xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิรัตน์” เผย “สร้างอนาคตไทย” วางนโยบายสิ่งแวดล้อม-เศรษฐกิจสีเขียว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สำนักงาน กขค.” จัดการประชุมกลุ่มผู้เชี่ยวชาญกฎหมาย-นโยบายแข่งขันเอเปก เสนอ 3 แผนงานประจำปี เน้นส่งเสริมการแข่งขันที่เสรี-เป็นธรรมในตลาดดิจิทัล พร้อมเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน “สนธิรัตน์” ร่วมปาฐกถาพิเศษ ยก “BCG โมเดล” หัวใจสำคัญการขับเคลื่อน ระบุ “สร้างอนาคตไทย” วางนโยบายสิ่งแวดล้อม-เศรษฐกิจสีเขียว

วันนี้ (9 พ.ย.) ที่โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กทม. (รางน้ำ) สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (สำนักงาน กขค.) จัดการประชุมกลุ่มผู้เชี่ยวชาญกฎหมายและนโยบายแข่งขันเอเปค หรือ APEC Competition Policy and Law Group (CPLG) ประจำปี 2565 และงานสัมมนาในหัวข้อ “กฎหมายแข่งขันและการพัฒนาอย่างยั่งยืน” มีผู้เข้าร่วมสัมมนา อาทิ นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ ผู้แทนจากหน่วยงานกำกับดูแลการแข่งขันสมาชิกเอเปก รวมถึงหน่วยงานหลัก ซึ่งขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจและการคุ้มครองธรรมชาติ อาทิ กรมการค้าภายใน กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน และสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย ในฐานะอดีต รมว.พลังงาน และอดีต รมว.พาณิชย์ ได้ร่วมกล่าวปากฐาพิเศษในหัวข้อ “เป้าหมายกรุงเทพด้านเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว-มิติความเชื่อมโยงระหว่างกฎหมายแข่งขันและการพัฒนาอย่างยั่งยืน” ในงานนี้ด้วย

นายกฤษฎา เปี่ยมพงศ์สานต์ อดีตรองประธานกรรมการการแข่งขันทางการค้า ซึ่งยังคงดำรงตำแหน่งประธานในการประชุมของกลุ่มในปี 2565-2566 ในฐานะประธานการประชุม เปิดเผยว่า การประชุมกลุ่มผู้เชี่ยวชาญกฎหมายและนโยบายแข่งขันเอเปก เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนแนวคิดและประสบการณ์ระหว่างหน่วยงานการกำกับดูแลการแข่งขันทางการค้าทั่วเอเปกจาก 21 เขตเศรษฐกิจสมาชิก โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมบทบาทของหน่วยงานกำกับดูแลการแข่งขันทางการค้าในการเสริมสร้างและฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังจากสถานการณ์วิกฤติโควิด-19 และผลักดันเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อบรรเทาสถานการณ์ภาวะโลกร้อน ยกระดับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและความเป็นอยู่ของประชาชนทั่วทั้งภูมิภาคอย่างทั่วถึง

“ในโอกาสนี้ ได้เสนอวาระและแผนประจำปีของกลุ่มผู้เชี่ยวชาญกฎหมายและนโยบายแข่งขันเอเปค ใน 3 ประเด็นหลักแก่กลุ่มฯ ได้แก่ 1. การสนับสนุนการฟื้นฟูหลังวิกฤตโควิด-19  2. การกำกับดูแลและส่งเสริมการแข่งขันที่เสรีและเป็นธรรมในตลาดดิจิทัล และ 3. การสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน” นายกฤษฎา ระบุ


ศ.ดร.สกนธ์ วรัญญูวัฒนา ประธานกรรมการการแข่งขันทางการค้า กล่าวเสริมว่า งานสัมมนาในครั้งนี้เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนแนวคิด ประสบการณ์ และข้อเสนอแนะการบังคับใช้และพัฒนากฎหมายการแข่งขันทางการค้าเพื่อสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืน และการเติบโตในเศรษฐกิจชีวภาพ – เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว เอเปค (APEC) หรือความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชีย-แปซิฟิก เป็นการรวมตัวระหว่าง 21 เขตเศรษฐกิจในภูมิภาคฯ เพื่อส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจผ่านการสนับสนุนการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ โดยมูลค่าการค้าการลงทุนกับสมาชิกเอเปค นับเป็นมูลค่ากว่า 70% ของมูลค่าการค้าการลงทุนของไทย กลุ่ม CPLG นั้น เป็น working group หนึ่งของเอเปคฯ และเป็นเวทีสำหรับการแลกเปลี่ยนแนวคิด นโยบาย และแนวทางปฏิบัติอันเป็นเลิศในการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืนผ่านการสนับสนุนและอำนวยความสะดวกการค้าการลงทุนที่เสรีและเป็นธรรม และความร่วมมือทางเทคนิคระหว่างประเทศสมาชิก

