xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” ลั่นทำงานเพื่อชาวนาลืมตาอ้าปาก ออกตัวไม่ได้มาทำการเมืองอยู่แค่ไหนเป็นเรื่อง ปชต.เลือกตั้ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายกฯ จับเข่าคุยเกษตรกร ยันทำงานเพื่อเห็นรอยยิ้มชาวนาลืมตาอ้าปากได้ ลั่นไม่ชอบอะไรที่หลอกลวง หนุนทุกโครงการตราบใดที่ยังอยู่ ชี้ มาถึงวันนี้ได้ เพราะทุ่มเทมา 7-8 ปี ขอคนไทยรักษาความสงบ-เสถียรภาพ ออกตัวไม่ได้มาทำการเมือง บอกอยู่แค่ไหนเป็นเรื่อง ปชต.เลือกตั้งว่ากัน

วันนี้ (30 พ.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่บริเวณริมสระน้ำ บ้านเชียงคาน หมู่ที่ 14 ต.สถาน อ.เชียงของ จ.เชียงราย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ร่วมวงเสวนา “การปฏิวัติการทำนาสู่ความยั่งยืน” ร่วมกับเกษตรกร อธิบดีกรมการข้าว และนายกสมาคมพัฒนาเศรษฐกิจเกษตรรักษ์โลก พร้อมเกษตรกร

โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่นายกฯ มีความสุขได้อยู่ท่ามกลางพวกเรา เพราะในความคิดของรัฐบาลและนายกฯ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล มุ่งหวังทำอย่างไรให้เรามีรายได้สูงขึ้น เพียงพอต่อการใช้ชีวิตในปัจจุบันซึ่งยากพอสมควรที่ผ่านมาเราอาจจะแก้ปัญหาตรงนู้นบ้างตรงนี้บ้าง แต่วันนี้ดีใจที่เห็นความก้าวหน้า ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลและของตนที่ได้ให้แนวทางไว้ วันนี้งานเยอะหลายอย่างด้วยกัน แต่ทำเพื่อพี่น้องประชาชนคนไทย อยากเห็นรอยยิ้มจากพวกเราทุกคนว่าเมื่อไหร่เราจะลืมตาอ้าปากได้สักที เมื่อไหร่เราจะหมดหนี้สิน ไม่ต้องทนทุกข์ เพราะทนทุกข์ในหลายเรื่องจากปัญหาต่างๆ ที่ทุกคนเผชิญอยู่

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ตนคิดอยู่ตลอดว่า ทำอย่างไรให้ทุกคนลืมตาอ้าปากได้ให้มีรายได้ที่เพียงพอที่จะใช้จ่าย ซึ่งหลายอย่างมีการพัฒนาแล้ววันนี้ วันหน้าประเทศไทยเปลี่ยนอีกเยอะจะบอกให้ ลองเปิดดูในโทรทัศน์วันนี้บ้านเมืองโตไปมากแล้ว ทุกคนต้องพัฒนาไปตามการเจริญเติบโตของบ้านเมืองไปด้วย นี่คือศักยภาพของเราทำอย่างไรไม่ให้ศักยภาพสูญเปล่า ซึ่งเราเป็นแหล่งข้าวแหล่งน้ำอยู่แล้ว ชาวนาทุกคนจะเป็น Smart Farmer ได้หรือไม่ ซึ่งทุกอย่างต้องอาศัยความรู้และเทคโนโลยีใหม่ๆ วันนี้นั่งรถเกี่ยวข้าว ทดลองดูนิดหน่อยเวลาขับแล้วเป็นยังไงนึกถึงพวกเราถึงมีรถมันก็ร้อน นั่งทั้งวันคนเดียวก็จะบ้าเหมือนกัน แต่เขาต้องอดทนไม่มีใครอดทนเท่าคนไทยได้อีกแล้ว

“รายละเอียดทุกอย่างผมมีอยู่หมดแล้ว แต่วันนี้อยากฟังจากปากทุกคนเอง เพราะทุกคนคือคนทำ ฟังจากปากคนทำแสดงว่าทำจริง อะไรก็ได้ถ้าทำจริงจังมันก็จะสำเร็จ ผมไม่ชอบหลอกลวงอะไรกัน เพราะต้องการทำให้ประเทศนี้ดีขึ้น พวกเราทุกคนดีขึ้นเราจะอยู่อย่างนี้ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้รับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะจากอธิบดีกรมการข้าวและตัวแทนเกษตรกร

