“อนุทิน” สอนมวย “หมอชลน่าน” เป็น หน.พรรค ต้องมีวุฒิภาวะ สู้กันด้วยนโยบาย อย่าจ้องจับผิด-คุ้ยหาเรื่องเล็กเรื่องน้อย ไม่ปิดประตูเพื่อไทย บอกไม่ได้ทะเลาะกัน รับคุย “พุทธิพงษ์” หวั่นลุยสนาม กทม.
วันนี้ (18 ต.ค.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะยื่นยุบพรรคภูมิใจไทย เรื่องนโยบายกัญชา และล่าสุด เปลี่ยนใจไม่ยื่นแล้ว ว่า ไม่ทราบเหตุผลและเรื่องนี้มีคนเล่าให้ฟัง แต่มองว่า นักการเมืองด้วยกัน อย่ามาจ้องทำลายอะไรกันเลย ซึ่งไม่ว่าพรรคไหนจะเข้ามาทำหน้าที่ในสภาวันที่ได้ประกาศว่าจะแลนด์สไลด์ ก็จะต้องหมั่นแข่งกันทำความดีให้กับประชาชน นั่นคือ สิ่งที่นักการเมืองควรจะทำ ไม่ใช่มาคุ้ยหาเรื่องเล็กเรื่องน้อยและทำลายกันเอง ไม่มีประโยชน์อะไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อย่างว่า ท่านยังคงไม่มีวุฒิภาวะผู้นำ ตอนนี้เป็นหัวหน้าพรรคแล้วต้องทำตัวให้เป็นหัวหน้าพรรค
นายอนุทิน กล่าวย้ำว่า ทุกอย่างทำตามกฎหมาย ถ้าทำผิดแล้วคิดว่าจะต้องยุบพรรคก็ต้องยุบ แต่พรรคภูมิใจไทยมั่นใจว่าไม่ได้ทำผิด ทั้งนี้ ยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทย จะไม่ตอบโต้ในเรื่องนี้ เพราะจะเลือกตั้งอยู่แล้ว นโยบายของพรรคได้ส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบก่อนที่จะไปรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งตั้งแต่ปี 2562 อีกทั้งนโยบายเรื่องกัญชาของพรรคภูมิใจไทยถูกบรรจุอยู่ในการแถลงนโยบายของนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่ง ซึ่งรัฐบาลจะทำงานไม่ได้ ถ้าไม่มีการแถลงนโยบาย ดังนั้น นโยบายกัญชาทางการแพทย์อยู่ในวาระเร่งด่วนของรัฐบาลชุดนี้ จึงมีความชัดเจนอยู่แล้ว
“หากจะชนะควรชนะด้วยฝีมือการแข่งขัน ทำประโยชน์ให้กับประชาชน ให้ประชาชนตัดสินใจเลือก ไม่ควรที่จะจ้องทำลาย เพราะเราต้องการให้บ้านเมืองสงบสุข แต่มาแต่ละดอก ตีรัน ฟันแทงทั้งนั้น เราไม่สู้ พรรคเราเล็กกว่าอยู่แล้ว แต่เอาฝีมือมาเทียบกันดีกว่า ว่าใครรับใช้ประชาชนได้ดีกว่าและมากกว่า ทำงานให้กับประชาชนและประเทศชาติระหว่างพรรคการเมืองด้วยกัน ซึ่งการจะมายื่นยุบพรรค ขอให้ดูว่าพรรคภูมิใจไทยกับพรรคเพื่อไทย ใครทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ทุ่มเททุกอย่างให้กับประชาชนไม่สนใจเรื่องความขัดแย้ง ต้องการให้ประชาชนมีความสุข พรรคภูมิใจไทยอยู่ในทำนองคลองธรรมนี้มาโดยตลอดไม่เปลี่ยนแปลง” นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามว่า การตำหนิ นพ.ชลน่าน ว่า ไม่มีวุฒิภาวะต้องการให้เปลี่ยนหัวหน้าพรรคหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ใช่พรรคตน แต่คนเป็นผู้นำต้องมีวุฒิภาวะสูง อันนี้สำคัญมาก
