น่าคิด! “ดร.นิว” ชำแหละ 3 ข้อเรียกร้อง เด็กโข่งวัย 26 นำม็อบหยุดเอเปก แค่โฆษณาชวนเชื่อ เผยซ้ำ แกนนำ สุมหัวเอาตัวรอดอยู่ฝรั่งเศส “อดีตหัวหน้า ศรภ.” แฉมีการใช้อุบายทัวร์ดูไฟที่ลานคนเมือง แถมวางเกมยาวด้วย
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (17 พ.ย. 65) ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ ดร.นิว นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง “ทำความรู้จักน้องมายด์สามนิ้วผ่าน 3 ข้อเรียกร้อง”
โดยระบุว่า ดูเหมือนว่า น้องมายด์ พึ่งจะได้รับบทพูดบทใหม่ ถึงได้ออกหน้าแสดงความห่วงใยต่อทรัพยากรของประชาชนในช่วงนี้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ น้องมายด์ ไม่เคยออกมาช่วยกัน ทวงคืนป่าสงวนแห่งชาติสองพันกว่าไร่จากนายทุนตระกูลหนึ่งเลยแม้แต่นิดเดียว
[ ข้อ 1. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องยกเลิกนโยบาย BCG กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ที่พยายามนำเสนอเข้าที่ประชุมเอเปกรับรอง เนื่องจากเป็นแนวคิดที่เอื้อประโยชน์กับกลุ่มทุนชั้นนำในประเทศ ]
BCG (Bio-Circular-Green) Economy เป็นแนวคิดบูรณาการทางเศรษฐกิจ ที่ได้รวบรวมแนวคิดทางเศรษฐกิจที่หลากหลายมาไว้ด้วยกัน แล้วมุ่งเน้นนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาช่วยเสริมสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับการใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม Bio Economy - เศรษฐกิจชีวภาพ Circular Economy - เศรษฐกิจหมุนเวียน Green Economy - เศรษฐกิจสีเขียว
นับได้ว่า เป็นแนวคิดที่ทันสมัยและเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในโลกยุคใหม่นี้เป็นอย่างมาก มีศักยภาพในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและกระจายรายได้ อีกทั้งยังสอดคล้องกับกระแสประชาคมโลกในการเผชิญหน้ากับวิกฤตปัญหาโลกร้อนอีกด้วย
ตลอดจน BCG ยังเป็นวิสัยทัศน์ที่ได้รับการยอมรับโดย APEC มาก่อนหน้านี้แล้วเสียด้วยซ้ำ เห็นได้จากเอกสารให้ความรู้ของ APEC ฉบับนี้ https://www.apec.org/.../understanding-the-bio-circular...
ไม่นึกว่าคนที่ร่ำเรียนวิศวกรรมโยธาจะขาดความรู้ความเข้าใจต่อแนวคิดสิ่งแวดล้อมพื้นๆ เช่นนี้ ได้ข่าวว่า น้องมายด์ อายุ 26 ปีแล้ว แต่ไม่รู้ว่าตอนนี้เรียนหนังสือในระดับปริญญาตรีจบแล้วหรือไม่ แสดงถึงความไม่รู้จักหน้าที่และความรับผิดชอบต่อตนเอง
[ ข้อ 2. พลเอก ประยุทธ์ ไม่มีความชอบธรรมที่จะลงนามข้อตกลงร่วมกับผู้นำกลุ่มเอเปก และต้องยุติบทบาทการเป็นประธานในที่ประชุมโดยทันที ]
ถ้า พลเอก ประยุทธ์ ไม่มีความชอบธรรม ผู้นำและตัวแทนต่างชาติทั้งหมดก็คงไม่เดินทางมาร่วมในการประชุมในครั้งนี้หรอก ตัวน้องมายด์ เองใหญ่มาจากไหน ถึงได้ทำตัวกร่างและกล้ามาออกคำสั่งผู้นำนานาชาติไม่ต่างจากเด็กโข่งที่เป็นเผด็จการทางความคิด
แถมน้องมายด์ยังฉลาดน้อยและอาจตกเป็นเครื่องมือในการสร้างสถานการณ์รุนแรง เพราะวันที่ 18 พ.ย. นี้ น้องมายด์ไม่มีความจำเป็นต้องออกมาก่อม็อบสร้างปัญหาเลย เดี๋ยว 19 พ.ย. ก็จะมีพิธีส่งมอบการเป็นเจ้าภาพ APEC แก่สหรัฐอเมริกาอยู่แล้ว
ดังนั้น การออกมาอ้างว่า ต้องการหยุด APEC จึงเป็นเพียงแค่โฆษณาชวนเชื่อที่ดูน่าตลกขบขันเสียมากกว่า และไม่ใช่เจตนาที่แท้จริงของคนที่คอยชักใยอยู่เบื้องหลังม็อบอีกด้วย เพราะถ้าต้องการหยุด APEC จริง ต้องหยุดตั้งนานแล้ว ไม่ใช่จะมาหยุดในวันท้ายๆ แบบนี้
[ ข้อ 3.พลเอก ประยุทธ์ ต้องยุบสภา เปิดทางให้มีการเลือกตั้ง จัดให้มีการร่างรัฐธรรมนูญใหม่โดยประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอย่างแท้จริง อันจะทำให้ได้มาซึ่งผู้นำประเทศที่สง่างาม คู่ควรกับการเป็นเจ้าภาพในการประชุมประชาคมโลกในอนาคต ]