นายกรัฐมนตรึ กล่าวว่า ขอบคุณทุกคน ถือเป็นสิ่งที่นายกฯ ดีใจและยินดี รัฐบาลดีใจนี่คือการจุดประกายของพวกเราขึ้นมาโดยพวกเรากันเองร่วมกับรัฐบาล เราพูดกันมานานแล้วในเรื่องของตลาดทางการผลิต ซึ่งมันไม่ใช่แค่นั้น วันนี้เราเจาะไปในไส้ในห่วงโซ่ทั้งหมด เริ่มตั้งแต่เมล็ดพันธุ์ข้าว เรื่องที่ดิน ปุ๋ยอินทรีย์ เรื่องน้ำ และเรื่องอื่นๆ พร้อมเอาความต้องการของโรงสีในพื้นที่ ถ้ากำหนดพื้นที่ให้ได้ว่าปลูกอะไรก็จะสะดวกในการจัดระเบียบและไปสู่การส่งออกตลาดทั้งในประเทศและต่างประเท ศโดยเราต้องทำกระบวนการขั้นต้นของเราให้แข็งแกร่งตั้งแต่การผลิต แปรรูป การเพิ่มคุณภาพ เพราะสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่โลกให้ความสำคัญที่สุดการแก้ปัญหาโลกร้อน หากเราทำก่อนเราก็จะมีโอกาสก่อนประเทศอื่น เพราะวันหน้าเราต้องถูกกีดกันทั้งในเรื่องการปลูกพืชเลี้ยงสัตว์โดยไม่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ถ้าเราทำอินทรีย์ทั้งหมดเราสามารถขึ้นทะเบียนได้ว่าเป็นสินค้ารักโลก ภาษีก็จะลดลงอีก รายได้ก็จะเพิ่มขึ้น ซึ่งตนพูดในเวทีเอเปคไปแล้วในการสนับสนุนสินค้า BCG ซึ่งหลายอย่างเป็นปัญหาการกีดกันการค้า นอกจากเรื่องสงคราม

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนมาเพื่อติดตามความก้าวหน้าของทุกคน ไม่ได้มาเพราะเรื่องอื่นๆ วันนี้เราต้องมองให้ไกล ถ้ามองใกล้ตัวมันก็เห็นแต่ความทุกข์ จึงต้องมองนอกจากตัวเองไปถึงคนอื่นและกลไกที่เกี่ยวข้องกับคนอื่น รัฐบาลจึงจะช่วยได้ ยืนยันว่าตนจะสนับสนุนในโครงการเหล่านี้ต่อไปตราบใดที่ยังอยู่ พร้อมวางรากฐานให้รัฐบาลต่อๆ ไปด้วย ไม่เช่นนั้นมาพบทุกคนก็เจอกันแบบเดิม หน้าแห้งทุกที ทำนาเสร็จไม่รู้ไปไหนเข้ากรุงเทพฯเข้าเมืองหางานทำ ซึ่งวันนี้งานไม่ได้ง่ายนัก

“เราจะเป็นฐานการผลิตรถไฟฟ้าที่ใหญ่ในอาเซียนและเป็นแห่งหนึ่งของโลก วันนี้มาหลายบริษัทกำลังเจรจาหลาย อย่างวันนี้อยากจะบอกประเทศไทยมีโอกาสแล้วเพราะพวกเราอยู่กันสงบ เรียบร้อย มีความสุขมีเสถียรภาพ ทะเลาะกันบ้างเป็นธรรมดา แต่เอาน้อยๆลงหน่อยได้ไหม เพราะคนจับตาดูอยู่ เขาบอกประเทศไทยเป็นจุดมุ่งหมายสำคัญเป็นเป้าหมายสำคัญของโลกในปัจจุบัน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทั้งหมดคือการปฏิรูปทุกมิติปฏิรูปการทำงานของเรา รัฐบาลต้องแก้ปัญหาทุกมิติวันนี้ตนมีภารกิจอีกที่หนึ่ง แต่ได้เห็นหน้าทุกคนก็ชื่นใจ เวลาเจอพวกเรา ตนมีความสุขทุกทีเพราะรู้ว่าพวกเราบริสุทธิ์ใจไม่มีอะไรอย่างอื่น และที่ตนทำมาทั้งหมดนี้ใช้เวลามานานพอสมควรหลายปีมาแล้ว กี่ปีไม่รู้นานแล้วมั้งคงเบื่อแล้วมั้ง ซึ่งหลายอย่างไม่ได้เกิดขึ้นวันเดียว 2 วันปี 2 ปีที่พูดเมื่อกี้ใช้เวลากี่ปีกว่าจะทำวันนี้ได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือถนนหนทางโลจิสติกส์ที่จะเชื่อมรวมทุกอย่างการไปมาหาสู่ การอำนวยความสะดวกต่างๆทั้งหมดเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร เราทุ่มเทมามากพอสมควร 7-8 ปีไม่เช่นนั้นคงมาไม่ถึงวันนี้ นอกจากนี้ยังวางพื้นฐานโครงสร้างออนไลน์โซเชียลซึ่งไม่มีใครคิด แต่ทำมาหลายปีแล้ว ไม่ใช่แค่ตนแต่ทุกคนช่วยกันทำ เราช่วยกันทำมาหลายปีแล้วจึงได้เจริญเติบโตมาถึงวันนี้ ทำให้เราเป็นอันดับต้นๆ ของอาเซียนเรื่องดิจิทัล หรืออันดับต้นของโลกนี่คือโอกาสของพวกเราต้องเรียนรู้อยู่ด้วยกัน เสนอคิดกันอะไรที่รวมกลุ่มกันมาทำได้หมด ถ้าแยกเป็นพวกๆ กลุ่มๆ ตีกันไปตีกันมารัฐบาลทำอะไรไม่ได้ ขอบคุณทุกคนอีกครั้งอยากบอกว่าวันนี้มีความสุข

