“ประวิตร” พร้อม รมว.ดีอีเอส รมช.คลัง และคณะ เดินทางลงตรวจราชการพื้นที่ จ.กำแพงเพชร ติดตามการแก้ปัญหายาเสพติด ที่ดินทำกินและการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง พอใจแก้ปัญหาที่ดินคืบหน้า ย้ำยึดหลักหนึ่งเดียวกัน พร้อมลงจี้กวาดล้างใหญ่ยาเสพติดทุกพื้นที่เชื่อมโยงตัวการ ไม่มียกเว้น
วันนี้ (21 พ.ย.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อม รมว.ดีอีเอส รมช.คลังและคณะ เดินทางลงตรวจราชการพื้นที่ จ.กำแพงเพชร ติดตามการแก้ปัญหายาเสพติด ที่ดินทำกินและการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง โดยรับฟังสถานการณ์ด้านการป้องกันและแก้ปัญหายาเสพติด และการจัดการที่ดินทำกินตามนโยบายของรัฐบาล ณ โรงเรียนปางศิลาทองศึกษา มี ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร มทภ.3 ผบช.ภาค 6 ผอ.สคทช. เลขา สทนช.และหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ให้การต้อนรับ
โดย พล.อ.ประวิตร ได้มอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาเขียว-ป่าเขาสว่าง และป่าคลองห้วยทราย เนื้อที่กว่า 12,951 ไร่ มีประชาชนเข้าอยู่อาศัย 1,077 ราย ให้กับ ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร พร้อมทั้งมอบหนังสืออนุญาตสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดที่ดินทำกินในพื้นที่ อ.ปางศิลาทอง และ อ.ขาณุวรลักษณ์บุรี เนื้อที่รวมกว่า 4,233 ไร่ ให้กับประชาชนจำนวน 334 ราย ทั้งนี้ คทช.อยู่ระหว่างเร่งจัดสรรพื้นที่ จ.กำแพงเพชร ตามเป้าหมาย 12 พื้นที่ ทั้งในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติและเขตปฏิรูปที่ดิน รวม 188,000 ไร่ ให้ประชาชนเข้าอยู่อาศัยและทำประโยชน์ พร้อมทั้งส่งเสริมพัฒนาอาชีพ พัฒนาระบบสาธารณูปโภคที่จำเป็นในพื้นที่เป้าหมายต่อเนื่องกันไป
พล.อ.ประวิตร แสดงความพอใจและขอบคุณ คทช. ที่เดินหน้าแก้ปัญหาที่ดินทำกินมีความก้าวหน้า ต่อเนื่องมา โดยสามารถกระจายที่ดินให้ประชาชนที่ไม่มีที่ดินทำกินได้ใช้ประโยชน์แล้วในหลายพื้นที่ ซึ่งถือเป็นการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำสังคมในการถือครองที่ดินระดับพื้นที่ โดยย้ำขอให้ยึดหลักความเป็นหนึ่งเดียวและอาศัยความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนเรื่องที่ดินทำกินและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ทั้งนี้ ขอให้ฝ่ายปกครองในพื้นที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งเข้าไปพัฒนาระบบสาธารณูปโภค น้ำและไฟ การส่งเสริมอาชีพในรูปการรวมกลุ่มของสหกรณ์ เพื่อให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างแท้จริง
พล.อ.ประวิตร ได้ย้ำนโยบายแก้ปัญหายาเสพติด โดยกำชับฝ่ายปกครอง และ ตร.เปิดปฏิบัติการกวาดล้างใหญ่ ร่วมป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในทุกพื้นที่อย่างจริงจังต่อเนื่องกันไป โดยให้ลงลึกเชื่อมโยงถึงตัวการสำคัญ ไม่มียกเว้น โดยขอให้กลไกหลักระดับพื้นที่ทั้ง อบจ. อสม. ตร.ท้องที่ และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต้องให้ความสำคัญจริงจัง ดึงภาคประชาชนเข้ามีส่วนร่วม เฝ้าระวังแก้ปัญหายาเสพติด ให้ครอบคลุใทุกมิมติ ทั้งการสกัดกั้น การป้องกันและปราบปราม และการบำบัดรักษาให้เป็นผล โดยให้สังคมมีส่วนร่วมประเมินผล เพื่อสร้างความเข้มแข็งของชุมชนร่วมกัน
ทั้งนี้ ในบ่ายวันเดียวกัน จะลงติดตามการบริหารจัดการแก้ปัญหาน้ำในพื้นที่ต่อไป