xs
xsm
sm
md
lg

“อนุทิน” ไม่คืนกัญชาเป็นยาเสพติด ชูประโยชน์ไม่ทำใครตาย ชี้ ค้านไม่ทำการบ้านหวั่น ภท.คะแนนพุ่ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“เสี่ยหนู” แจงเหตุ “ไม่ถอย” เอากัญชากลับเป็นยาเสพติด ชี้ ไม่ติดง่าย ไม่ทำให้ใครตาย มีประโยชน์ ย้อนพรรคที่ต่อต้านไม่ได้ทำการบ้าน ไม่อ่านร่างกฎหมาย ไร้หลักการรับวาระแรกแล้วคว่ำวาระสอง เหตุ ภท.ได้คะแนนนิยมมากเกินไป ย้ำ เคารพการตัดสินใจทุกคน

วันนี้ (13 พ.ย.) จากกระแสข่าวการรุกหนักจากฝ่ายค้าน กับความพยายามยื่นคำร้องเพื่อถอนประกาศถอดกัญชาจากความเป็นยาเสพติด ล่าสุด วันที่ 13 พฤศจิกายน 2565 มีรายงานว่า ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ว่า มีความหวั่นไหวหรือไม่กับกระแสต้านที่เกิดขึ้นก่อน พรบ.กัญชาฯกลับเข้าสภา โดยนายอนุทินได้ตอบว่า

“ยอมรับว่า ความหวั่นไหวเคยมี แต่ไม่ใช่ช่วงนี้ มันเกิดขึ้นช่วงแรกๆ ด้วยความที่เราศึกษาเกี่ยวกับกัญชาระหว่างทำนโยบายมานานหลายปีนะครับ เราลืมไปว่ามีคนบางส่วน เขาไม่ได้มาอัปเดตข้อมูลความรู้เหมือนกับเรา พอมีประกาศปลดล็อกกัญชาปุ๊บ เขาตกใจ ไอ้เราก็ตกใจที่เขาตกใจ แล้วก็ค่อยๆ มาตกผลึกว่า อ๋อ เขายังติดอยู่กับความเข้าใจเดิม ว่ากัญชาเป็นยาเสพติด แล้วภาพในหัวมันจะไม่ต่างกับยาบ้า ในขณะที่เราขลุกอยู่กับแพทย์ที่ใช้กัญชารักษาคนมาหลายปี เราได้ฟังการนำเสนองานวิจัยและสถิติต่างๆจากต่างประเทศ เราได้รู้ว่ากัญชาไม่ได้ติดง่าย เมื่อเทียบกับเหล้าบุหรี่ ไม่เคยทำให้ใครตาย แต่กัญชามีประโยชน์มหาศาล ทำผลิตภัณฑ์ได้หลายอย่าง เป็นโอกาสทางเศรษฐกิจ แถมอยู่คู่ภูมิปัญญาไทยมานานด้วย สิ่งเหล่านี้คนทั่วไปไม่รู้เลย แต่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดรู้ เขาจึงได้ให้ถอนกัญชาออกจากความเป็นยาเสพติด”

เมื่อถามว่า เหตุใดความหวั่นไหวนั้นจึงหายไป นายอนุทิน ตอบว่า “ก็เป็นธรรมชาติของเรามาตลอดชีวิต เจอปัญหาก็แก้ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ คนไม่เข้าใจก็สร้างความเข้าใจ มีคณะทำงาน มีการให้ความรู้ในแอพปลูกกัญ ประชาชนตื่นตัวกันมากนะครับ เครือข่ายกัญชาต่างๆ เขารู้มากกว่าผมอีก ในที่สุดวันนี้พูดได้เลยว่าคนเข้าใจกัญชามากขึ้นกว่าเดิมมาก ถ้าไม่อคตินะครับ ถ้าศึกษาจริงๆ อย่าลืมว่ามันเป็นพืช เป็นสมุนไพร เราใช้ดีๆ ก็เป็นประโยชน์ได้ ชาวบ้านเขาต้มชาช่วยให้หลับสบาย เอาใบมาชูรสอาหาร เอามาทำน้ำมัน ทำยามานานแล้ว ก่อนที่ฝรั่งจะเอาไปล็อคไว้ หลายคนมาเล่าประวัติศาสตร์ว่า สูบแล้วมันผ่อนคลายเกินไป สมัยก่อนส่งทหารมารบแล้วมีปัญหา เพราะอารมณ์ดีจนขี้เกียจไปก็ไม่มีอารมณ์จะสู้รบ อันนี้ผมไม่รู้จริงมั้ย เพราะก็ไม่ได้สนใจ ในเมื่อเรารู้แล้วว่าประโยชน์มันมี และโทษมันควบคุมได้ ทำไมเราจะไม่เอามันคืนให้คนไทยได้ใช้งาน ผมคิดแค่นี้ ประโยชน์มีมากเหนือโทษ​ คนควรจะหยิบไปทิ้งหรือหยิบมาใช้ครับ เชือกอยู่ในบ้าน ทำอะไรได้ตั้งหลายอย่าง ทำไมจะไปคิดว่าคนจะเอาไปทำสิ่งไม่ดีไม่งาม เอาไปทำอันตราย แล้วเราต้องไปทำให้เชือกมันผิดกฎหมาย ใครมีต้องเอาไปขังคุก เราทำอย่างนั้นมั้ย จะไปโทษเชือกได้อย่างไร อยู่ที่คนนำไปใช้ประโยชน์ แล้วทำไมเราจะไปทำกับพืชสมุนไพรกัญชา ทั้งที่มันมีประโยชน์มากมาย”
นอกจากนี้ยังกล่าวเสริมว่า “โลกนี้ไม่มีอะไรคุมได้ร้อยเปอร์เซ็นต์นะ แต่ในการบริหารบ้านเมือง เราต้องชั่งน้ำหนักครับ ต้องชั่งน้ำหนัก อันนี้สำคัญมาก ไม่งั้นไม่ต้องทำอะไรกันเลย ขับรถก็ไม่ได้เดี๋ยวรถชน ใช่มั้ย มันไม่ใช่ นักบริหารต้องมีเกณฑ์ในการตัดสินใจกับทุกนโยบาย เกณฑ์นั้นคืออะไร คือการชั่งน้ำหนัก ประโยชน์มีแค่ไหน โทษมีแค่ไหน ถ้าประโยชน์เหนือโทษแล้วจะจำกัดความเสี่ยงยังไง การจำกัดความเสี่ยงไม่ได้แปลว่าความเสี่ยงจะเป็นศูนย์ ถ้าจะให้ความเสี่ยงเป็นศูนย์คือห้ามขับรถ แต่จำกัดความเสี่ยงคือการสร้างกฎ จำกัดความเร็ว จำกัดอายุความสามารถผู้ขับขี่ แล้วมีตำรวจจราจร เป็นแบบนี้ มนุษย์เราจึงก้าวหน้าไปได้ทุกวัน”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่า ทำไมจึงยังมีคนต้าน ถึงขั้นจะคว่ำ พ.ร.บ.กัญชาฯ เสนอให้เอากลับไปเป็นยาเสพติด นายอนุทิน ตอบว่า ตนก็ยังงงเหมือนกัน พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า

