xs
xsm
sm
md
lg

“เพื่อไทย” เปิดหน้าสู้ “ชินวัตร” มั่นใจเข้าวิน !?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เมืองไทย 360 องศา


ในที่สุด พรรคเพื่อไทยก็ได้เข้าสู่โหมดเลือกตั้งอย่างเต็มตัว โดยล่าสุดได้ออกนโยบายสำหรับใช้ในการหาเสียงกันแล้ว ล่าสุด ได้ตั้ง ศูนย์ปฏิบัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย มีผู้อำนวยการและคณะกรรมการรวมทั้งสิ้น 55 คน ประกอบด้วย ผู้บริหารศูนย์ปฏิบัติการเลือกตั้งฯ มี นายชัยเกษม นิติสิริ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล นายพานทองแท้ ชินวัตร น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นที่ปรึกษา

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการเลือกตั้ง นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ นายสุทิน คลังแสง รองผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการเลือกตั้ง นายจักรพงษ์ แสงมณี เลขานุการศูนย์ปฏิบัติการเลือกตั้ง 
นอจากนี้ศูนย์ฯดังกล่าว ประกอบไปด้วยอีก 6 กลุ่มงาน ได้แก่ 

1. กลุ่มงานนโยบายและข้อมูลการเลือกตั้ง มี นายภูมิธรรม เวชยชัย นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ นายนพดล ปัทมะ

2. กลุ่มงานบริหารพื้นที่ ภาคเหนือ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ นางสาวกฤษณา สีหลักษณ์ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช นายเกรียง กัลป์ตินันท์ นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ นายพงศกร อรรณนพพร ภาคกลาง นายสุรพงษ์ อึ้งอัมพรวิไล นายชัยเกษม นิติสิริ นายจาตุรนต์ ฉายแสง กรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด นายวิชาญ มีนชัยนันท์ นายวราวุธ ยันต์เจริญ นายดนุพร ปุณณกันต์ ภาคใต้ มีนายจักรพงษ์ แสงมณี นางสาวศรีญาดา ปาลิมาพันธ์

3. กลุ่มงานกฎหมายและป้องกันการทุจริตเลือกตั้ง มีคณะทำงานประกอบด้วย นายชูศักดิ์ ศิรินิล นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ พลตำรวจตรีสุรสิทธิ์ สังขพงศ์ นายกฤช เอื้อวงศ์ นายวัฒนา เตียงกูล

4. กลุ่มงานรณรงค์และผลิตสื่อ นายภูมิธรรม เวชยชัย นายทรงศักดิ์ เปรมสุข นายเฉลิม แผลงศร

5. กลุ่มงานสื่อสารและประชาสัมพันธ์ นายนพดล ปัทมะ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา นางสาวชญาภา สินธุไพร

6. กลุ่มงานปราศรัย รับผิดชอบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และกรุงเทพมหานคร มี ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง ประธานคณะทำงาน นายอดิศร เพียงเกษ คณะทำงาน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด เลขานุการคณะทำงาน รับผิดชอบภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ มี นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานคณะทำงาน นายเอกพร รักความสุข คณะทำงาน นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ เลขานุการคณะทำงาน โดย นายประเสริฐ กล่าวว่า คณะกรรมการทั้งหมด 55 คน มีอำนาจหน้าที่ต่างๆ หลังจากได้มีการแต่งตั้งแล้ว จะเริ่มปฏิบัติหน้าที่ทันที เตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง ที่อาจเกิดขึ้นเวลาใดก็ได้  
 
อย่างไรก็ดี ในรายชื่อทั้ง 55 คนดังกล่าว ที่ต้องจับตาและเป็นจุดสนใจ ก็คือ ชื่อของ “สองพี่น้อง” คือ นายพานทองแท้ ชินวัตร หรือ “โอ๊ค” ลูกชายคนโตของ นายทักษิณ ชินวัตร และ อีกคนหนึ่งก็คือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือ “อุ๊งอิ๊ง” ลูกสาวคนเล็ก ร่วมเป็นคณะกรรมการสำคัญชุดดังกล่าวด้วย  
 
แน่นอนว่า ในวงการย่อมเข้าใจกันดีว่านี่คือการเข้ามา “กำกับ” ในพรรคเพื่อไทยอย่างเต็มตัวของ “ครอบครัวชินวัตร” ที่ถูกมองว่าเป็นลักษณะของการ “สืบทอดทางทายาท” โดยตรง ซึ่งนาทีนี้ไม่ต้องอธิบายกันแล้วว่าพวกเขามีความเชื่อมโยงกันอย่างไรกับพรรคการเมืองนี้  
 