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินพบปะทักทายเกษตรกร อย่าวอารมณ์ดี พร้อมขอให้ทุกคนโชว์ รอยยิ้มสยามให้ดูหน่อย ยิ้มกว้างๆ พร้อมระบุช่วงหนึ่งว่า “วันนี้แพ้อากาศน้ำมูกไหลแต่ไม่ได้เป็นโควิดตรวจแล้ว และย้ำว่าขอให้ทุกคนระวังด้วย ไม่ได้บอกให้ตระหนก แต่วันนี้การท่องเที่ยวเราดีขึ้นต่อเนื่องหลังจากเปิดประเทศ ถ้าบ้านเมืองไม่สงบ มีปัญหา ทะเลาะเบาะแว้งก็ไม่มีใครมา ก่อนจะกล่าวว่า "เดี๋ยวหาว่ามาทำการเมือง ไม่ได้ทำการเมือง มาทำการบ้าน มาติดตามงานและนโยบายที่ให้ไว้ ทั้งหมดจะอยู่แค่ไหนเป็นเรื่องของประชาธิปไตยการเลือกตั้งว่ากันไ ปวันนี้ไม่ได้มาเรื่องการเมืองนะ เดี๋ยวจะโดนอีก” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวพร้อมกับยิ้ม

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพื้นที่บริเวณสระน้ำ บ้านเชียงคาน หมู่ที่ 14 ต.สถาน อ.เชียงของ จ.เชียงราย ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะเดินมาถึงเพื่อร่วมเสวนาฯ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และหน่วยหน่วยสอบวัตถุระเบิดและวัตถุต้องสงสัย ( EOD) ได้ตรวจพบและทำการควบคุมตัว นายวิชาญ กาวีวงค์ อายุ 66 ปี ชาว ต.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นรองประธานศูนย์ข้าวชุมชนจังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากตรวจยึดอาวุธปืนปากกาไทยประดิษฐ์ และลูกกระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 6 นัด และกระสุนไม่ทราบขนาด อีก 1 นัด

โดยถูกตรวจพบและควบคุมตัวขณะซุกซ่อนอาวุธปืนไว้ขณะเดินผ่านเครื่องตรวจอาวุธ ก่อนเช้าภายในงานทางเจ้าหน้าที่ (EOD) จึงทำการตรวจค้นจนพบอาวุธดังกล่าว จึงส่งต่อไปยังกองอำนวยการร่วม และอยู่ระหว่างการสอบสวน โดยมีรายงานว่า นายวิชาญ อ้างว่าปืนปากกาและอาวุธที่พบนั้นเป็นของบุตรชาย และเสียชีวิตไปแล้ว

เวลา 15.30 น. ที่โรงเรียนบ้านน้ำม้า ก่อนขึ้นเฮลิคอปเตอร์ นายกรัฐมนตรีได้แวะทักทายเด็กนักเรียนที่รอพบ พร้อมขอให้ทุกคนเป็นคนดี ตั้งใจเรียน รวมทั้งรักครอบครัว พ่อแม่ ครูอาจารย์ สถาบันทั้ง 3 และประเทศชาติ เรียนรู้ประวัติศาสตร์จะได้รู้ว่าเรามาจากไหน จากนั้นร่วมถ่ายรูปกับเด็กนักเรียนอย่างอารมณ์ดี


กำลังโหลดความคิดเห็น