กลุ่มผู้บริโภคมือถือยื่นหนังสือเรียกร้อง “สภาองค์กรของผู้บริโภค” วางตัวเป็นกลาง รับฟังเสียงผู้บริโภคอย่างเท่าเทียม มั่นใจควบรวมทรู-ดีแทค ผู้บริโภคได้ประโยชน์ ผู้ประกอบการแข่งขันกันพัฒนาเทคโนโลยี เพิ่มสิทธิประโยชน์ให้ลูกค้า เชื่อ ไม่กระทบราคา เหตุ กสทช. มีเพดานกำหนดไว้แล้ว
จากกรณีที่สภาองค์กรของผู้บริโภค เป็นผู้เปิดล่ารายชื่อผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการควบรวม ‘ทรู-ดีแทค’ โดยให้ประชาชนเข้าร่วมลงชื่อผ่านเว็บไซต์ และเพจเฟซบุ๊กของสภาองค์กรของผู้บริโภคนั้น ล่าสุด ในวันนี้ (8 พ.ย.) ตัวแทนกลุ่มผู้บริโภค ผู้ใช้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ของค่ายทรูและค่ายดีแทค นำโดย นายคงชัช แก้วสุขโข ตัวแทนผู้ใช้บริการดีแทค และ นายจิราวัฒน์ พีรศกดิ์ภักดี ตัวแทนผู้ใช้บริการทรู ซึ่งมาในนาม ‘กลุ่มผู้บริโภค ผู้ใช้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ของค่ายทรูและค่ายดีแทค’ รวมตัวกันเดินทางเข้ายื่นหนังสือเรียกร้องต่อสภาองค์กรของผู้บริโภค ขอให้รับฟังความคิดเห็นและความต้องการของลูกค้าในกลุ่มที่อยากให้มีการควบรวมด้วยโดยเร็ว เนื่องจากเกิดความสงสัยถึงความไม่ชอบธรรมและไม่เป็นกลาง และเห็นว่าสภาฯ ควรเป็นตัวแทนผู้บริโภคและต้องรับฟังความคิดเห็นของผู้บริโภคตัวจริงทุกฝ่าย พร้อมทั้งขอเรียกร้องให้สภาวางตัวเป็นกลางให้ข้อมูลที่รอบด้าน และคุ้มครองผู้บริโภคทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมกัน
นายคงชัช เปิดเผยถึงเหตุผลในการเดินทางเข้ายื่นข้อเรียกร้องครั้งนี้ ว่า กลุ่มผู้บริโภคทรู-ดีแทค มองเห็นข้อมูลอีกด้าน ซึ่งสภาองค์กรของผู้บริโภค ไม่เคยเลยที่จะนำเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบ ทั้งที่เป็นประโยชน์ของกลุ่มผู้ใช้บริการทรู-ดีแทค และประชาชนทั่วไปควรรับทราบ โดยเฉพาะประโยชน์ที่ชัดเจนที่ลูกค้าแต่ละค่ายจะได้รับจากการควบรวมครั้งนี้ ตัวอย่างเช่น ลูกค้าดีแทค จะได้ใช้สิ่งอำนวยความสะดวกที่ทรูมีอยู่หลังจากการรวมกิจการ ทั้งเรื่อง เครือข่ายทรู 5G ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ อินเทอร์เน็ตบ้านทรูออนไลน์ เคเบิลทีวีทรูวิชั่นส์ และคอนเทนต์จากทรูไอดี รวมถึงจำนวนศูนย์บริการที่มีจำนวนมาก และสิทธิประโยชน์จากทรูยู รวมถึงบริการอื่นๆ ของทรู เช่น ทรูเฮลท์ ทรูมันนี่ ตลอดจนสิทธิพิเศษอื่นๆ ที่ได้จากการเป็นลูกค้าทรู นอกจากนี้ ประโยชน์ที่เห็นได้ชัดเจนอีกเรื่อง คือ สัญญาณเครือข่ายที่ดีขึ้น เนื่องจากพอมีการรวมกันแล้ว เสาสัญญาณจะมีเพิ่มมากขึ้น สัญญาณเร็ว แรง และครอบคลุมพื้นที่ใช้งานมากขึ้น ทำให้ผู้ใช้งานทรูและดีแทคจะได้ใช้งานทั้งโทรและเน็ตที่ดียิ่งขึ้น มีความต่อเนื่องครอบคลุมทุกพื้นที่ และประการสำคัญในมุมมองของผู้ใช้บริการทั้ง 2 ค่าย เห็นว่า การควบรวมครั้งนี้ จะทำให้มีการแข่งขันกันระหว่างผู้ประกอบการรายอื่นโดยเฉพาะรายใหญ่ที่จะต้องเร่งกันแข่งขันแย่งลูกค้า ทำให้ทั้งทรูและดีแทคต้องไม่หยุดนิ่งเร่งในการเสริมบริการและสิทธิพิเศษต่างๆ มาเพิ่มมากขึ้นเพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิม และแสวงหาลูกค้ารายใหม่ ดังนั้น จึงไม่มีเหตุผลที่ทั้งสองค่ายจะปรับเพิ่มราคาสูงขึ้น เพราะจะทำให้ลูกค้าย้ายค่ายได้ และเราเชื่อว่า เมื่อทั้งสองบริษัทร่วมกันจะมีความสามารถในการลงทุนเพื่อขยายเครือข่ายให้ดียิ่งขึ้น สามารถพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ รองรับการเติบโตของธุรกิจดิจิทัลได้ด้วย
“พวกเราผู้บริโภค เห็นข้อดีมากมาย และเห็นชัดเจนว่าการควบรวมครั้งนี้จะทำให้ลูกค้าดีแทคและทรูจะได้ประโยชน์ทันทีไม่เสียประโยชน์แต่อย่างใด ขณะเดียวกัน ก็เชื่อมั่นในบทบาทและอำนาจ กสทช. ที่ผ่านมา สามารถควบคุมเพดานราคาได้ตามกฎหมายที่มีอยู่ เป็นที่น่าพอใจ จึงขอเรียกร้องให้สภาองค์กรของผู้บริโภคได้หันมาพิจารณาข้อมูลความคิดเห็นของผู้บริโภคตัวจริง และนำเสนอชุดข้อมูลนี้ต่อสาธารณชน และเรียกร้องให้ยุติการดำเนินการใดๆ ที่จะทำให้การควบรวมครั้งนี้ล่าช้า เพราะผลที่เกิดขึ้นกระทบโดยตรงต่อผู้บริโภคที่จะได้ประโยชน์ทันทีหลังการควบรวม” นายคงชัช กล่าว