เมื่อถามว่า นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีต รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) จะมาอยู่พรรคภูมิใจไทย หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า มีการพูดคุยกัน ซึ่งจะต้องพูดคุยกันในเรื่องของความเข้าใจ เพราะพรรคภูมิใจไทยอยากจะมี ส.ส.ใน กทม. เพราะเป็นพื้นที่ที่ยังไม่มีผู้แทน ก็อยากทำประโยชน์ให้กับคนกรุงเทพฯ และแม้ว่าพรรคเราจะไม่มีผู้แทน เราก็ทำประโยชน์ให้กับคนทั่วประเทศและคนกรุงเทพฯ ผลักดันรถไฟฟ้าใต้ดิน รถไฟฟ้า และรถ NGV ที่วิ่งกันทั่วกรุงเทพฯ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ตลอดจนโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน ทั้งนี้ พรรคได้ทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์หลายอย่าง เราจึงจำเป็นต้องพูดคุยกับผู้ที่มีความนิยม หรือเข้าใจในพื้นที่ในกรุงเทพฯให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
เมื่อถามย้ำว่า นายพุทธิพงษ์ จะเชิญ ส.ส.พลังประชารัฐ (พปชร.) คนอื่นเข้าร่วมอีกหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงของการพูดคุยกัน กินข้าว ยังไม่ได้มีการลงในรายละเอียด ซึ่งก็จะต้องดูว่า นายพุทธิพงษ์ มีข้อจำกัดอะไรหรือไม่ หากพูดคุยแล้วไม่มีข้อจำกัด ช่วยงานกันได้ แต่ต่อให้มีข้อจำกัด ก็ช่วยงานกันได้ ในฐานะคณะทำงานเมื่อทำแล้วเกิดประโยชน์กับพรรค บ้านเมือง และประชาชนก็ไม่น่าจะเป็นการเสียเวลาในการพูดคุย ส่วนก่อนหน้านี้ มีชื่อ น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม.พรรค พปชร.จะมาร่วมงานด้วย นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน น่าจะไม่นานก็คงจะทราบ เพราะตอนนี้คุกรุ่นไปหมดพรรคจะถูกยุบหรือไม่ก็ไม่รู้
เมื่อถามว่า ในอนาคตพรรคภูมิใจไทยจะร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย ได้หรือไม่ เมื่อเกิดปัญหาทะเลาะกันแบบนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ได้ทะเลาะกัน ส่วนไม่ปิดประตูกับพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “ผมถือว่าเป็นเรื่องไร้สาระ เราไม่ได้ทำผิดตามที่เขากล่าวหา อย่าไปเสียเวลา”
นายอนุทิน ยังได้กล่าวถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เตรียมเสนอโครงการก่อสร้างสะพาน 2 แห่ง ในพื้นที่ภาคใต้วงเงิน 6,354 ล้านบาท ซึ่งถูกมองว่าจะนำไปใช้ประโยชน์ในการหาเสียงในช่วงการเลือกตั้งนั้น ว่า ก็ไปคิดแต่อย่างนี้ รัฐบาลมีหน้าที่ที่จะทำประโยชน์ให้กับประชาชน สะพานจากจังหวัดพัทลุง ไปจังหวัดสงขลา เพื่อย่นระยะทางถึง 70 กิโลเมตร ในการสร้างความเจริญทั้งการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนทุกคนได้ประโยชน์ อย่าไปคิดอะไร เหลืออีก 3 เดือนจะเลือกตั้ง จะยุบสภาก่อนหรือไม่ ก็ไม่รู้ ตราบใดที่ยังไม่ยุบสภา เราก็ไม่หยุดที่จะทำงาน ทำแบบนี้ประชาชนได้ประโยชน์ ขอให้แข่งกันทำประโยชน์ให้กับบ้านเมือง ย้ำว่า อย่างไรพรรคภูมิใจไทยก็ไม่กลัว