรัฐบาลจะติดโซลาร์เซลล์ทุกหลังคาบ้าน และจะแก้กฎหมายให้พี่น้องภาคใต้ใช้โซลาร์เซลล์ ซึ่งจังหวัดชายแดนใต้จะต้องเปลี่ยนแปลงภายใต้เศรษฐกิจ ไม่ใช่ภายใต้ความมั่นคง และสองพรรคจะทำให้จังหวัดชายแดนใต้ และ จ.สตูล สงขลา เป็นศูนย์สินค้าฮาลาล ถึงเวลาที่เราจะได้เจ้าของสินค้าฮาล” นายสนธิรัตน์ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น