รองนายกฯ เผย ไม่รู้ยุบสภาเมื่อไหร่ แต่ถ้าครบวาระแล้วจะย้ายพรรคให้ทัน 90 วัน ต้องนับจาก 23 มี.ค. 66 ย้อนลงมา ยังไม่คิดออก พ.ร.ก.เลือกตั้ง หวั่นถูกมองรัฐใช้อำนาจฝ่ายเดียว คิดมากจะวิกลจริต
วันนี้ (1 พ.ย.) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมี ส.ส.พยายามโยงว่า 24 ธัวาคมนี้ คือ วันที่จะครบวาระที่ ส.ส. ต้องลาออก เพื่อหาสังกัดพรรคใหม่ให้ทันใน 90 วัน ซึ่งความจริงเส้นตายนับถึงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 ใช่หรือไม่ ว่า ตนไม่เคยรู้ว่าเขานับกันอย่างไร แต่ต้องนับจาก 23 มีนาคม 2566 ถอยลงมาหากอยู่ครบวาระ แต่ถ้ากรณียุบสภาใช้ 30 วัน ในการจะไปสังกัดพรรค ทั้งนี้ โมเดล กกต. ที่กำหนดวันเลือกตั้ง 7 พฤษภาคม 2566 จะต้องนับจากวันดังกล่าวลงมา 90 วัน ซึ่งโมเดลนี้แค่กำหนดเผื่อไว้เท่านั้น เพราะไม่รู้ว่าสภาจะสิ้นสุดลงด้วยการยุบสภาหรือครบวาระ
เมื่อถามว่า สังคมกำลังสับสนว่า 24 ธันวาคมนี้ จะเป็นวันสุดท้าย นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่มีอะไรสับสน พอรู้แน่ชัดแล้วว่าเมื่อสภาเปิดแล้ววันนี้ ใครจะคิดอ่านอย่างไรควรจะเริ่มคิดตั้งแต่ตอนนี้ เผื่อสถานการณ์ที่อาจเปลี่ยนแปลงไปได้
เมื่อถามว่า มีความพยายามโยนชุดความคิดว่าหากมีการยุบสภาแล้ว กฎหมายลูกเลือกตั้งยังไม่ผ่าน รัฐยาลจะรักษาไปเรื่อยๆ จนกว่ากฎหมายจะเสร็จแบบนี้จริงหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่บางคนคิด รัฐบาลก็ไม่รู้ ว่าถ้าเกิดเหตุแบบนั้นขึ้นมาจะอยู่กันอย่างไร และใช้กฎหมายอะไร เพราะรัฐบาลไม่ใช่คนชี้เรื่องนี้ แต่เป็น กกต. และถ้าใครไม่เชื่อก็ต้องไปร้องศาลรัฐธรรมนูญ รัฐบาลไม่มีอำนาจไปกำหนด
ถามย้ำว่า แต่มีเงื่อนไขบังคับว่าต้องมีการเลือกตั้ง จึงทำให้ไม่สามารถยื้อเวลารักษาการให้ยาวนานได้ ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ได้ ยังไงก็ต้องเลือกวันใดวันหนึ่ง เลือกผิดเลือกถูกก็ต้องทำไป แล้วให้ศาลชี้ เพราะถึงอย่างไรก็ต้องมีการเลือกตั้ง และหาทางร่วมกันจนได้ว่าจะเอากฎเกณฑ์อย่างไร
นายวิษณุ ยังกล่าวถึงกฎหมายลูกเลือกตั้งว่า วันนี้อยู่ระหว่างศาลรัฐธรรมนูญกำลังขอให้ กกต. ชี้แจงภายใน 15 วัน ขณะนี้ยังไม่ครบเวลาซึ่งเมื่อชี้แจงแล้วศาลจึงจะวินิจฉัยได้ ตนไม่คิดว่าจะช้า เพราะเป็นปัญหาข้อกฎหมายไม่ใช่เรื่องสืบพยาน ส่วนหากเกิดอุบัติเหตุและจังหวะนั้นวาระรัฐบาลเหลือน้อย จะทำอย่างไรนั้น ทาง กกต. และรัฐบาลต้องมาคิดร่วมกัน แต่ กกต. ถือว่าได้เปรียบ เพราะออกกฎเกณฑ์อะไรได้ก่อน ถ้าใครเห็นว่าผิดก็ไปฟ้องร้องได้
ส่วนจะถึงขั้นออกเป็นพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) เลยหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า “ถ้าถามผม ที่สุดของที่สุดก็ต้องทำอย่างนั้น แต่มันไม่สมควร เพราะการออก พ.ร.ก. เท่ากับเป็นการใช้อำนาจฝ่ายเดียว ซึ่งรัฐบาลยังไม่ได้เริ่มคิดถึงเรื่องนี้ เพราะยังไม่มีเหตุอะไร จะคิดก็ตอบเมื่อศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาไประยะหนึ่ง เราก็จะรู้ว่าจะออกมาแบบไหน ตอนนี้ยังคิดไม่ได้ แต่ก็รู้ว่ามีหลายทาง แต่อย่าไปคิดเลยมันจะฟุ้งซ่าน บ้า และวิกลจริต ตอนนี้ยังไม่มีเหตุหรือสถานการณ์อะไรในสภา ที่จะต้องมานั่งคิดเตรียมรับสถานการณ์ว่ามันอาจจะต้องยุบสภาแล้วนะ ตอนนี้มันไม่มีอะไรที่เป็นปัจจัยเสี่ยง