xs
xsm
sm
md
lg

"อนุทิน ภารกิจหัวใจติดปีก" ติดโพลผู้นำทางการเมืองที่มีจิตใจดีช่วยเหลือต่อชีวิตเพื่อนมนุษย์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บทบาทการช่วยเหลือสังคมของ “อนุทิน ชาญวีรกูล” ในฐานะที่เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่อยากจะช่วยเหลือต่อชีวิต ต่อลมหายใจให้กับอีกชีวิตหนึ่งนั้น ดูเป็นงานที่ทำแล้วมีความสุขกายสบายใจเป็นการส่วนตัว ไม่ค่อยได้เผยแพร่บทบาทนี้มากนัก เพราะต้องการทำเรื่องนี้เป็นเรื่องศรัทธาเฉพาะตัวจริงๆ ไม่ต้องการทำงานสร้างภาพให้โดดเด่นขึ้นมา แต่ถึงอย่างไรในฐานะบุคคลสาธารณะ จึงถูกหยิบยกเรื่องการบินรับส่งหัวใจ หรือ ภารกิจหัวใจติดปีก ขึ้นมากล่าวถึง

ผลการสำรวจ “ซูเปอร์โพล” ล่าสุด สะท้อนออกมาว่า “อนุทิน ชาญวีรกูล” นอกจากจะเป็นนักการเมืองที่อยู่เหนือความขัดแย้งแล้ว ผลสำรวจยังพบว่า เป็นผู้นำการเมืองที่มีจิตใจดี โดยเฉพาะเรื่องการบินรับส่งหัวใจ อวัยวะ ให้ผู้ป่วย ช่วยเหลือต่อชีวิต ผู้ป่วย ที่กำลังรอการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ และอวัยวะส่วนอื่น ๆ


ต้องยอมรับว่า เป็นการเสียสละช่วงเวลาที่จะใช้ชีวิตส่วนตัวของผู้นำทางการเมืองที่หาได้ยากยิ่งเลยทีเดียว เพราะการจะขึ้นบินแต่ละครั้ง ต้องมีการเตรียมความพร้อมตลอดเวลา การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ จะผิดกฎการบิน จึงต้องยับยั้งชั่งใจ เผื่อมีเหตุต้องขึ้นบินอย่างฉุกเฉินเพื่อบินไปรับ-ส่งอวัยวะจากผู้เสียชีวิต ส่งต่อให้กับอีกชีวิตหนึ่งที่รอการช่วยเหลืออยู่

การขึ้นบินแบบที่ว่านี้ เป็นความเร่งด่วน ไม่ใช่จะทำได้ง่าย ๆ เพราะจะต้องขอหอบังคับการบินที่มีตารางบินประจำอยู่แล้ว บางครั้งต้องรอการจัดสรรเวลา เพื่อนำเครื่องขึ้น-ลง ทั้งขาไปและขากลับ ต้องรีบบินไปเพื่อให้ทีมแพทย์ผ่าตัดนำอวัยวะออกจากร่างผู้เสียชีวิต โดยศัลยแพทย์ที่ชำนาญการเฉพาะทาง เพื่อป้องกันความเสียหายของอวัยวะ จากนั้นก็เก็บเข้าสู่กล่องเก็บความเย็น และรีบนำกลับไปต่อชีวิตให้ผู้ป่วยอีกคน ที่นอนรอเตรียมการผ่าตัด ภารกิจนี้ต้องทำภายใน 4-6 ชั่วโมง มิเช่นนั้นก็จะกลายเป็นปฏิบัติการที่ล้มเหลว


นอกจากนี้ ยังมีเงื่อนไขสำคัญ คือการจะได้อวัยวะจากผู้บริจาค ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องเป็นคนที่มีอายุไม่มาก หรือเป็นกลุ่ม“วัยรุ่น” ซึ่งมีโอกาสน้อยมาก ๆ ที่วัยรุ่นจะสนใจบริจาคอวัยวะตัวเอง เพราะชีวิตวัยรุ่นยังไม่เข้าใจในเรื่องนี้มากนัก นอกจากนี้พ่อแม่ญาติพี่น้องก็มีความเชื่อว่าหากโลกหน้ามีจริงอาจจะเกิดมาพิการ ทำให้การจะได้อวัยวะมาต่อชีวิตเพื่อนมนุษย์มีจำนวนไม่มากนัก หากมีเคสบริจาคขึ้นมาจึงไม่ต้องการให้เสียจิตศรัทธาของผู้บริจาคไปโดยเปล่าประโยชน์

การนำเครื่องบินส่วนตัว ขึ้นบินไป-กลับ มากถึง 40 เที่ยว จึงมิใช่เรื่องง่าย ๆ ต้องเสียสละความสุขส่วนตัว ต้องเตรียมสุขภาพร่างกายให้พร้อมกับการขึ้นบินแบบด่วน ๆ


ที่สำคัญ สภาพลมฟ้าอากาศที่แปรปรวน ต้องใช้การตัดสินใจบนความกล้าหาญ ใช้ฝีมือในการนำเครื่องบินขึ้น-ลง บางครั้งต้องบินวนไปกลางมหาสมุทร 3-4 รอบ เพราะบางเที่ยวบิน สภาพอากาศปิด มองไม่เห็นรันเวย์ หากมือไม่ถึง โชคไม่อำนวย จังหวะไม่ได้ ก็ทำให้ภารกิจล้มเหลวได้เหมือนกัน โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ ที่มีสภาพอากาศแปรปรวน น่านฟ้าปิดบ่อย ๆ

“อนุทิน ชาญวีรกูล” ในฐานะกัปตัน เคยเล่าให้ว่า เขาต้องทำการพึ่งพระบารมีของพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ ต้องทำการอัญเชิญขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลกให้ความคุ้มครองป้องกันภัยเพื่อให้ “ภารกิจหัวใจติดปีก” สำเร็จลุล่วงทุกประการ ปรากฎว่ากำลังตัดสินใจนำเครื่องไปลงที่อื่น กลุ่มเมฆแหวกตัวเห็นรันเวย์ “อนุทิน ชาญวีรกูล” รีบตัดสินใจขับเครื่องบินฝ่ากลุ่มฝนลงรันเวย์ ก่อนที่สภาพอากาศจะปิดอีกครั้ง มิเช่นนั้น จะต้องนำเครื่องบินไปลงสนามบินไกลออกไป ซึ่งอาจจะไม่ทันการณ์ ในการจะให้ทีมแพทย์ผ่าตัดเอาอวัยวะออกมา นับว่าเป็นเรื่องที่มีความเสี่ยงไม่น้อยทีเดียว

ซูเปอร์โพล สะท้อนชีวิตจริงคนทำงานจริง ที่ต้องมีความกล้าหาญ มีการเสียสละความสุขส่วนตัว ต้องตัดสินใจที่ฉับไว โดยมีจุดหมายปลายทางคือความสำเร็จของภารกิจหัวใจติดปีก เป็นสำคัญ แม้จะต้องเสี่ยงชีวิต ในการบินฝ่าสภาพอากาสอันย่ำแย่ แต่เพราะจิตวิญญาณแห่งความเสียสละ ต้องการต่อชีวิตเพื่อนมนุษย์ จึงทำให้ทุกเที่ยวบิน ประสบความสำเร็จ และเจ้าตัวยังจะเดินหน้าทำภารกิจหัวใจติดปีก นี้ต่อไป




กำลังโหลดความคิดเห็น