xs
xsm
sm
md
lg

“อนุทิน” ย้ำ กม.กัญชาฯ คิดรอบคอบแล้ว นึกไม่ถึงพรรคร่วมผิดสัตยาบัน ชี้ ภท.มีมารยาทซักฟอกก็ยกมือให้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รมว.สธ. ลั่น ภท. ดัน กม.กัญชาฯ คิดรอบคอบแล้ว แค่นึกไม่ถึงเจอพรรคร่วมขวาง ซัดผิดสัตยาบันการอยู่ร่วม ยันภูมิใจไทย มีมารยาท-กาลเทศะ หนุนทุกนโยบาย แม้แต่ รมต.ต่างพรรคถูกโหวตซักฟอก ก็ยกมือให้

วันนี้ (17 พ.ย.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ซักถามประกาศกฎกระทรวงสาธารณสุข เรื่องสมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ. 2565 ว่า การลงนามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข เป็นการลงนามตามมติของคณะกรรมการส่งเสริมและควบคุมพืชสมุนไพร ซึ่งตามกฎหมาย รมว.สาธารณสุข จะต้องลงนามเมื่อคณะกรรมการมีความเห็นชอบตนก็ทำตามหน้าที่ เมื่อลงนามแล้วจะเป็นการสร้างความชัดเจน เราจะควบคุมการใช้กัญชาอย่างไรให้ลดความวิตกกังวลของสาธารณะ เมื่อรัฐมนตรีลงนามแล้วได้ส่งมายังสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
 
ผู้สื่อข่าวถามว่า ครม.มีการสอบถามความชัดเจนในเรื่องดังกล่าว นายอนุทิน กล่าวว่า คงเป็นความเข้าใจผิดอะไรบางอย่างเพราะการประกาศของกระทรวงต่างๆ เป็นอำนาจของรัฐมนตรีแต่ละกระทรวง ซึ่งเป็นผู้รักษาราชการตามกฎหมายนั้นอยู่แล้ว ไม่ต้องเข้ามาขอความเห็นชอบหรือขอมติใดๆ จาก ครม. ดังนั้น ถ้า ครม.มีประเด็นสงสัยอย่างไรก็ถามได้ ยินดีตอบ แต่ไม่ใช่ว่าต้องเข้า ครม.ก่อนแล้วจึงจะนำไปประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นคนละประเด็นกัน ไม่มีขั้นตอนนั้น ซึ่งการประชุม ครม.ครั้งที่ผ่านมา ตนติดภารกิจที่ต่างประเทศ ถ้าอยู่ด้วยก็จบไปแล้ว
 
เมื่อถามว่า เบื้องต้นได้อธิบายให้นายกฯเข้าใจหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า อธิบายแล้ว เพราะถ้าเป็นเรื่องที่นายกฯมีความสงสัยตนก็ต้องกราบเรียนอยู่แล้ว และการประชุม ครม.ในวันนั้น นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข คงไม่ได้ดูเรื่องนี้ในรายละเอียด เมื่อนายกฯให้ชี้แจงเลยไม่สะดวกที่จะชี้แจง โดยส่วนตัวอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก ก็ถูกเรียกตัวมาด่วนโดยที่ไม่ได้เตรียมข้อมูล ซึ่งจริงๆ แล้วตนลืมไปนิด เพราะมันเป็นเรื่องของรัฐมนตรีว่าการ คือ ตัวตนเอง หน้าจะรอสักนิดตนก็จะสามารถชี้แจงทุกอย่าง เรื่องนี้เป็นการใช้ พ.ร.บ.มาควบคุม เพราะคนห่วงเรื่องเยาวชน เราก็ย้ำไปว่า เยาวชนเข้าไม่ถึงแน่นอน ห้ามขายแก่นักเรียนนักศึกษา คนก็ถามอีกว่าทำไมไม่ห้ามขายในสถานศึกษา เพราะสถานศึกษาบางแห่งที่มีคณะแพทยศาสตร์ ถ้าเขานำมาวิจัยหรือใช้ทดลองศึกษาก็จะต้องมานั่งแก้ตีความอะไรกันอีกมากมาย จึงได้บอกว่าห้ามขายนักเรียนนักศึกษา ซึ่งไม่ใช่เฉพาะอายุ 20 ปี ถ้าเป็นเด็กโข่งก็ซื้อไม่ได้ถ้ายังมีสถานะภาพนักศึกษา ซึ่งค่อนข้างเป็นความละเอียด แต่จะดีที่สุดคือออกกฎหมาย
 