ขณะเดียวกัน การมีชื่อของ “สองพี่น้อง” ที่เป็นทายาทสายตรงของ นายทักษิณ ชินวัตร และ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ถือว่าเป็นการ “เปิดหน้า” เปิดตัวอย่างชัดเจน สำหรับการเข้ามามีบทบาทนำในพรรคต่อเนื่องไปถึงวันเลือกตั้งและหลังการเลือกตั้ง หลังจากก่อนหน้านี้มีการผลักดัน “อุ๊งอิ๊ง” เข้ามามีบทบาทในตำแหน่งประธานยุทธศาสตร์ของพรรคด้านนวัตกรรมและการมีส่วนร่วม และ “หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย” มาแล้ว รวมไปถึงการได้เห็นบทบาทของ คุณหญิงพจมาน ในแบบยืนอยู่ “แถวหน้า” เป็นครั้งแรกในรอบกว่าสิบปี พร้อมๆ กับคนในครอบครัวที่มากันครบครัน จากการไปเปิดตัวให้กำลังใจลูกสาวในงาน “สะบัดชัย” ที่เชียงใหม่ ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา  
 
และที่เป็นเครื่องการันตีว่าเป็นการ “ทุ่มสุดตัว” ของครอบครัวชินวัตร ก็น่าจะเห็นได้จากการเข้ามามีบทบาททางการเมืองเต็มตัวครั้งแรก ของ “โอ๊ค” นายพานทองแท้ ชินวัตร เพราะที่ผ่านมาแม้จะเห็นภาพการเดินช่วยหาเสียงให้กับผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย ในหลายพื้นที่ แต่ก็ไม่มีมีตำแหน่งภายในพรรคเลยสักครั้ง จะเป็นเพราะ “เรื่องส่วนตัว” หรือเปล่าก็สุดแต่จะคาดเดากันไป
 
แต่น่าสังเกตว่า หลังจากที่เขามีครอบครัวแต่งงานเป็นหลักเป็นฐาน ก็เริ่มเห็นบทบาทที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน แบบผิดไปคนละคน ซึ่งจะว่าไปแล้วด้วยสถานะ “ลูกชายคนโต” ด้วยบทบาทแล้วก็น่าจะเป็น “ทายาททางสายเลือด” เบอร์หนึ่งมาตั้งนานแล้ว แต่กลายเป็นว่า มีแนวโน้มกลายเป็น “อุ๊งอิ๊ง” ที่เป็นลูกสาวคนเล็ก มันก็ทำให้คิดกันไปได้ต่างๆ นานา ว่ามีสาเหตุเป็นเพราะอะไรกันแน่ 
 
แต่อย่างไรก็ดี เมื่อล่าสุดได้เห็นชื่อสองคนพี่น้องร่วมอยู่ในคณะกรรมการในศูนย์ปฏิบัติการเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย เพื่อใช้ขับเคลื่อนการเมืองนับจากนี้ ทุกอย่างก็ชัดเจนอย่างเป็นทางการ และคราวนี้ก็สะท้อนให้เห็นแล้วว่า นายทักษิณ ชินวัตร “เปิดหน้า” ออกมาให้เห็นอย่างเต็มที่ ในแบบ “เทหมดหน้าตัก” เพราะรู้ดีว่างานนี้ถ้าพลาดก็ยาวเลย หมดสิทธิ์ได้กลับมา
 
หากมองอีกมุมหนึ่งก็ต้องยอมรับเช่นกันว่า ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า พรรคเพื่อไทยมีโอกาสสูงมากที่ชนะการเลือกตั้ง และได้ ส.ส.จำนวนมากที่สุด หากพิจารณาจากผลสำรวจ หรือโพลจากแทบทุกสำนักล้วนออกมาตรงกันว่า “ทิ้งขาด” แต่ถึงอย่างไรมันก็คนละเรื่องกับการได้จัดตั้งรัฐบาล เพราะการชนะเลือกตั้งไม่ได้การันตี จากลักษณะการเมือง “สองขั้ว” ในยุคนี้
 
ขณะเดียวกัน เมื่อย้อนกลับมาที่การ “ทุ่มหมดหน้าตัก” ด้วยการส่งทายาทโดยตรงเข้าเป็นตัวแทนมองอีกด้านหนึ่งเหมือนกับการ “เปิดหน้าชน” เหมือนกับการ “วัดใจ” กองหนุนว่าจะเอาด้วยเต็มร้อยหรือเปล่า เพราะมันก็มีความเสี่ยงกับเสียงโจมตีจากฝ่ายตรงข้ามในเรื่องที่ไม่ต่างจาก “ธุรกิจการเมือง” ในครอบครัวมีความเด่นชัดขึ้น ไม่ต่างจาก “ลูกเจ้าของคอก” เข้ามาคุมกิจการ ขณะที่ “เถ้าแก่” ตัวจริงกุมเกมชี้นำอยู่ข้างหลัง
 
แต่ไม่ว่าอย่างไร นาทีนี้ถือว่าไม่สนใจอะไรแล้ว ถึงเวลาต้องทุ่มสุดตัว เพราะเป็นเดิมพันครั้งสุดท้ายแล้ว หากพลาดหรือพ่ายแพ้ก็ยาวเลย !!



กำลังโหลดความคิดเห็น