“เสี่ยชู” แฉ อดีต รมต.เคยพา “ตู้ห่าว” พบผู้ใหญ่ใน พปชร.ที่ชอบสะสมนาฬิกา เพื่อแสดงบารมี เผย เที่ยวบิน HS-HAO ที่สนามบินร้อยเอ็ด มี “ธรรมนัส” โดยสาร แต่นายทุนจีนมีอิทธิพลออกบินได้ แม้ไม่ใช่สมาชิกกองบิน ย้ำ ขออนุญาตจอดต้องขออนุญาตโดย รมต. รับเจอโทร.ขู่ เชื่อท้ายสุดเจอตอ
วันนี้ (23 พ.ย.) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีต ส.ส. เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมของนายทุนชาวจีน ที่ทำธุรกิจสีเทาในประเทศไทยต่อสื่อมวลชน หลังยื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้สอบสวนเส้นทางการเงินของ สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล
นายชูวิทย์ ระบุว่า นายทุนจีนชื่อ “หาว เจ๋อ ตู้” ใกล้ชิดกับใคร พาดพิงถึงใคร รัฐมนตรีคนไหน ตนมีเอกสารหลักฐานที่น่าสนใจ ตนต้องขออภัยฝูงบิน 604 ที่ออกมาเปิดเผยข้อมูล ย้ำว่า ไม่มีอะไรเกี่ยวข้อง แต่เนื่องจากเครื่องบินของ หาว เจ๋อ ตู้ มีความเชื่อมโยงถึงรัฐมนตรีท่านหนึ่ง ที่นำไปใช้หาเสียงอยู่บ่อยๆ การขออนุญาตจอดก็จะต้องขออนุญาตโดยรัฐมนตรี ไม่ใช่ หาว เจ๋อ ตู้ เพราะไม่ใช่สมาชิกฝูงบิน 604 เหตุการณ์เช่นนี้แสดงถึงอิทธิพลของ หาว เจ๋อ ตู้ ทั้งนี้ ที่ซอยลาดกระบัง 54 มีโรงแรมขนาดใหญ่ ขนาด 400 ห้อง พื้นที่ 20 กว่าไร่ มีรถบัส 400-500 คัน และเงินสดจำนวนมาก ซึ่ง หาว เจ๋อ ตู้ เป็นคนจีนไม่รู้เรื่องการเมืองไทย จึงมีคนพา หาว เจ๋อ ตู้ ไปพบกับบุคคลหนึ่งที่ชอบสะสมนาฬิกา พาเข้าไปกราบเพื่อให้เห็นบารมี โดยมีนาฬิกาปาเต๊ะ 1 เรือน มูลค่าประมาณ 10 กว่าล้านบาท ถูกส่งมอบให้ ขณะที่ หาว เจ๋อ ตู้ ก็บริจาคเงิน 3 ล้านบาท ให้พรรคพลังประชารัฐ
อย่างไรก็ตาม ในกฎหมายสัญชาติไทย ระบุไว้ว่า หากบุคคลใดที่แปลงสัญชาติเป็นสัญชาติไทย แต่ยังใช้สัญชาติเดิมในการทำธุรกรรมและเดินทาง ก็มีสิทธิยกเลิกสัญชาติไทยได้ ซึ่งปรากฏว่า หาว เจ๋อ ตู้ ยังใช้พาสปอร์ตจีนอยู่ ดังนั้น การรับเงินของพรรคพลังประชารัฐ ไม่ทราบว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะอนุญาตหรือไม่ ว่า คนสัญชาติไทยและใช้สัญชาติจีนด้วยบริจาคเงินได้
เมื่อถามว่า รัฐมนตรีที่เข้าไปเกี่ยวข้องคือใคร นายชูวิทย์ กล่าวว่า เป็นอดีตรัฐมนตรี และสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการโทรศัพท์มาเคลียร์กับตน และใช้วิชามาเฟียกับตนทุกรูปแบบ แต่ตนยืนยันว่า ไม่กลัว สิ่งใดที่ตนพูดไปแล้วรับผิดชอบคำพูดตัวเองทุกคำ วิบากกรรม สัมภเวสี ตนไม่เคยกลัว พร้อมย้ำว่า วันนี้ตนจะรอพบหน้า สันธนะ ประยูรรัตน์
“…ผมจะรอ ผมไม่เคยกลัวมัน แล้วผมจะถามมันว่า ที่ผมโชว์หลักฐาน ใช่มึงไหม และข้อมูลทั้งหลาย ผมจะให้บิ๊กโจ๊ก (พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.) เพราะเป็นคนที่รับข้อมูลผม และติดตามเรื่องนี้ และ หาว เจ๋อ ตู้ ขณะนี้ไม่ได้อยูที่หมู่บ้านลดาวัลย์ ที่ตลิ่งชัน แต่อยู่ที่ โอ๊ควู๊ด สาธร 21 ใกล้ๆ กับผับจินหลิง…”
นายชูวิทย์ ยังได้เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมต่อไป เกี่ยวกับความเชื่อมโยงของอดีตรัฐมนตรี และ ห่าว เจ๋อ ตู้ ในการใช้เครื่องบินส่วนตัว พร้อมได้เปิดเผยชื่อรัฐมนตรีท่านดังกล่าว
“…เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 65 ขออนุญาตเที่ยวบินส่วนบุคคลบินขึ้นลง และจอดพัก ณ ท่าอากาศยานร้อยเอ็ด ซึ่งมีท่าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เดินทางไปกลับเที่ยวบินนี้ ซึ่งเที่ยวบินนี้คือ HS-HAO ขอเรียนว่า ท่านธรรมนัสกับผมไม่มีอะไรบาดหมางกัน ผมไม่เคยเอ่ยถึงท่าน ไม่มีอะไรพาดพิงท่าน ผมไม่ทราบ ผมพูดต่อหน้าสื่อว่า ตู้ ห่าว ไปเกี่ยวข้อง แต่ สันธนะ เป็นคนพูดเองว่า ร.อ.ธรรมนัส ฝากดูแลคนจีนเหล่านี้ นั่นคือจุดเกิดเหตุ ซึ่งไม่ได้มาจากผมเลย…”
ทั้งนี้ นายชูวิทย์ ยังเชื่อว่า เมื่อตรวจสอบไปถึงที่สุดแล้ว สุดท้ายคงเจอตอแน่ เพราะถ้าไม่มีตอจะเอารถออก 4 คัน สลับตัวผู้ต้องหา และหมายจับออกช้าขนาดนี้ได้อย่างไร แต่อย่างน้อยขอให้จัดการทุนสีเทาจีนในไทยได้ก็ดี