“ทุกคนบอกเป็นห่วง ทุกคนบอกมีความกังวล โดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาล แต่พอบอกออกกฎหมายกับบอกว่าไม่เอาจะเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติดมันคนละเรื่อง การเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติดมันจะย้อนแย้งกับนโยบายของรัฐบาล ตอนเข้ามาจะมาบอกว่าไม่รู้เรื่องก็ไม่ได้ เพราะพรรคภูมิใจไทยหาเสียงเรื่องกัญชามาตั้งแต่ตอนหาเสียงเลือกตั้งแล้ว และตอนมาฟอร์มรัฐบาลทุกพรรคก็ยอมรับนโยบายของแต่ละพรรค พรรคภูมิใจไทยก็ยอมรับนโยบายทางการเกษตร นโยบายคนละครึ่ง นโยบายสิ่งแวดล้อม ของพรรคร่วมรัฐบาล ถ้าถามถึงมารยาทพรรคภูมิใจไทยก็ยกมือสนับสนุนเวลามีมติอะไรต่างๆของรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งมติไม่ไว้วางใจพรรคภูมิใจไทยก็ยกมือสนับสนุนให้กับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล หรือรัฐมนตรีที่โดนอภิปรายทุกคน รัฐมนตรีบางคนเป็นหัวหน้าพรรคบางทีพรรคนั้นยังไม่สนับสนุนเลย แต่พรรคภูมิใจไทยสนับสนุนทุกคน บางทีลูกพรรคตัวเองยังไม่สนับสนุน แต่พรรคภูมิใจไทยสนับสนุนทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคนที่เป็นสมาชิกตั้งแต่ดั้งเดิมหรือมาร่วมทีหลังก็ยกมือสนับสนุน ตอนเข้ามา 51 คนเราก็ยกมือทั้ง 51 คน ตอนนี้เรามี 60 กว่าคน อีก 10 กว่าคนเราก็ยกให้ ถ้าถามถึงเรื่องมารยาทนี่คือคำตอบ เรามีทั้งมารยาทและกาลเทศะทุกๆ อย่าง” นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามว่า ได้คุยกับคณะกรรมการป้อกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) อาจจะกลับไปนำกัญชาเป็นยาเสพติด นายอนุทิน กล่าวว่า มันคุยไม่ได้เพราะกัญชาไม่ได้เป็นยาเสพติดแล้ว คณะกรรมการ ป.ป.ส.เป็นผู้มีมติให้กัญชาออกจากยาเสพติดประเภทที่ 5 เมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ส.มีมติ รมว.สาธารณสุข ต้องลงนามเป็นไปตาม พ.ร.บ. เช่นเดียวกับเรื่องการใช้ประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องควบคุมช่อดอกกัญชา ในเมื่อกัญชาไม่ได้เป็นยาเสพติดมันก็ไม่มีอะไรที่จะต้อเกี่ยวข้องกับคณะกรรมการ ป.ป.ส. ถ้าบอกว่าจะเอากลับไปเป็นยาเสพติดใหม่ก็ต้องเริ่มกระบวนการใหม่หมด โดยเรื่องจากคณะกรรมการควบคุมการใช้ยาเสพติดของกระทรวงสาธารณสุข แล้วใครเป็น รมว.สาธารณสุข มันก็วกไปวนมา ซึ่งจริงๆ แล้วต่างคนต้องต่างทำหน้าที่ของตนเองจะดีที่สุด สนับสนุนซึ่งกันและกันเพื่อความมีเสถียรภาพของรัฐบาล และรู้จักการอยู่ด้วยกัน เพื่อสร้างสรรค์ทำให้เกิดความเป็นปึกแผ่น ทำให้ประเทศของเราสามารถเดินหน้าไปได้ มีความสามัคคี รัฐบาลถ้ามีความสามัคคี รัฐบาลก็เข้มแข็ง ความเชื่อมั่นของนักลงทุนและทุกภาคส่วนก็เกิดขึ้น สิ่งเหล่านี้โชคดีที่พรรคภูมิใจไทยยังยึดถือปฏิบัติมาโดยตลอด ตนยึดถือมากๆ ในกติกาของการอยู่ร่วมกัน
 
