4 เครือข่ายกัญชา ยื่น "ชวน-ศุภชัย" หนุน ร่างพ.ร.บ.กัญชาฯ "ศุภชัย" เผย ถกกมธ.นัดสุดท้ายก่อนเสนอกลับเข้าสภาอีกรอบ เผย ปชป.-พท.ส่งประเด็นข้อห่วงใยมาแล้ว ส่วนใหญ่ไม่อยู่นอกเหนือจากในร่าง มั่นใจเสียงส่วนใหญ่ให้ผ่านทันสภาชุดนี้
วันนี้ (3ต.ค.) เมื่อเวลา 12.15 น. ที่รัฐสภา กลุ่มต่างๆ ประกอบด้วยสมาคมวิจัยแห่งประเทศไทย เครือข่ายวิสาหกิจชุมชนพืชสมุนไพรทางการแพทย์เพื่อสังคม สมาคมอุตสาหกรรมกัญชา กันชง กลุ่มสายเขียว และสมาคมแพทย์แผนไทยแห่งประเทศไทย ได้ยื่นหนังสือสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง (ฉบับที่…) พ.ศ…. ต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่านนพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร และ นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว
ทั้งนี้นายพิพัฒน์ นนทนาธรณ์ นายกสมาคมนักวิจัยแห่งประเทศไทย ตัวแทนกลุ่มดังกล่าว กล่าวว่า ทางสมาคมฯได้ติดตามเรื่องร่างพ.ร.บ.กัญชามาโดยตลอด เนื่องจากเราได้ดำเนินการอบรมเรื่องการวิจัยทางด้านกัญชา กัญชงมาตั้งแต่ปี 61 และเกาะติดสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และมองเห็นศักยภาพของกัญชา กัญชง ที่จะพัฒนาประเทศได้ และสิ่งที่กมธ.ได้ยกร่างและพิจารณาปรับปรุงมาตราต่างๆ ทางสมาคมฯมองเห็นว่าน่าจะไปได้เพราะมีคนที่มีส่วนได้เสีย โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ใช้ยาอยู่ ซึ่งก่อนหน้านี้เข้าถึงได้ยาก และไม่มีคุณภาพ ซึ่งการมีร่างพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวสามารถช่วยให้ผู้ป่วยเข้าถึงยาได้อย่างมีคุณภาพและใช้ได้อย่างถูกต้อง
ส่วนที่มีการกังวลว่าจะถูกนำไปใช้ในนันทาการ ตนคิดว่าในส่วนของประกาศของกระทวงมีความครอบคลุมอยู่แล้ว แต่หากพิจารณาตามร่างพ.ร.บ.ก็สามารถออกเพิ่มเติมได้ เพื่อให้มีโทษทางอาญาต่างๆได้ เช่นการขายให้เด็กที่อายุต่ำกว่า 18-20 ปี ตามที่กฎหมายกำหนด ฉะนั้นเพื่อไม่ให้มีสูญญากาศมาก เราจึงอยากเรียกร้องให้ทางสภาได้พิจารณาให้ร่างพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวผ่านวาระ2 และ3 รวมถึงให้ผ่านที่ประชุมวุฒิสภาและมีการประกาศใช้เป็นกฎหมาย
"เราเห็นด้วยแต่ก็มีบางข้อที่เราให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ทั้งนี้ แม้จะมีการปลดล็อคแล้วแต่ก็ยังไม่มีการคุมอย่างเต็มที่ ซึ่งหากมีประกาศกระทรวงหรือร่างพ.ร.บ.ออกมาแล้วน่าจะคุมได้มากกว่านี้ "
ด้านนายศุภชัย กล่าวว่า หลังจากที่ประชุมสภามีมติให้ถอนร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง ออกจากวาระการประชุมสภา วันนี้ทางกมธ.ได้มีการประชุมครั้งสุดท้ายหลังจากที่ได้รับประเด็นข้อสงสัย และข้อห่วงใย จากพรรคประชาธิปัตย์(ปชป)และพรรคเพื่อไทย(พท.)แล้ว ซึ่งจากที่พิจารณาประเด็นเหล่านั้นพบว่า สิ่งที่ห่วงใยไม่ได้อยู่นอกเหนือ จากในร่างพ.ร.บ.ที่เรานำเสนอต่อสภาเลย อย่างน้อยแสดงให้เห็นว่า เราไปในทิศทางเดียวกัน วันนี้จึงหวังว่าหลังกมธ.ทบทวนและนำเสนอเข้าสู่สภาอีกครั้งทางสภาจะบรรจุเป็นระเบียบวาระแล้วจะพิจารณาให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว เพราะขณะนี้สถานการณ์น่าเป็นห่วงจากข่าวต่างๆที่เกิดขึ้น แม้จะเป็นกรณีเล็กน้อย แต่ก็ทำให้เห็นว่าประกาศของกระทรวงสาธารณสุข ยังสามารถบังคับใช้ได้พอสมควร แต่เรื่องความเสรีมันไม่มีจำกัดและกลับมีมากเกินไป ซึ่งกฎหมายฉบับนี้จะสามารถคุ้มครองสังคม ให้ปลอดภัยยิ่งขึ้นอย่างสบายใจได้
"สิ่งที่เราได้ข้อสรุปอีกอย่างหนึ่งคือปัญหาสังคมไทยมีความไม่รู้ ไม่เข้าใจในเรื่องกัญชาเพียงพอ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ ดังนั้นกมธ. จึงได้เขียนไว้ในร่างกฎหมายมอบอำนาจให้หน่วยราชการที่รับผิดชอบต้องให้ความรู้ การศึกษากับสังคมให้มากขึ้น เพราะไม่อยากให้ประโยชน์ของกัญชาที่มีอย่างมากมายต้องตกไป เพราะมีปัจจัยอื่นเข้า ผมคิดหากสภาได้รับรู้เจตนารมณ์นี้ ก็จะเดินหน้าผลักดันออกมาเป็นกฎหมายได้ภายในสภาชุดนี้"นายศุภชัยกล่าว