ส.ส.ภท. ส่ง พ.ร.บ.กัญชาฯ ให้ ปธ.สภา บรรจุเข้าระเบียบวาระให้ทัน พ.ย. 65 วอนยุติเกมการเมือง รีบออก กม.คุ้มครองเด็ก คนท้อง เตือนกระแสโลกยอมรับมากขึ้น ส.ส.อินโด จ่อดัน กม.กัญชาฯ “ไบเดน” นิรโทษกรรมผู้ครอบครองกัญชาพ้นผิดแล้ว
วันนี้ (11 ต.ค.) นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญ ร่างพระราชบัญญัติ กัญชา กัญชง พ.ศ. ... กล่าวถึงความคืบหน้าในการพิจารณาพระราชบัญญัติกัญชาฯ ที่ได้มีการเสนอเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร และมี ส.ส.ได้ลุกอภิปรายว่า ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง เป็นกฎหมายที่ยังไม่มีความสมบูรณ์ มีข้อบกพร่องต่างๆ ในที่สุดสภาได้มีความเห็นชอบให้คณะกรรมาธิการได้ถอนร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ที่ได้พิจารณาแล้วเสร็จไปพิจารณาทบทวนเสียใหม่อีกครั้งหนึ่ง
นายศุภชัย กล่าวว่า ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ ได้เชิญ กมธ. เข้ามาประชุมอีกครั้ง ขณะเดียวกัน ได้มีการทำหนังสือไปถึงหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ขอให้ส่งความคิดเห็นข้อห่วงใยเข้ามายัง กมธ. เพื่อจะได้พิจารณากัน และในที่สุดทั้ง 2 พรรค ก็ได้ส่งกลับเข้ามา เข้าใจว่า เป็นความตั้งใจของพรรคการเมืองที่มีเจตนาที่จะทำให้กฎหมายนี้มีความสมบูรณ์ที่สุด แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากที่คณะกรรมาธิการได้พิจารณาแล้ว นำเอาข้อเสนอของทั้ง 2 พรรคเข้ามาศึกษา พบว่า มีประเด็นอยู่พอสมควรที่ท่านห่วงใย ซึ่งกมธ. ก็ได้พิจารณาแต่ละเรื่อง แต่ละประเด็นอย่างละเอียด สิ่งที่พบและที่ท่านห่วงใยนั้น ไม่ใช่เป็นเรื่องใหม่ ที่ กมธ.ไม่ได้แสดงความคิดเห็นหรือไม่ได้มีการพิจารณากัน ซึ่งความห่วงใยที่ท่านมีอยู่ ก็เป็นความห่วงใยเช่นเดียวกันกับที่ คณะกรรมาธิการได้มีการถกกันในประเด็นต่างๆ ซึ่งการประชุมมีทั้งหมด 19 ครั้ง และเป็นการประชุมเต็มวัน ไม่ใช่เพียงแค่ครึ่งวัน ซึ่งแปลว่าพิจารณากันทั้งหมด 38 ครั้ง กว่าจะผ่านไปได้แต่ละมาตรา จากร่างเดิมที่มี 45 มาตรา เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ในประเด็นต่างๆ ก็ได้พิจารณาเพิ่มขึ้นเป็น 95 มาตรา ซึ่ง 95 มาตรานี้ ไม่ได้เพิ่มขึ้นมาแล้วจะทำให้เกิดความหละหลวม แต่ในทางกลับกันคือ เป็นการเพิ่มขึ้นมาจากประเด็นข้อห่วงใยที่เกิดขึ้นจากการที่ทางกมธ.ได้แสดงความคิดเห็น และเห็นว่าเพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ และเป็นการป้องกันสิ่งต่างๆ ที่อาจจะทำให้เกิดขึ้น ทั้งหมดนี้มีอยู่ครบถ้วน
“ความห่วงใยในเรื่องเยาวชน เรื่องของการใช้ไปในทางที่ไม่ถูกต้อง ได้นำเข้าไปบรรจุไว้ โดยนำเอากฎหมายที่มีอยู่แล้วดั้งเดิมของประเทศไทย อย่างเรื่องของกฎหมายยาสูบ สุรา หรือ กระท่อม ซึ่งได้มีการพิจารณาแล้วเสร็จ และประกาศออกมาเป็นกฎหมายเมื่อไม่นานมานี้เองก็ได้นำมาใส่ร่าง พ.ร.บ.นี้ทั้งหมด” นายศุภชัย กล่าว