เมื่อถามว่า คาดว่า หลังเอเปกจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาได้ทันใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า กฎหมายอยู่ในสภาอยู่แล้ว การที่จะบอกว่าพรรคภูมิใจไทยไม่รอบคอบหรือกระทรวงสาธารณสุขหรือตนไม่รอบคอบในการออกกฎหมายไม่ใช่เลย เรามีระยะเวลา
 
“ถ้าอยู่ในพรรคร่วมรัฐบาลด้วยความเข้าใจกฎหมายแบบนี้ก็เสร็จแล้ว และจะผ่านขั้นตอนไปถึงวุฒิสภาแล้ว ไม่รอบคอบอยู่อย่างเดียว คือ นึกไม่ถึงว่าพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเองจะมาขวางกันเอง นี่คือความไม่รอบคอบของผม” นายอนุทิน กล่าว
 
เมื่อถามว่า มั่นใจว่า เรื่องนี้จะเสร็จทันก่อนการเลือกตั้งครั้งต่อไปหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าเสร็จไม่ทันก็เอามาหาเสียงบอกกับพี่น้องประชาชนว่าเราถูกขวางอย่างไร ขอให้ประชาชนได้สนับสนุน เพราะมันมาเกือบจะถึงเส้นชัยอยู่แล้ว ยังไงก็หยุดไม่ได้ นโยบายใครนโยบายมัน ถ้าจะมาอยู่ร่วมกันก็ต้องสนับสนุน เพราะไม่ใช่นโยบายที่ผิดกฎหมาย และยังไม่เห็นอะไรที่ก่อให้เกิดความเสียหายตามที่พูดเลย ไม่เอากัญชาแต่เอาเหล้าก้าวหน้า อย่างนี้มันก็นะ เมื่อถามว่า จะนำไปสู่การพิจารณาการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันในครั้งต่อไปหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไว้เลือกตั้งเสร็จ เราอย่าเพิ่งไปพูดกันถึงเรื่องรัฐบาลต่อไป เอาว่าใครทำงานเยอะ ทำแล้วเกิดประโยชน์กับประชาชนแค่ไหน ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน วันนี้เรายังทำงานเดินหน้าต่อยอด
 
เมื่อถามว่า เรื่องการฟ้องศาลปกครองเพื่อยกเลิกประกาศ สธ. นายอนุทิน กล่าวว่า เราไปห้ามคนไปฟ้องศาลปกครองไม่ได้ แต่ฟ้องแล้วจะฟ้องอย่างไร ฟ้องให้ยกเลิกอย่างนั้นหรอ ซึ่งก็แล้วแต่ศาล คณะกรรมการ ป.ป.ส.คงอยากทราบว่าทำไมเขาไปฟ้อง ซึ่งก็ต้องไปถามคนฟ้อง มาถามกรรมการด้วยกันเองไม่มีใครไปฟ้อง แต่ก็มีหลายประเด็น คนที่ไปฟ้องได้รับผลกระทบโดยตรงหรือเปล่า และเกิน 3 เดือนหรือยัง มีปัญหาอะไรที่ทำให้ประเทศเกิดความระส่ำระสายเกิดโกลาหลหรือเปล่า ก็ไม่มี เมื่อถามว่ามีการนำไปตีความว่าจะมีการพิจารณายกเลิกประกาศของ สธ.หรือไม่ จริงๆ แล้ว จะมีการพิจารณาตรงนี้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า การจะเอาเข้าเอาออกมันมีขั้นตอน ต้องมีการประชุมคณะกรรมการ ไม่ใช่อยู่ดีๆ ใครจะเอาบรรจุเข้ามาแล้วเปลี่ยนโน่นเปลี่ยนนี่ ประเด็นคือกัญชา ณ วันนี้ไม่ใช่ยาเสพติด ประกาศโดย ป.ป.ส. เมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา เพิ่งจะไม่กี่เดือน แล้วตอนนี้จะมาเป็นยาเสพติดคนพูดก็พูดไป คนพูดไม่ได้เป็น รมว.สาธารณสุข ไม่ได้รับผิดชอบ ป.ป.ส. พูดในสภาก็พูดไป หาเสียง
 
