“วัชระ” ปูด กก.ก่อสร้างอาคารรัฐสภาเอื้อประโยชน์ซิโนฯ ยื่นเรื่องถึง “พรพิศ” ขอลดขนาดต้นไม้ หลังยืนต้นตายเพียบ ยื่นหนังสือคัดค้านแก้สัญญาตามคำขอ ขู่หากดึงดันเรื่องถึง “ป.ป.ช.” แน่ เผยสร้างเสร็จล่าช้า ล่าสุด ล่วงมา 648 วัน ต้องจ่ายค่าปรับ เกือบ 8 พันล้านบาท
วันนี้ (11 ต.ค.) นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือผ่านงานสารบรรณถึง นางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และ นายสาธิต ประเสริฐศักดิ์ ประธานคณะกรรมการตรวจรับงานโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่และคณะกรรมการทุกคน เพื่อคัดค้านงานลดขนาดต้นไม้ 54 ต้น ในโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ โดยอ้างถึงหนังสือบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เลขที่ SINOTHAI/J.2436/L-1939/RO. ลงวันที่ 26 ก.ย. 65 เรื่อง แจ้งอุปสรรคขัดข้องกรณีต้นไม้ใหญ่ในกระบะปลูกภายในอาคารตายและไม่สามารถนำต้นไม้ขนาดเดิมเข้าไปปลูกทดแทนได้ และเสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหา เช่น ลดงานโดยเปลี่ยนมาใช้ขนาดของต้นไม้ที่เล็กลง หรือยกเลิกงานปลูกต้นไม้เพื่อจัดจ้างผู้ชำนาญการอื่นแทน โดยการแก้ไขสัญญางานพิเศษและแก้ไขงาน
นายวัชระ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงของกิจการร่วมค้าสงบ 1051 ในฐานะผู้ออกแบบ เห็นว่า ผู้รับจ้างสามารถนำต้นไม้ขนาดตามสัญญาเข้าอาคารได้ ควรทำตามรูปแบบที่กำหนดไว้ในสัญญาเพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาในการบริหารสัญญาและการตรวจรับงาน ส่วนกลุ่มนิติบุคคลร่วมทำงาน ATTA ในฐานะผู้ควบคุมงาน มีความเห็นว่า ให้ผู้รับจ้างจัดหาต้นไม้ขนาดเดิมตามสัญญาปลูกทดแทนต้นที่ตายอันเกิดจากความรับผิดชอบในการทำงานปลูกและดูแลของผู้รับจ้างเอง และให้เร่งรัดดำเนินการเพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้า
“ผมขอคัดค้านงานลดขนาดต้นไม้ 54 ต้น ในโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ด้วยเหตุผลหลายประการ อาทิ ผู้รับจ้างไม่เคยยกปัญหาเรื่องต้นไม้ใหญ่ในกระบะปลูกภายในอาคาร จากการตรวจสอบของผู้ควบคุมงานพบว่ามีต้นไม้หลายขนาด ยืนต้นตายเป็นจำนวนมาก ดังนั้น การที่ผู้รับจ้างมีหนังสือขอลดขนาดต้นไม้และขอแก้ไขสัญญางานพิเศษ จึงส่อว่าเอื้อประโยชน์กับผู้รับจ้าง และหากแก้ไขสัญญาตามที่เสนอย่อมจะเป็นการทำโดยมิชอบ ตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ผู้ออกแบบและผู้ควบคุมงาน มีความเห็นว่าผู้รับจ้างต้องจัดหา ต้นไม้ที่มีขนาดเดิมตามสัญญา เนื่องจากการตรวจสอบสามารถนำต้นไม้ขนาดเดิมเข้าภายในอาคารได้ เป็นต้น” นายวัชระ กล่าว
นายจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงของกิจการร่วมค้าสงบ 1051 ในฐานะผู้ออกแบบ และกลุ่มนิติบุคคลร่วมทำงาน ATTA ในฐานะผู้ควบคุมงาน โครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ พร้อมอาคารประกอบ กรณีบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้รับจ้างก่อสร้างขอลดขนาด ต้นไม้ จำนวน 54 ต้น โดยกิจการร่วมค้าสงบ 10511 ผู้ออกแบบ มีความเห็นว่าผู้รับจ้างสามารถนำต้นไม้ขนาดตามสัญญาเข้าอาคารได้ ควรทำตามรูปแบบที่กำหนดไว้ในสัญญาเพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาในการบริหารสัญญาและการตรวจรับงาน ส่วนกลุ่มนิติบุคคลร่วมทำงาน ATTA ผู้ควบคุมงาน มีความเห็นว่าให้ผู้รับจ้างจัดหาต้นไม้ขนาดเดิมตามสัญญาปลูกทดแทนต้นที่ตายอันเกิดจากความรับผิดชอบในการทำงานปลูกและดูแลของผู้รับจ้างเอง และให้เร่งรัดดำเนินการเพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้า
นายวัชระ กล่าวย้ำว่า ตนได้รับทราบข่าวจากวงในที่เชื่อถือได้ระบุว่า มีกรรมการบางคนต้องการช่วยเหลือเอื้อประโยชน์ให้เอกชน โดยไม่สนใจผลกระทบที่ทำให้ราชการเสียหาย จึงขอให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และคณะกรรมการตรวจรับงานโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ในฐานะหัวหน้าหน่วยงานของรัฐและผู้เกี่ยวข้องโดยตรง ซึ่งเป็นคู่สัญญากับบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจี เนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ถือปฏิบัติตามสัญญางานก่อสร้าง กฎหมายและระเบียบโดยเคร่งครัดเพื่อรักษาและปกป้องผลประโยชน์ของทางราชการและประชาชน ทั้งนี้ หากยังยอมอนุมัติปรับลดงาน โดยเปลี่ยนมาใช้ขนาดของต้นไม้ที่เล็กลง หรือยกเลิกงานปลูกต้นไม้เพื่อจัดจ้างผู้ชำนาญการอื่นแทน จะแจ้งต่อสำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อดำเนินการไต่สวนการกระทำที่ส่อว่าเอื้อประโยชน์กับผู้รับจ้างต่อไป
สำหรับสัญญาจ้างก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่พร้อมอาคารประกอบ เลขที่ 116/2556 ลงวันที่ 30 เมษายน 2556 และที่แก้ไขเพิ่มเติม วงเงิน 12,280,000,000 บาท ระยะเวลาก่อสร้าง 900 วัน ขยายเวลางานก่อสร้าง 4 ครั้งรวม 1,864 วัน สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2563 รวมระยะเวลาก่อสร้างตามสัญญาคือ 2,764 วัน และจนถึงวันที่ 10 ตุลาคม 2565 ล่วงเลยกำหนดเวลางานแล้วเสร็จตามสัญญา จำนวน 648 วัน รวมระยะเวลางานก่อสร้าง (2,764 + 648 วัน) 3,412 วัน งานก่อสร้างก็ยังไม่แล้วเสร็จ ค่าปรับคิดเป็นวันละ 12,280,000 บาท คิดเป็นเงินค่าปรับที่ควรจะได้เข้ารัฐทั้งสิ้น 7,957,440,000 บาท (เจ็ดพันเก้าร้อยห้าสิบเจ็ดล้านสี่แสนสี่หมื่นบาทถ้วน)