โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ ยินดี ททท. คาดการณ์ ในปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวมาเยือนประเทศไทยถึง 18 ล้านคน สร้างรายได้รวมจากการท่องเที่ยว 1.73 ล้านล้านบาท
วันนี้ (5 พ.ย.) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่ได้ทราบว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้คาดการณ์ให้ในปี พ.ศ. 2566 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนประเทศไทย เป็นจำนวนกว่า 18 ล้านคน
โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า จากข้อมูลของ ททท. คาดว่า ในปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนประเทศไทยเป็นจำนวน 18 ล้านคน ซึ่งจะสร้างรายได้ประมาณ 9.7 แสนล้านบาท ส่วนการประมาณการตลาดในประเทศ ททท.คาดว่า จะสร้างรายได้ 7.6 แสนล้านบาท รวมรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งสิ้นประมาณ 1.73 ล้านล้านบาทตลอดทั้งปี
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.- 30 ต.ค. 65 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยแล้วกว่า 7.56 ล้านคน และในเดือน พ.ย.และ ธ.ค.นี้ คาดว่า จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยอีกราวเดือนละอีก 1.5 ล้านคน ดังนั้น ในปีนี้ไทยน่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคนตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยใน 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ (พ.ศ. 2565) คาดว่า จะมีไฟลต์บินมาประเทศไทยถึง 15,778 ไฟลต์ โดยตลาดนักท่องเที่ยวจากอินเดีย และมาเลเซีย มีอัตราส่วนผู้โดยสารต่อไฟลต์บินถึงร้อยละ 85 และร้อยละ 68 ตามลำดับ
นอกจากนี้ ข้อมูล ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2565 มีจำนวนนักท่องเที่ยวจากอาเซียน เอเชียใต้ และเอเชียแปซิฟิก สูงถึง 4.1 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 54 ของนักท่องเที่ยวทั้งหมดในปีนี้ ในขณะที่กลุ่มนักท่องเที่ยวจากเอเชียตะวันออกได้กลับมาท่องเที่ยวอีกครั้งเป็นจำนวนกว่า 8 แสนคน คิดเป็นร้อยละ 11 ของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมด ทั้งนี้ในปีหน้า ตลาดการท่องเที่ยวน่าจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง
“นายกรัฐมนตรียินดีที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ยังคงให้ความสำคัญ นิยมการท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางมาเยือน และสามารถต่อสู้ทางการตลาดกับประเทศอื่นๆ ได้อย่างมีศักยภาพ แม้ว่าหลายประเทศจะเริ่มทยอยฟื้นตัวจากโควิด และเปิดรับนักท่องเที่ยวกันแล้วก็ตาม ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพิ่มจำนวนบุคลากรเพื่อให้การบริการและรองรับการเดินทางที่สูงขึ้น โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการตรวจเอกสารสำคัญของผู้เดินทางในด่านแรก ทั้งขาเข้าและขาออก เช่น สนามบินต่างๆ โดยให้เพิ่มช่องทางในการอำนวยความสะดวกให้ผู้ที่เดินทาง ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติและผู้ใช้บริการให้รวดเร็วและคล่องตัว นอกจากนี้ ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ร่วมดำเนินงานตอบรับตามแนวนโยบายของรัฐบาลในการสนับสนุนการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง และเหมาะสมกับสถานการณ์ รวมทั้งขอบคุณประชาชนทุกคนที่มีส่วนร่วม ทำให้ไทยมีเสน่ห์และเอกลักษณ์ มีสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรกับนักท่องเที่ยว รักษากระแสความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวได้อย่างต่อเนื่อง” นายอนุชา กล่าว