xs
xsm
sm
md
lg

ผิดคาด! “นันทิวัฒน์” ยกอเมริกามหามิตร ไม่บีบไทยเลือกข้าง-กดดัน ม.112 “ยิ่งลักษณ์” ครวญ ถูกกลั่นแกล้งไม่จบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ กมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขณะเข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราช ณ วัดราชบพิตรฯ
“นันทิวัฒน์” ยกอเมริกามหามิตร ไม่บีบไทย เลือกข้าง-กดดัน ม.112 อย่างคนบางฝ่ายลุ้น “ยิ่งลักษณ์” ครวญ ย้ายข้าราชการคนเดียว ถูกดำเนินคดี กลั่นแกล้งไม่รู้จบ “ประธานผู้ลี้ภัย” ด่าศาลลั่น เป็นนายกฯ ต้องย้าย ขรก.ได้

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (22 พ.ย. 65) นายนันทิวัฒน์ สามารถ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Nantiwat Samart ระบุว่า

“อเมริกามหามิตร

การประชุมเอเปก 2022 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ถูกบางคนค่อนแคะว่า ไบเดน ผู้นำใหญ่ของโลกประชาธิปไตยไม่มาร่วม จะทำให้การจัดงานประชุมเอเปกครั้งนี้กร่อยแน่นอน

ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า ในฐานะเจ้าภาพ ไทยอยากให้ผู้นำเอเปกทุกคนมาร่วมประชุมให้ได้ คุณดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกฯ และ รัฐมนตรีต่างประเทศ ได้เดินสายมอบหนังสือเชิญด้วยตนเอง แต่เราก็ต้องเข้าใจบริบทในความจำเป็นของผู้นำต่างๆ ที่ติดธุระสำคัญ ไม่สามารถมาร่วมงานได้. และมีอย่างน้อย 4 เขตเศรษฐกิจที่ส่งผู้แทนมาร่วมประชุม

ภาพ โพสต์ข้อความของ นายนันทิวัฒน์ สามารถ
กรณีอเมริกา แม้ไบเดนจะมาไม่ได้. แต่ก็ส่ง กมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีมาแทน ซึ่งไม่ได้ด้อยค่าอะไรต่อไทยแต่อย่างใด

ในการประชุมร่วมทวิภาคีระหว่างนางกมลา และ นายกฯ ลุงตู่. เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่ได้มีท่าทีกดดันบีบบังคับไทยให้ต้องเลือกข้าง ไม่มีการหยิบยกปัญหาประชาธิปไตยและมนุษยชนในไทย หรือแม้แต่ ม.112 อย่างที่คนบางฝ่ายลุ้น. ขึ้นมาหากับไทย มีแต่เน้นความร่วมมือกับไทยในฐานะพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ให้มากขึ้น ในฐานะที่มีความสัมพันธ์กันมากว่า 190 ปี พร้อมสานต่อพันธกิจ BCG ในปีหน้าที่อเมริกาเป็นเจ้าภาพต่อจากไทย

รองประธานาธิบดี กมลา สุภาพเรียบร้อย ไม่มีบุคลิกก้าวร้าว แถมด้วยบทบาท soft power ช่วยเป็นพรีเซนเตอร์เดินตลาดนัดจตุจักร จับจ่ายสินค้า และได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราช ณ วัดราชบพิตรฯ นับได้ว่า ท่านกมลาได้ช่วยโปรโมตการท่องเที่ยวให้แก่ประเทศไทย”

ภาพ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ครวญถูกกลั่นแกล้งไม่จบ
ขณะเดียวกัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องหาตามหมายจับหลายคดี ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ Yingluck Shinawatra @PouYingluck หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง ออกหมายจับคดี ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด และปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตกรณีเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกับพวก ใช้อำนาจโอน นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการ สมช. ในขณะนั้น ให้มาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำโดยมิชอบ เมื่อช่วงเดือน ก.ย.54 โดยฟ้องเมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา

โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุว่า จากข่าวการออกหมายจับดิฉันจากการย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี มีประเทศไทยประเทศเดียว ที่นายกรัฐมนตรี ที่มาจากการเลือกตั้ง ย้ายข้าราชการคนเดียว แล้วถูกดำเนินคดี #ถูกกลั่นแกล้งไม่จบ

ภาพ นายจรัล ดิษฐาภิชัย จากเฟซบุ๊ก Jaran Ditapichai
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นายจรัล ดิษฐาภิชัย อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประธานสมาคมนักประชาธิปไตยชาวไทยไร้พรมแดน ลี้ภัยในประเทศฝรั่งเศส โพสต์เฟซบุ๊ก Jaran Ditapichai ว่า

“ขอประณามศาลฏีกาแผนกคดีฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงคำแหน่งทางการเมือง ที่ออกหมายจับนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพราะเป็นการกลั่นแกล้ง มีเป้าหมายทางการเมือง (pilitical motivation)

โดยรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.บริหารราชการแผ่นดิน นายกรัฐมนตรีมีอำนาจสั่งย้ายข้าราชการระดับสูง ย่อมไม่ผิดกฎหมายปกครองและกฎหมายอาญาใดๆ

การออกหมายจับครั้งนี้ ยังสะท้อนว่า กลุ่มปกครองไม่ต้องการปรองดองชาติ”

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 21 พ.ย.ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง ศาลนัดพิจารณาคดีครั้งแรก (สอบคำให้การ) ในคดี หมายเลขดำที่ อม.11/2565 ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด และปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตกรณีเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกับพวก ใช้อำนาจโอน นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการ สมช. ในขณะนั้น ให้มาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำโดยมิชอบ เมื่อช่วงเดือน ก.ย. 54 โดยฟ้องเมื่อเมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่มาศาลจึงถูกออกหมายจับ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนของศาล.

แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจ ก็คือ กรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดพิจารณาคดีครั้งแรก (สอบคำให้การ) ในคดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ย้าย “ถวิล” ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 แต่ “ยิ่งลักษณ์” หลบหนีโทษคดีจำนำข้าวอยู่ต่างประเทศ จึงต้องออกหมายจับ

เรื่องของเรื่องมีแค่นี้ ศาลฯยังไม่ตัดสินคดีว่า “ยิ่งลักษณ์” ผิดหรือไม่ แต่เจ้าตัวกลับไม่ยอมรับที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

นี่คือ ปัญหาของ “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” ชินวัตร ที่ดูเหมือนพยายามที่จะไม่ยอมรับคำตัดสินของศาล และเลือกที่จะหนี รวมทั้งใช้ข้ออ้างเดียวกัน ในการบอกกับชาวโลก คือ ถูกกลั่นแกล้งรังแก

อย่าลืมว่า นายกฯ สามารถโยกย้ายข้าราชการได้ ก็จริง แต่การโยกย้ายในลักษณะกลั่นแกล้งรังแก หรือไม่ให้ความเป็นธรรม การนำคดีขึ้นสู่ศาลเพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกโยกย้าย ก็ถือเป็นการถ่วงดุลระหว่างนักการเมืองกับข้าราชการประจำเช่นกัน ทั้งหลายทั้งปวงอยู่ที่ศาลฯจะตัดสิน ตามพยานหลักฐานทั้งหมด

ดังนั้น ต้องทำความเข้าใจก่อนที่จะมีคนเอาไปบิดเบือนและขยายผลทางการเมือง อย่างที่ประธานผู้ลี้ภัย บอกว่า นายกฯย้ายข้าราชการประจำไม่ผิด ซึ่งเป็นการพูดความจริงเพียงเสี้ยวเดียว

แต่ความจริงทั้งหมดเป็นอย่างไร ต้องต่อสู้กันในศาล ถูกหรือผิด ศาลฯจะเป็นผู้ตัดสิน นี่คือ สิ่งที่ถูกต้องชอบธรรมกับทุกฝ่าย หาใช่การกลั่นแกล้งรังแกใคร แต่อย่างใด


กำลังโหลดความคิดเห็น