xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ เป็นประธานประชุมเขตผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกการค้า-การลงทุน ชูเป็นหัวใจสำคัญหนุนเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“นายกฯ” เป็นประธานประชุมเขตผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก การค้า- การลงทุน ชูเป็นหัวใจสำคัญ หนุนเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก เน้นลงทุนเศรษฐกิจ BCG เตรียมพร้อมเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ

เมื่อเวลา 09.40 น. วันที่ 19 พ.ย.ที่ห้องประชุม Plenary Hall 2 ชั้น 1 ศูนย์ฯสิริกิติ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมเขตผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 29 (Retreat ช่วงที่ 2) ภายใต้หัวข้อ “Sustainable Trade and Investment การค้าและการลงทุนที่ยั่งยืน”

โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเปิดการประชุมตอนหนึ่งว่า หวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้นำเอเปกทุกท่านจะได้พักผ่อนกันอย่างเต็มที่ในค่ำคืนที่ผ่านมา และตนรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ทุกคนได้มีโอกาสมาพบปะและพูดคุยกัน และหารือกันในบรรยากาศที่เป็นมิตรไมตรีต่อกัน ซึ่งเมื่อวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีการหารือแนวทางการส่งเสริม การเจริญเติบโตครอบคลุมยั่งยืนผ่านแนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว (BCG) พร้อมกับได้มีการกระชับความสัมพันธ์กับแขกพิเศษ และหนึ่งในประเด็นสำคัญที่มีการพูดคุยกัน คือ การค้าและการลงทุน ซึ่งถือเป็นบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการเจริญเติบโตที่ยั่งยืนครอบคลุม ในภูมิภาคและในโลก วันนี้จึงถือเป็นโอกาสอีกครั้งที่ได้มีการพูดคุยกันต่อและลงรายละเอียดในประเด็นนี้ ซึ่งทุกท่านทราบดีว่าการค้าการลงทุนเป็นหัวใจหลักของความร่วมมือในเอเปกที่จะส่งเสริมและสนับสนุน ระบบการค้าพหุภาคีที่มีองค์การค้าโลก (WTO) เป็นศูนย์กลางและเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่ประชุมรัฐมนตรีองค์การการค้าโลก สมัยสามัญที่ 12 สามารถที่จะประสานท่าทีที่แตกต่างกันของสมาชิกและบรรลุผลลัพธ์ในหลายหัวข้อที่ติดขัดกันมานาน ซึ่งเราต้องช่วยกันผลักดันการนำผลลัพธ์ของที่ประชุมดังกล่าวมาปฏิบัติให้เกิดประสิทธิภาพโดยเร็ว และหลายประเด็นที่ยังคั่งค้างเป็นประเด็นที่เอเปกให้ความสำคัญในวิสัยทัศน์ เช่น ความควบคุมการยังยืนและความเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิทัล ซึ่งเอเปกมีบทบาทสำคัญในฐานะแหล่งบ่มเพาะทางความคิด

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า อยากให้ทุกท่านช่วยกันคิดว่าในเอเปก มีความคิดใหม่ๆ ที่สร้างสรรค์ เพื่อขับเคลื่อนประเด็นเหล่านี้ให้คืบหน้าได้อย่างไร ซึ่งการขับเคลื่อนวาระเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก (FTAAP) เป็นงานสำคัญที่ต้องช่วยกันสนับสนุน ระบบการค้าพหุภาคี ซึ่งในปีนี้เราสามารถทำให้เกิดความคืบหน้า โดยได้จัดทำแผนงานต่อเนื่องหลายปีเพื่อขับเคลื่อน ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถและเตรียมความพร้อมให้กับเขตเศรษฐกิจพิเศษทั้งในประเด็นการค้าและการลงทุนยุคใหม่ รวมถึงเศรษฐกิจดิจิทัลด้วย ซึ่งเราต้องให้ความสำคัญกับการนำแผนงานต่อเนื่องหลายปีนี้ไปปฏิบัติ ในขณะเดียวกัน จะต้องนึกถึงหนทางข้างหน้าด้วย และต้องถามกลับมาที่ตัวเองว่า เรามีความคาดหวังเดียวกันในเรื่องการจัดตั้งเขตการค้าเสรีเอเชียแปซิฟิก (FTAAP) โดยจะทำอย่างไรให้วาระดังกล่าวตอบสนองผลประโยชน์ของพวกเราทุกคน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ในปีที่ผ่านมา เราสามารถฟื้นตัวจากโควิด-19 โดยอาศัยเทคโนโลยีดิจิทัล ช่วยรับมือในการแก้ปัญหา โดยเฉพาะธุรกิจเอสเอ็มอี ที่มีส่วนสำคัญในการเข้าไปสู่ห่วงโซ่ธุรกิจของโลกให้ได้มากยิ่งขึ้น และยังช่วยขยายและยังช่วยขยายโอกาสให้เข้าถึงสตรีและเยาวชนและกลุ่มและกลุ่มคนในชนบทในพื้นที่ห่างไกล แต่ก็ยังมีความเหลื่อมล้ำอยู่มาก จึงจำเป็นต้องลดช่องว่างและเสริมพลังและเสริมพลังให้กลุ่มที่ยังที่ไม่ได้รับการปลดปล่อยศักยภาพทางเศรษฐกิจ เพื่อสร้างหลักประกันเพื่อสร้างหลักประกันว่าคนทุกกลุ่มจะได้รับประโยชน์ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และตนขอเพิ่มเติมวันนี้ เรากำลังเผชิญกับสังคมผู้สูงวัย ซึ่งจะต้องให้ความสำคัญตรงนี้ด้วย ว่าจะทำอย่างไรที่จะสามารถยืนหยัดอยู่ได้ เพราะอายุยืนยาวต้องมีความมั่นคงในชีวิตของเขาด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น