ประธาน กมธ. กล่าวต่อว่า เรื่องสำคัญที่สุดที่เป็นความห่วงใย ก็คือ ร่างพระบัญญัติของเราที่ได้พิจารณาเป็นไปตามข้อตกลงระหว่างประเทศ หรืออนุสัญญาเดี่ยว ที่ลงนามตั้งแต่ปี 1961 ต่อมามีการลงนามเพิ่มเติมอีก 2 ฉบับ ทั้งหมดที่เราเสนอเข้าไปไม่ได้มีอะไรที่เป็นการขัด หรือแย้งกับอนุสัญญาดังกล่าว ในระหว่างที่เราพิจารณา INCB (คณะกรรมการควบคุมยาเสพติดของสหประชาชาติ) ได้ทำหนังสือแจ้งมายังเรา ว่า มีประเด็นอะไรที่เขาห่วงใย ที่เขาอยากจะให้บรรจุไว้ในกฎหมายของเราผ่านกระทรวงการต่างประเทศมาแล้วก็ถึงประธานกมธ.โดยตรง และเราก็ได้นำข้อห่วงใยนั้นมาปรับใส่เข้าไปในกฎหมายฉบับนี้ เพราะฉะนั้นกฎหมายในร่างกฎหมายฉบับนี้ จึงไม่มีอะไรที่ขัด หรือแย้ง
นายศุภชัย กล่าวว่า ในส่วนของคณะกรรมาธิการ ประกอบด้วยสมาชิกพรรคการเมืองทุกพรรค พรรคใหญ่อย่างพรรคเพื่อไทยมีจำนวนสมาชิกมากที่สุดที่มาเป็นคณะกรรมาธิการเรียงไปตามลำดับ และมีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด รองเลขาธิการ ป.ป.ส. นักกฎหมายจากคณะกรรมการกฤษฎีกา เพราะฉะนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือผู้ที่มีความเข้าใจ รอบรู้ในเรื่องของกัญชาในประเทศนี้ เช่น นักวิชาการ แพทย์ ทุกๆ ฝ่ายร่วมกันมา ในระหว่างนั้นหรือก่อนหน้าที่เราจะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ก็มีข้อห่วงใยจากองค์กรต่างๆ ไม่ว่าองค์กรแพทย์ ราชวิทยาลัย ทางการแพทย์ โรงเรียนแพทย์ หน่วยงานต่างๆ ทุกภาคส่วน NGO ด้านเยาวชน ต่างก็แสดงความคิดเห็นเข้ามา ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ได้อยู่ในกฎหมายนี้ทั้งหมดแล้ว เพราะฉะนั้น หลังจากที่ กมธ. ได้พิจารณาก็ได้ออกมาเป็นกฎหมายฉบับหนึ่ง และสิ่งที่อยากจะเน้นย้ำ คือ เมื่อทั้ง 2 พรรคการเมือง ได้ส่งข้อห่วงใยแสดงความเห็นมาเราก็ได้มาพิจารณา ว่าทั้งหมดที่ท่านเสนอมา ไม่ใช่เป็นเรื่องใหม่ที่คณะกรรมาธิการไม่เคยพูดกันมาก่อน ทุกเรื่องมีอยู่ในร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้แล้ว
นายศุภชัย กล่าวอีกว่า บางเรื่องกรรมาธิการส่วนใหญ่ยังยืนยันความเห็นเสียงส่วนใหญ่ แต่ในความเห็นเหล่านี้วิธีการทางด้านนิติบัญญัติในการพิจารณากฎหมาย กมธ.เสียงข้างน้อยก็ยังสงวนความเห็นที่จะอภิปราย หรือขอให้ตัดสิ่งที่ กมธ. เสียงข้างมากเสนอเข้ามาเป็นร่างกฎหมาย กมธ. เสียงข้างน้อยมีความเห็น ก็เป็นความเห็นที่ตรงกับทางพรรค 2 พรรค ที่ได้เสนอเข้าไป เพราะฉะนั้นทั้งหมดจะไปปรากฏอยู่ในกระบวนการการพิจารณาในวาระ 2 พิจารณารายมาตรา ซึ่งถ้าที่ประชุมเสียงส่วนใหญ่ มีความเห็นพ้องต้องกับ กมธ.ข้างน้อย นั่นแปลว่า กมธ. เสียงข้างน้อยก็จะต้องได้รับการลงมติเห็นชอบจากที่ประชุมใหญ่ ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งก็อาจจะตรงกันกับสิ่งที่ท่านห่วงใย แต่ไม่ได้หลุดกรอบไปจากที่ท่านเป็นห่วง ทั้งหมดมีอยู่ใน ร่าง พ.ร.บ.นี้แล้ว
“สำหรับกฎหมายฉบับนี้มีผู้แปรญัตติมีมากถึง 17-18 ท่าน แปลว่า ในขณะที่ได้มีการเสนอเข้ามา กมธ. ได้รับการแปรญัตติจากสมาชิก ทั้งสภา คือ ทุกส่วน ทุกภาค ในระหว่างการที่จะพิจารณากฎหมายฉบับนี้ ก็ได้มีการทำความเข้าใจ และเห็นด้วย ไม่เห็นด้วยในประเด็นต่างๆ มาตั้งแต่ต้นแล้ว จนในที่สุดได้มีการพิจารณาโดยคณะกรรมาธิการ หลังจากที่ท่านห่วงใยแล้วเราถอนเรื่องกลับมาพิจารณากัน มีการประชุม 2 ครั้ง ในที่สุดก็เห็นว่าสิ่งที่ท่านได้เสนอมาเราก็รับไว้พิจารณาแล้ว ได้ทบทวนอย่างที่ขอมา และได้ดำเนินการส่งรายงานฉบับนี้ กลับไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้บรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระที่จะมีการเปิดในสมัยประชุมต่อไปในในเดือนพฤศจิกายน 2565 นี้” นายศุภชัย กล่าว
นายศุภชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า สิ่งที่อยากจะเรียนถึงพี่น้องประชาชนว่าสิ่งที่คณะกรรมาธิการได้ร่วมกันทำงาน ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้จะเสนอโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แต่เมื่อเสนอเข้าไปสู่การพิจารณาของคณะกรรมาธิการแล้ว ร่างทั้งหมดเป็นร่างของกรรมาธิการวิสามัญร่างพระราชบัญญัติ กัญชา กัญชง ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับพรรคการเมืองไหน ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้เป็นร่างพระราชบัญญัติ ที่มุ่งประสงค์ที่จะนำมาใช้ประโยชน์อย่างสูงสุด เป็นประโยชน์ในเชิงทางการแพทย์ และในเชิงเศรษฐกิจต่อไปในอนาคต ที่สำคัญ ร่างกฎหมายฉบับนี้ควรจะเป็นร่างของประชาชนคนไทยทั้งประเทศที่จำเป็นที่จะต้องใช้ ในขณะเดียวกันร่างพระราชบัญนี้ก็ได้ปกป้องสังคมอย่างสมบูรณ์ที่สุด เพราะฉะนั้น จึงขอวิงวอนต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ว่า ได้โปรดเร่งที่พิจารณาร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ให้แล้วเสร็จเสียโดยเร็วเพื่อจะได้ใช้ได้ทัน และขอเรียกร้องต่อท่านประธานสภาผู้แทนราษฎรให้เร่งบรรจุร่างพระราชบัญญัติ ให้เร่งนำเรื่องนี้เข้ามาพิจารณาในวาระต้นๆ ของเราเพื่อจะทำให้กฎหมายนี้เสร็จสิ้นสมบูรณ์
“ผมอยากจะขอร้องว่า อย่าทำเรื่องนี้เป็นเรื่องการเมือง เพราะเรื่องนี้เป็นผลประโยชน์ของบ้านเมือง ขอให้ได้ทำให้พระราชบัญญัติกัญชา กัญชง เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง โปรดก้าวข้ามเรื่องการเมืองเสีย แล้วเราจะทำให้พี่น้องประชาชนจะได้ประโยชน์อย่างเต็มที่”
“เมื่อ 3-4 วันที่ผ่านมา ได้มีโอกาสไปประชุม กลุ่มประเทศ G20 ประเทศอินโดนีเซีย ที่นครจาการ์ตา วันนี้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกำลังเตรียมร่างพระราชบัญญัติกัญชาทางการแพทย์ ของอินโดนีเซีย เพื่อจะเสนอเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรของเขา เพื่อจะออกมาเป็นกฎหมายบังคับใช้ เพื่อจะนำกัญชาซึ่งสามารถนำมาใช้ประโยชน์ทั้งการแพทย์ และในเชิงเศรษฐกิจต่อไปได้ด้วย”
นายศุภชัย กล่าวว่า ขณะนี้ ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของประเทศสหรัฐอเมริกา ใช้อำนาจของประธานาธิบดี มีการออกนิรโทษกรรม สำหรับผู้ต้องขังที่ผู้ต้องโทษที่อยู่ในเรือนจำทั้งประเทศที่มีความผิดฐานเรื่องของการมีกัญชาไว้ในครอบครอง ออกจากเรือนจำทั้งหมดแล้ว นี่แปลว่า ทิศทางของโลกกำลังมุ่งไปในทิศทางเดียวกัน แต่ทำไมเราจะปล่อยปละละเลยทั้งๆ ที่เรามีความพร้อมแล้ว มีภูมิประเทศที่พร้อมเพรียง มีผู้ที่มีความเข้าใจ รู้เรื่องกัญชาในการปลูกกัญชาได้ไม่น้อย และข้อสำคัญก็คือ วันนี้เรามีกฎหมายที่พร้อมที่จะเสนอ ยิ่งเร็วที่สุดโอกาสที่จะได้ประโยชน์จากกัญชากว่าประเทศอื่นจะมาถึงเรา เพราะฉะนั้นขอวิงวอนให้ร่วมกันผลักดันเรื่องนี้ให้สำเร็จด้วย