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ มีเสวนาของพรรคการเมืองหนึ่งได้หยิบยกประเทศอื่นๆ เช่น ญี่ปุ่นไม่มีการใช้กัญชา แต่ล่าสุด ที่นายอนุทินไปยังพบว่ามี นายอนุทิน กล่าวว่า ก็ถ่ายรูปมาให้ดู โอ้โหใช้มากกว่าเราอีก ตนได้ถามเขาทราบว่าเป็นสินค้าที่ควบคุม มีมวน พันลำด้วย ขายอยู่ในห้างสรรพสินค้า คนไทยไปก็เห็นหมด ตนก็ยังงงเพราะตนก็ถูกให้ข้อมูลมาและเราก็ไม่ได้ศึกษาที่ญี่ปุ่น เราก็เป็นตัวของเราไม่ได้ตามใคร แต่มีคนเคยให้ข้อมูลมีฝ่ายที่ต่อต้านบอกว่าญี่ปุ่นไม่เห็นใช้ เขาห้ามใช้ โอ้โหเต็มตู้เลย เมื่อถามว่าเขาเน้นสารสกัดซีบีดี หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า แล้วเราไม่เน้นซีบีดีตรงไหน
 
เมื่อถามว่า ของเรามีสูตรที่มีสารทีเอชซี ด้วย นายอนุทิน กล่าวว่า ทีเอชซีตรงเกิน 0.2 ซึ่งมันไม่เกินใบนึงยังไงก็ไม่เกิน แล้วบอกว่าปลูกในบ้านกลัวจะมอมเมาเยาวชน แต่เหล้าบุหรี่กลับวางไว้ในบ้านได้ อันนั้นเปิดปุ๊บดื่มปั๊บ กัญชาที่ปลูกในบ้านกว่าจะเอามามวนสูบได้ต้องผ่านกระบวนการช่อดอกตากแห้ง เอาไปยำรวมใบยาสูบ อะไรต่างๆ ซึ่งมันไม่ใช่ ถ้าจะปลูกในบ้านผู้ใหญ่ต้องบอกเด็กเอาไว้ทำประโยชน์เอาใบไปปรุงอาหารไม่มีปัญหา หรือจะใช้อะไรในบ้านไม่มีปัญหาแต่จะใช้ข้างนอกไม่ได้ เพราะประกาศกระทรวงสาธารณสุขบอกว่าห้ามในที่สาธารณะเขียนไว้ชัดเจนทุกอย่างห้ามช่อดอก ซึ่งต้องนี้ค่อนข้างจะเกินคำว่าเสรี ค่อนข้างควบคุมเป็นอันมาก แต่การใช้ประกาศควบคุมมันดี ถ้าคนเข้าใจดีขึ้นมีความคุ้นชินใช้แต่ในด้านที่เป็นประโยชน์ซึ่งประกาศเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ยกเลิกได้ ปรับปรุงได้ เปลี่ยนแปลงได้ แต่ถ้าเป็นกฎมายไปกำหนดบางเรื่องอาจจะปรับปรุงแก้ไขลำบาก ดังนั้น จึงมี 2 อัน ทั้งส่วนที่เป็นประกาศและส่วนที่เป็นกฎหมาย กฎหมายเพื่อควบคุมการใช้ในทางที่ผิด ถ้าห่วงว่าคนจะเอาไปใช้ในทางที่ผิดต้องออกกฎหมาย
 
“แต่ไม่ใช่ว่าห่วงปุ๊บกฎหมายไม่ให้ออก แล้วบอกจะเอากลับไปเป็นยาเสพติดแบบนี้มันผิดสัตยาบันในการร่วมรัฐบาล” นายอนุทิน กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น