พรรคชาติพัฒนากล้า เตรียมเปิดตัวนโยบายพรรค โดยเฉพาะนโยบายเศรษฐกิจ ว่า ของจะไม่แพงทำอย่างไร ทุกคนจะต้องมีงานทํา ต้องทําอย่างไร ทุกคนจะต้องมีเงิน จะต้องทําอย่างไร ต้นเดือนธันวาคมนี้
วันนี้ (25 พ.ย.) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองหลังประชุมเอเปก ว่า ตอนนี้ภารกิจที่สําคัญในการเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปกจบแล้ว เป็นเรื่องที่เราสามารถเป็นเจ้าภาพที่ดีและสร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือน เป็นการช่วยกันสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ การลงทุนต่างๆ ก็ถือว่าประสบความสําเร็จ และตอนนี้เอเปกก็จบไปแล้ว คงจะไม่มีเรื่องอะไรที่เป็นภารกิจที่ใหญ่ ก็คงมาพูดกันถึงเรื่องการเมืองที่จะเข้าสู่โหมดการนับถอยหลังสู่การเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งคงจะต้องรอความชัดเจนจากศาลรัฐธรรมนูญด้วย ซึ่งก็ได้ให้คําวินิจฉัยในเรื่องของกฎหมายพรรคการเมืองแล้ว ต่อไปก็เป็นเรื่องของกฎหมายเลือกตั้ง
“บรรยากาศบ้านเมืองวันนี้ ถือว่าเรียบร้อย ส่วนการเลือกตั้ง กติกาอะไรต่างๆ ก็คงจะต้องรอฟังความชัดเจนจากทางศาลรัฐธรรมนูญ และการตัดสินใจของรัฐบาลของท่านนายกฯ ว่า ให้มีการเลือกตั้งเมื่อไหร่ ซึ่งทุกพรรคการเมืองก็พร้อม ตอนนี้บรรยากาศพร้อมกันอยู่แล้ว” นายสุวัจน์ กล่าว และย้ำว่า
สำหรับพรรคชาติพัฒนากล้า มีความพรัอมเต็มที่ในการเลือกตั้ง และมั่นใจว่า พรรคเข้มแข็งขึ้นจะได้มีโอกาสทํางานให้กับพี่น้องประชาชน พรรคชาติพัฒนากล้า อยากจะเข้าไปทํางานในเรื่องของเศรษฐกิจ เพราะว่าตอนนี้เป็นปัญหาจริงๆ เรื่องเศรษฐกิจ
ต้องเข้าไปแก้ไข
“นโยบายกับบุคลากรของพรรคชาติพัฒนากล้า มีความพร้อม มีความมั่นใจ และประมาณต้นเดือนธันวาคมนี้ พรรคชาติพัฒนากล้าจะเปิดตัวนโยบายพรรค โดยเฉพาะนโยบายเศรษฐกิจ ว่า ของจะไม่แพงทำอย่างไร ทุกคนจะต้องมีงานทําต้องทําอย่างไร ทุกคนจะต้องมีเงินจะต้องทําอย่างไร ต้นเดือนธันวาคมนี้”
ส่วนประเด็นเรื่องโพลนั้น นายสุวัจน์ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่สะท้อนความรู้สึกนึกคิดพรรคการเมืองก็ต้องไปปรับยุทธวิธีให้เหมาะสม การทําโพลก็เป็นวิทยาศาสตร์อย่างหนึ่ง ต่างประเทศเวลาจะเลือกตั้ง หรือการเมือง พรรคการเมืองก็ใช้โพลนี้ เพื่อที่จะมาจัดทํานโยบาย มาปรับกําลังภายในพรรคให้เหมาะสม คือ ต้องฟังแล้วก็มาปรับ อย่างตอนนี้ โพลต่างๆ ที่ออกมาพรรคชาติพัฒนากล้าน้อมรับแล้วนํามาศึกษา ว่า พี่น้องประชาชนเป็นห่วงเรื่องอะไร อยากเห็นการเมืองแนวไหน อยากเห็นเศรษฐกิจแบบไหน เราก็มาทําในสิ่งที่สะท้อนออกมาจากการทําโพล พรรคชาติพัฒนากล้ามั่นใจว่าปัญหาความเจ็บปวด และสิ่งที่พี่น้องประชาชนอยากเห็นมากที่สุดก็คือ นโยบายเศรษฐกิจ และการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลปีหน้าจะเป็นรัฐบาลพรรคเดียว หรือรัฐบาลผสม นายสุวัจน์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้ง แต่ที่ผ่านมา จะมีรัฐบาลผสมตลอด ส่วนจะผสมกันอย่างไรก็ต้องผสมกันให้ถูกสัดถูกส่วน คือ ผสมกันให้เกิดเสถียรภาพ และผสมกันให้เกิดนโยบายเศรษฐกิจที่ดี สามารถไปแก้ไขปัญหาประเทศได้ อันนี้สําคัญสองเรื่อง คือ 1. ผสมกันให้เกิดนโยบายที่ดีในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ 2. ผสมให้เกิดเสถียรภาพ เพราะปัญหาของประเทศใน 4 ปีข้างหน้า เราจําเป็นมากๆ ที่จะต้องได้การเมืองแบบมืออาชีพ ทางด้านเศรษฐกิจ และด้านการเมืองที่มีเสถียรภาพ ต้องต่อเนื่องถึงจะดึงนักลงทุนกลับมาได้ ถึงจะสร้างความมั่นใจ แล้วสามารถที่จะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่รุมเร้าอยู่ ตอนนี้เศรษฐกิจค่อนข้างจะเป็นปัญหามากๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ภาพท่านอนุทิน กับท่านสุวัจน์ คุยกันในงานดนตรีที่หัวหิน มีนัยยะอะไรหรือไม นายสุวัจน์ ไขข้อสงสัย ว่า ท่านอนุทินกับผม มีความสนิทสนมกันมานานแล้ว ตั้งแต่สมัยพรรคชาติพัฒนา ตอนท่านพลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นหัวหน้าพรรค ท่านชวรัตน์ ชาญวีรกูล (คุณพ่อคุณอนุทิน) เป็นผู้ใหญ่ในพรรค เป็นเพื่อนกับท่านชาติชาย ตอนนั้นท่านก็เริ่มต้นชีวิตการเมืองด้วยการเป็นรัฐมนตรีช่วยคลัง ที่พรรคชาติพัฒนา ตอนหลังท่านอนุทิน ก็เติบโตที่พรรคชาติพัฒนา ฉะนั้น มีความสนิท มีความคุ้นเคย เพียงแต่วันนั้น มีวงดนตรีจากต่างประเทศวง The Platters เป็นนักดนตรีรุ่นเก่า only you ใครๆ ก็ต้องรู้จักก็เลยไปเจอกันที่งาน ก็เลยนั่งโต๊ะเดียวกัน ก็ฟังเพลงรําลึกถึงความหลังกัน ไม่มีการเมือง