“พรรคการเมืองทุกพรรคไม่กล้าพูดสักพรรคว่าไม่เอากัญชาเลย พรรคการเมืองล้วนสนับสนุนกัญชาทางการแพทย์ เพราะกลัวเสียคะแนน แต่พอจะทำกฎหมายให้ควบคุมกัญชากลับออกมาต้าน ย้อนแย้งมั้ย” ก่อนเสริมว่า “พรรคภูมิใจไทยสัญญาว่าจะปลดล็อก คืนกัญชาให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ สร้างรายได้ เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ เรื่องการออก พ.ร.บ.ไม่ได้อยู่ในคำสัญญาของเรานะครับ แต่เราริเริ่มทำเพื่อตอบสนองต่อข้อห่วงใยของทุกฝ่าย แล้วสภาก็รับไปปรับปรุงต่อ ถ้าไม่ผ่านใครจะรับผิดชอบกับความต้องการของประชาชนในส่วนนี้ ในส่วนของเราที่พูดไป เราทำหมดแล้ว”

เมื่อถามว่า คิดว่าสุดท้าย พรบ.กัญชา จะผ่านหรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่า “ไม่คิดครับ คือไม่คิดเลยว่าจะผ่านไม่ผ่าน เราทำหน้าที่ของเราสมบูรณ์แล้ว วันนี้กัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจ วันนี้กัญชาคือสมุนไพร ผมคืนกัญชาให้ประชาชนแล้ว ผมออกกฎกำกับดูแลเท่าที่ขอบเขตอำนาจผมจะทำได้แล้ว ผมเสนอร่าง พ.ร.บ.จนคณะกรรมาธิการของสภานำไปพิจารณาต่อยอดเพิ่มเติมไปอีกห้าสิบมาตราแล้ว ถ้าสุดท้ายสภาไม่เอาสิ่งที่ร่วมกันสร้างมา ไม่เป็นไร สมัยหน้าผมเสนอใหม่”

เมื่อถามถึงข้อกล่าวหาถึงความไม่รอบคอบที่ปลดล็อคก่อนมีกฎหมายควบคุม นายอนุทิน ยืนยันว่า “ความรอบคอบในความที่ผมเป็นคนทำงานและเป็นผู้บริหาร คือ การที่ผมได้ให้กระทรวงสาธารณสุขออกระเบียบเป็นประกาศกระทรวงเพื่อให้การดำเนินนโยบายกัญชา กัญชงไม่สะดุด เพราะคาดไว้ระดับหนึ่งว่าจะต้องมีผู้ขัดขวางการออกกฎหมายด้วยเหตุผลในทางการเมืองซึ่งก็คือ การกลัวพรรคภูมิใจไทยของผมได้รับความนิยมจากพี่น้องประชาชนมากเกินไป ดูได้จากคำพูดของสมาชิกพรรคที่ต่อต้านก็เข้าใจได้เลยว่า พวกเขาไม่ได้ทำการบ้าน ไม่ได้อ่านร่างกฎหมาย ไม่มีหลักการ รับวาระแรกแล้วจะคว่ำวาระสอง ไม่รักประชาชน”

พร้อมทิ้งท้ายว่า “เราเคารพกันครับ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันจนครบถ้วนแล้ว เป็นประชาธิปไตยกัน สุดท้ายผมเคารพการตัดสินใจของทุกคน”


กำลังโหลดความคิดเห็น