อีกไม่นาน พลเอก ประยุทธ์ ก็จะหมดวาระแล้ว ส่วนการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ก็ไม่ได้นำไปสู่การสร้างประชาธิปไตยอย่างแท้จริง เพราะมีคนกลุ่มหนึ่งพยายามช่วงชิงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และคอยชี้นำอย่างบิดเบือน มีแต่จะสร้างความแตกแยกครั้งมโหฬารเท่านั้น
การเคลื่อนไหวของม็อบสามนิ้ว #ราษฎรหยุดAPEC2022 โดยมีน้องมายด์เป็นนักแสดงนำกับ 3 ข้อเรียกร้อง จึงเป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของคนส่วนน้อย มีแต่จะขัดขวางความเจริญและบั่นทอนผลประโยชน์ของประเทศชาติและปวงชนชาวไทยทั้งประเทศ
อีกทั้งการใช้ม็อบสร้างสถานการณ์กดดันนำไปสู่ความรุนแรง จงใจเคลื่อนไหวต้องการให้เกิดการเผชิญหน้า สร้างเงื่อนไขให้เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องปราบปราม แล้วนำภาพมาขยายผลอย่างบิดเบือน ก็เป็นวิธีการสกปรกเดิมๆ ที่ม็อบสามนิ้วกระทำมาโดยตลอด
การเคลื่อนไหวของม็อบสามนิ้วในครั้งนี้ นอกจากจะโดดเดี่ยวจากประชาชน ยังทำตัวเป็นปฏิปักษ์ต่อนานาชาติ เพราะไม่ได้เป็นผลดีต่อมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยตัวแทนประเทศสมาชิก ไม่ต่างจากการจับการประชุม #APEC2022THAILAND เป็นตัวประกัน
แม้ว่าน้องมายด์จะมีทักษะในการพูดและการแสดงที่ดี แต่น้องมายด์ยังเป็นคนฉลาดน้อย จึงยังไม่ฉลาดพอที่จะมองให้เห็นผู้ร้ายตัวจริงที่อยู่เบื้องหลัง ซึ่งคอยสนตะพายหลอกใช้คนรุ่นใหม่เป็นหมากเบี้ย ให้ออกหน้าทำผิดติดคุกติดตะรางแทนตัวเองอย่างอำมหิต
แล้วแทนที่คุณชัชชาติจะช่วยกันเตือนสติและให้ความรู้แก่ม็อบสามนิ้วที่ตนสนิทสนม แต่คุณชัชชาติกลับคอยหล่อเลี้ยงและสนับสนุนการเคลื่อนไหวของม็อบสามนิ้วอนาธิปไตยมาโดยตลอด ถ้าเกิดอะไรขึ้น คุณชัชชาติจะปฏิเสธความรับผิดชอบเป็นเด็กโข่งอีกคนไม่ได้เลย (จากไทยโพสต์)
ขณะเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ยังแชร์ โพสต์ของ “ดร.นิว” ที่ระบุว่า “แกนนำตัวจริง บินไปสุมหัวกันที่ฝรั่งเศส ส่งเด็กโข่ง อายุ 26 เรียน ป.ตรี ไม่จบ ออกหน้าป่วน APEC แทน”
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน จากกรณีกลุ่มราษฎรหยุด APEC2022 ชุมนุมพักค้างการชุมนุมที่ลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) โดย กทม.ยังเปิดพื้นที่ชุมนุมสาธารณะทั้ง 7 แห่งตามปกติ ซึ่งมี 2 กลุ่มขออนุญาตใช้ลานคนเมือง ระหว่างวันที่ 17-18 พฤศจิกายน นอกจากนี้ ยังมีการชุมนุมคู่ขนานกับการประชุมเอเปกที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์ ระบุว่า
“เชิญเข้ามาเที่ยวดูไฟที่กรุงเทพฯกัน ดีไหมครับ กินฟรี เที่ยวฟรี มีรถรับส่งอีกด้วย
เริ่มต้นมาพักที่ลานคนเมืองกันได้เลยพี่น้อง จะได้มีเพื่อนเที่ยวกรุงเทพฯยามราตรีกันแยะๆ ได้ยินชาวบ้านเขาคุยกันครับ ซึ่งผมก็ได้ยินมาอีกเช่นกันว่า “นักท่องเที่ยว” ชุดนี้ อาจจะได้รับโปรโมชัน เป็นแพกเกจพิเศษ เป็นทัวร์แบบ “ลึกซึ้ง” และเป็นแพกเกจระยะยาวด้วย”
แน่นอน, ดูเหมือนคนระดับแกนนำ 3 นิ้วทั้งหลาย จะรู้ตัวดี ว่า การออกมานำ “ป่วน” การประชุมสุดยอดผู้นำ “เอเปก” นั้น ไม่เป็นผลดี และได้ไม่คุ้มเสีย เพราะเท่ากับขัดขวางผลประโยชน์ส่วนรวมของประเทศ และประชาชน แม้ว่าต้องการแสดงออกในเชิงสัญลักษณ์ให้เห็นว่า ประชาชนยังเรียกร้องประชาธิปไตย เรียกร้องสิทธิเสรีภาพ เพื่อประจานต่อผู้นำโลก
ดังนั้น สิ่งที่ทำได้ ก็อย่างที่ “ดร.นิว” ชำแหละ คือ หลอกใช้เด็กที่กำลังต้องการแสดงบทบาททางสังคม ออกหน้าแทน และดูเหมือนไม่หวังผลอะไรมาก นอกจาก “สร้างกระแส” เคลื่อนไหวเท่านั้น
จึงไม่แปลกที่จะมีคำเยาะเย้ยม็อบว่า “ชุมนุมโดยสงัด” เพราะไม่มีคนไปร่วมมากมาย อย่างที่ตั้งใจไว้นั่นเอง