เดือด!! 2 อดีต ส.ส.ปชป. แถลงข่าวประจานผู้รับเหมารัฐสภา พร้อมหอบผ้าเจ็ดสีผูกเสาตอม่อน้ำซึม พร้อมสาปแช่งขรก.ทุจริตจงพินาศ แถมพาสื่อทัวร์ดูรอบสภา ด้าน รองเลขาฯ สุดทน จี้ระบุให้ชัด ขรก.คนไหนโกง
วันนี้ (17 ต.ค.) เมื่อเวลา 12.05 น. ที่รัฐสภา นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ แถลงกรณีพบเสาตอม่ออาคารรัฐสภาเกิดน้ำซึมรั่วหลายจุด โดยก่อนเริ่มการแถลงข่าวนายวัชระ ได้ชูป้ายข้อความระบุว่า “คนโกงจงพินาศ ข้าราชการทุจริตจงพินาศ ข้าราชการที่ดีจงเจริญ” พร้อมนำผ้าเจ็ดสีมาด้วย เพื่อที่จะนำไปผูกตามตอม่อที่มีน้ำรั่วซึม ขณะที่ นายสาธิต ประเสริฐศักดิ์ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานกรรมการตรวจการจ้างโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ (คตจ.) เข้ามานั่งในห้องแถลงข่าวเพื่อร่วมรับฟังด้วย
นายวิลาศ กล่าวว่า มีข่าวว่า ขณะนี้มีแนวคิดที่จะให้การตรวจรับงานก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ให้แล้วเสร็จภายในเดือน พ.ย.นี้ ตนไม่ได้ต้องการขัดขวางไม่ให้การก่อสร้างแล้วเสร็จภายในเดือนพ.ย. แต่ถ้าจะเสร็จต้องเสร็จภายใต้ความสมบูรณ์ ถูกต้อง ปราศจากการนินทาว่ามีการทุจริตโกงบ้าน โกงเมือง ไม่เรียบร้อย วันนี้การก่อสร้างยังมีข้อร้องเรียนอีกจำนวนมาก อยากให้ข้าราชการ และประชาชน ช่วยกันส่งข้อมูลเพื่อแจ้งให้มีการแก้ไข ทุกคนรู้ว่าโครงการก่อสร้างนี้มีผู้รับจ้าง และผู้รับเหมาช่วงจำนวนหลายราย เราจึงจะกล่าวหาเฉพาะผู้รับผิดชอบโครงการเท่านั้น นอกจากนี้ จากการตรวจสอบยังพบว่า สายไฟใต้ดินในอาคารรัฐสภาที่มีความยาวทั้งหมดประมาณ 2,700 เมตร ตนเดินตรวจสอบพบว่าสายไฟอยู่ต่ำกว่าพื้น 5-10 ซม. ทั้งที่ในแบบต้องอยู่ต่ำกว่าพื้น 40 ซม. รวมถึงปัญหาอื่นๆอีกหลายด้าน และขอย้ำว่าการทุจริต โกงหนึ่งบาท หรือโกงล้านบาท ก็คือ โกงเหมือนกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการแถลงข่าวเสร็จสิ้น นายสาธิต ที่นั่งฟังอยู่ในห้องได้ลุกขึ้นเพื่อสอบถามนายวัชระ โดยนายวัชระได้เชิญนายสาธิตขึ้นมาพูดบนโพเดี่ยมแถลงข่าวด้วยกัน จากนั้น นายสาธิตได้สอบถามนายวัชระว่าที่ระบุถึงข้าราชการทุจริตในนามสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ในนามข้าราชการ คำว่าข้าราชการทุจริตคือใคร ขอให้นายวัชระระบุ ถ้าไม่ระบุหมายความว่านายวัชระกำลังดูถูกข้าราชการสภาฯ ว่าคือผู้ทุจริต จึงขอคำตอบในเวลานี้ต่อหน้าสื่อมวลชน
ด้าน นายวัชระ กล่าวว่า ข้าราชการทุจริตจงพินาศ หมายถึงข้าราชการที่ทุจริต ใครที่ทุจริตก็คือข้าราชการที่ทุจริต ขอให้จงพินาศ แต่ถ้าจะให้ระบุว่าเป็นใครตนไม่สามารถระบุได้ เพราะเป็นข้อจำกัดทางกฎหมาย แต่จะไประบุที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แน่นอน ทำให้ นายสาธิต ถามย้ำว่า ท่านต้องบอกว่าระบุถึงใคร ตนเคยบอกกับนายวิลาศ ว่า 3 อย่างที่ห้ามด่าตน คือ ด่าพ่อ ด่าแม่ และด่าทุจริต ถ้าวันนี้ท่านพูดถึงคำว่าข้าราชการสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ตนต้องปกป้อง ฉะนั้น สิ่งที่ท่านกระทำอยู่ ถ้าพูดถึงอดีตตนไม่ว่า แต่ปัจจุบันตนยืนอยู่ในตำแหน่งนี้ จะต้องปกป้องสิทธิของข้าราชการ