“ในปี 2565 ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมเอเปค และชูหัวข้อ “เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล” อันเป็นการส่งเสริมการฟื้นฟูเศรษฐกิจและความเชื่อมโยงหลังวิกฤตการณ์โควิด-19 และจำนำเสนอโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว หรือ BCG Model” ศ.ดร.สกนธ์ กล่าว

ศ.ดร.สกนธ์ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ เพื่อการพัฒนาภูมิภาคไปสู่การเจริญเติบโตอย่างครอบคลุม ยกระดับความเชื่อมโยงระหว่างเขตเศรษฐกิจสมาชิก พร้อมทั้งขับเคลื่อนภูมิภาคเอเชีย–แปซิฟิกเข้าสู่โลกยุคหลังสถานการณ์โควิด-19 ที่ยั่งยืนและสมดุลผ่านแนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว หรือ BCG Economy Model รวมถึงส่งเสริมและสร้างเครือข่ายระหว่างสำนักงาน กขค. และหน่วยงานกำกับดูแลการแข่งขันทางการค้าอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก รวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายการแข่งขันทางการค้าทั่วโลก เพื่อส่งเสริมบทบาท ของไทยในฐานะผู้นำด้านการกำกับดูแลการแข่งขันทางการค้าในภูมิภาค


ด้าน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังการกล่าวปาฐกพิเศษ ว่า เรายึดเรื่องการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียวเป็นเรื่องสำคัญ ถือเป็นธีมการประชุมผู้นำเอเปคที่จัดในประเทศไทยครั้งนี้ ตนได้รับเชิญจากสำนักงาน กขค. มาร่วมปาฐกถา ซึ่งตนได้พูดถึงเรื่องการที่ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการกำกับดูแลแข่งขันทางการค้าทั้งโลก โดยเน้นที่สมาชิกเอเปค จะต้องให้ความสนใจในการขับเคลื่อนเรื่องสภาวะโลกร้อน ดังนั้น BCG โมเดล จะเป็นหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนให้กับทุกภาคส่วน หน่วยงานที่ควบคุมกำกับการแข่งขันควรใช้กลไกในการช่วยผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่เรื่อง BCG โมเดล เน้นทั้งเรื่องการกำกับดูแล การใส่แรงจูงใจ การช่วยกันพลิกฟื้น เพราะสภาวะโลกร้อนเป็นเรื่องหญ่ทั่วโลกในอนาคตไทย

นายสนธิรัตน์ กล่าวต่อว่า กลไกของสำนักงาน กขค. นั้น นอกเหนือจากการกำกับในรูปแบบเดิม การให้ความสำคัญกับความยั่งยืนของโลกคือมิติใหม่ที่ควรใช้ในการผลักดันเชิงนโยบายและการกำกับดูแลต่อไป โลกเปลี่ยนแปลงเร็ว รวมถึงเรื่องสภาวะโลกร้อนเป็นเรื่องใหญ่ กฎหมายต้องปรับตัวให้ทัน ต้องเติมเรื่องของสภาวะโลกร้อนเข้าไปในตัวกฎหมายด้วย

“สำหรับพรรคสร้างอนาคตไทย เราให้ความสำคัญเชิงนโยบายกับเรื่องสิ่งแวดล้อม เพราะสภาวะโลกร้อนไม่ได้ส่งผลกระทบแค่ในประเทศไทย แต่ส่งผลทั้งโลก และในฐานะพรรคการเมืองต้องมีส่วนรับผิดชอบในการรักษาสิ่งแวดล้อมเรื่องนี้อยู่แล้ว” นายสนธิรัตน์ ระบุ







กำลังโหลดความคิดเห็น