“ฝ่ายค้าน” จ่อยื่นอภิปรายทั่วไป ม.152 หลังเอเปก เปลี่ยนใจไม่ยื่นญัตติเปิดประชุมสมัยวิสามัญปมกราดยิงหนองบัวฯ-น้ำท่วม อ้างขั้นตอนช้าต้องใช้เวลา แต่เสนอเป็นญัตติด่วนด้วยวาจาแทน ขู่ยุบ “ภท.” ดันนโยบายกัญชาเสรี
เมื่อวันที่ 17 ต.ค. ที่รัฐสภา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย นายสุขุมพงศ์ โง่นคำ ผู้ช่วยเลขานุการผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ และ นายนิคม บุญวิเศษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังปลวงชนไทย ร่วมแถลงข่าวภายหลังประชุมวิปพรรคร่วมฝ่ายค้าน
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่ประชุมมีมติ 4 เรื่อง คือ 1. เรื่องความก้าวหน้าของการดำเนินคดีนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องที่เป็นผลพ่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจ 2. เราจะเสนอเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ เรื่องด่วน เหตุกราดยิงหนองบัวลำภูที่มีการละเมิดสิทธิเด็ก เนื่องจากมีการประกาศราชกิจจานุเบกษา เรียกประชุมสภาสมัยสามัญ ในวันที่ 1 พ.ย. 65 ดังนั้น การขอเปิดประชุมสภาวิสมัยสามัญ จึงเป็นเรื่องที่ทำได้ยากและช้ากว่า และไม่ดำเนินการยื่นเปิดวิสามัญ เพราะขั้นตอนการยื่นเราเตรียมความพร้อมไว้แล้ว เหลือเพียงลงชื่อและต้องใช้เวลา
นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านมีมติเหตุกราดยิง และน้ำท่วมใหญ่ในประเทศ ซึ่งจะยื่นเป็นญัตติด่วนด้วยวาจาในวันที่ 3 พ.ย.นี้ ซึ่งเป็นการประชุมวันแรก เพื่อให้สภาร่วมกันพิจารณาพูดคุยประเด็นปัญหารายละเอียดและสาเหตุ และข้อเสนอไปยังรัฐบาล เพื่อแสดงหาทางออกร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาประเทศ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องยาเสพติดและอาวุธปืน และสภาพทางจิตใจ รวมทั้งปัญหาน้ำท่วม เราจะประสานงานวิปรัฐบาลเข้าสภา มั่นใจว่า วิปรัฐบาลไม่ปฏิเสธเชื่อว่าราบรื่นจากเสียงข้างมาก
นพ.ชลน่าน กล่าวด้วยว่า ส่วนการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติมาตรา 152 นั้น เนื่องจากเราได้มีการยื่นญัตติด่วนด้วยวาจาด่วนแล้ว เช่น ปัญหายาเสพติด ภัยแล้ง และอุทกภัย เราจึงขอประเมินสถานการณ์และจะยื่นขอเปิดอภิปรายฯหลังจากประชุมเอเปก แต่ต้องคำนึงโอกาสอยู่รอดของสภาฯว่าจะมีการยุบสภาหรือไม่ หากมีโอกาสยุบสภาฯจริง เราจะเร่งยื่นญัตติดังกล่าวทันที
ด้าน นายสุขุมพงศ์ กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีรวมทั้งหมด 16 เรื่อง ยื่นต่อองค์กรอิสระและศาลไปแล้ว 12 เรื่อง และเหลืออีก 4 เรื่องที่กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณา ล่าสุด ได้มีการเพิ่มประเด็นอีก 3 เรื่อง รวมทั้งหมด 19 เรื่อง อาทิ ทุจริตถุงมือยาง การใช้งบกลางของนายกฯ ทุจริตโครงการบ้านเคหะสุขประชา และที่ดินเขากระโดง
นายสุขุมพงศ์ กล่าวต่อว่า เราจะยื่นในประเด็นปลดล็อกกัญชาเพิ่มเติมต่อศาลปกครองให้คุ้มครองชั่วคราว เนื่องจากเป็นการประกาศใช้กฎหมายมิชอบ และจะยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อยุบพรรคการเมืองที่สนับสนุนนโยบายดังกล่าวโดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทย (ภท.) นอกจากนี้ จะมีการตั้งกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบคู่ขนานกรณีนาฬิกาเพื่อนและจีที 200 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยังไม่ชี้มูลความผิด เพราะอาจเข้าข่ายการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
“ถึงแม้ว่าเราจะครบ 4 ปี เราได้อภิปรายไม่ไว้วางใจมา 4 รอบแล้ว ผลสรุปทั้งหลายเมื่อเขายังดำรงตำแหน่งเกิน 8 ปี มติของสภาไม่สามารถที่จะพ้นตำแหน่งไปได้ แต่ผลการกระทำความผิด อะไรที่เป็นความผิดต่อกฎหมายก็ดี ความผิดต่อจริยธรรมก็ดี เป็นเหตุยุบพรรคก็ดี พรรคร่วมฝ่ายค้านต้องดำเนินการให้ถึงที่สุด จนสิ้นกระแสความ” นายสุขุมพงศ์ กล่าว