“การที่ท่านมาแถลงข่าวทุกครั้ง อยากถามตรงๆว่า คนที่ให้ข้อมูลท่านรู้ข้อมูล ข้อเท็จจริงหรือไม่ บางเรื่องจบไปแล้ว บางเรื่องเราทำให้ดีขึ้น เราไม่เคยละเว้นเพิกเฉย หนังสือที่ท่านยื่นมา 20-30 เรื่อง เราพิจารณาทั้งหมด เราไม่ได้ให้ความสำคัญกับท่าน แต่ในฐานะข้าราชการที่เป็น คตจ. และเป็นผู้ที่ต้องอาศัยอาคารแห่งนี้ไปตลอดจะต้องปกป้องสิทธิ ดังนั้น อย่าพูดอะไรโดยที่ไม่รู้ข้อมูล ข้อเท็จจริง ถ้างานทั้งหมดไม่เสร็จไม่ว่ากรณีใดๆ แม้แต่ตอนนี้กำลังจะมีการเปลี่ยนประตูห้องกรรมาธิการ (กมธ.) 148 บาน โครงงานจะแล้วเสร็จช่วงเดือน ธ.ค. แล้วจะมีการรับมอบช่วงเดือน พ.ย. ตามที่ท่านระบุได้อย่างไร อีกทั้งเลขาธิการสภา ก็มีดำริว่าน้ำรั่วหนึ่งหยด ถ้าเป็นการแก้ชั่วคราวไม่ใช่ถาวรท่านก็ไม่รับงาน สิ่งที่ท่านพูดบางครั้งขอให้เห็นใจคนทำงานบ้าง อยากให้ท่านรับข้อมูลข่าวสารที่แท้จริง อย่ารับแบบกะปริดกะปรอย แล้วเอามาพูดขยายความ” นายสาธิต ระบุ
รองเลขาธิการสภา กล่าวต่อว่า คำว่าทุจริตมันเสียหายทั้งองค์กร ท่านเคยดูบ้างหรือไม่ท่านอดีตสมาชิก ท่านเข้ามาในพื้นที่นี้ปกป้องสิทธิแทนประชาชน ตนไม่ว่า แต่การเข้ามาแล้วละเมิด ล่วงเกินองค์กรแบบนี้ ยอมรับไม่ได้ ในฐานะเป็นรองเลขาธิการสภาฯ ดูแลที่นี่ต้องปกป้องสิทธิ และยืนยันว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่คตจ.ดำเนินการไม่ได้ทำโดยพลการ เราดำเนินการโดยสุจริต ไม่เคยคิดทุจริต ถ้าตนทุจริตในวงงานรัฐสภา โดยเฉพาะการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะประธาน คตจ. ขอให้ตนมีอันพินาศไปภายใน 3 วัน 7 วัน แต่ถ้าตนไม่ได้เป็นอย่างที่ท่านกล่าวหา ขอให้คนที่กล่าวหาตนมีอันเป็นไปด้วยเช่นกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ภายหลังที่ทั้ง 3 คน แถลงข่าวเสร็จเรียบร้อย นายวัชระ และ นายวิลาศ จะพาสื่อมวลชนไปดูเสาต่างๆที่เกิดน้ำซึม บริเวณลานจอดรถชั้นใต้ดิน บี2 ปรากฏว่า นายอรุณ ลายผ่องแผ้ว ผู้อำนวยการสำนักงานรักษาความปลอดภัย สำนักงาเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เข้ามาห้ามไม่ให้นายวัชระและนายวิลาศพาสื่อมวลชนไป โดยระบุว่า อาคารรัฐสภาเป็นพื้นทึ่ควบคุม ขอให้ทำหนังสือขออนุญาตส่งมาเสียก่อน แต่สุดท้ายก็ไม่เป็นผล อย่างไรก็ตาม ระหว่างไปดูความเสียหายตามจุดต่างๆ ไฮไลท์อยู่ที่เสาลำดับที่ โอ14 โดยนายวัชระได้พยายามนำผ้าเจ็ดสีไปผูกเสา แต่นายอรุณขอไม่ให้ผูก
ทั้งนี้ ในช่วงท้ายผู้สื่อข่าวถามว่า นายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) มีกำหนดจะแถลงชี้แจงในวันนี้ นายวัชระ กล่าวว่า เชิญชี้แจงตามสบาย และฝากถามนายภาคภูมิด้วยว่าคดีติดสินบนโรงไฟฟ้าขนอม ทำไมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ถึงไม่ดำเนินการฟ้อง บ.ซิโน-ไทย ซึ่งเป็นจำเลยที่ 5 และนายภาคภูมิ เป็นจำเลยที่ 6