โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยต่อกรณีการจับกุมขบวนการจำหน่ายธนบัตรดอลลาร์ปลอม เพื่อนำไปขายให้กับร้านแลกเงิน และการรับแลกเงินผ่านทางออนไลน์ นายกรัฐมนตรี สั่งการว่า ให้เข้มงวด จับกุม ขบวนการจำหน่ายธนบัตรดอลลาร์ปลอม เตือนประชาชนแลกเงินกับร้านค้าที่น่าเชื่อถือเท่านั้น
วันนี้ (11 ต.ค.) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ต่อกรณีการจับกุมขบวนการจำหน่ายธนบัตรดอลลาร์ปลอมเพื่อนำไปขายให้กับร้านแลกเงิน และการรับแลกเงินผ่านทางออนไลน์ ซึ่งล่าสุด กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ประสานงานร่วมกับสำนักงานหน่วย US Secret Service ประจำสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ได้จับกุม ผู้ต้องสงสัย พร้อมของกลางธนบัตรต่างประเทศสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ใบละ 100 ดอลลาร์สหรัฐ ลักษณะเป็นแบงก์สภาพใหม่ทั้งหมด จำนวน 9,000 ใบ มูลค่ากว่า 34 ล้านบาท โดยเบื้องต้นได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันทำปลอมธนบัตรที่รัฐบาลต่างประเทศออกใช้หรือให้อำนาจให้ออกใช้” นั้น
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการ กำชับ ให้เข้มงวดต่อการทำความผิดลักษณะดังกล่าว ทั้งนี้ ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สืบสวนพบการจำหน่ายธนบัตรดอลลาร์ปลอมจำนวนมากถูกนำไปขายให้กับร้านแลกเงินและผู้ที่ต้องการเงินสกุลดังกล่าว ผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ เมื่อได้ตรวจสอบเงินของกลางที่ได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่หน่วย US Secret Service ประจำสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีภารกิจสืบสวนปกป้องระบบทางการเงินของสหรัฐอเมริกาจากอาชญากรรมทางการเงินและอาชญากรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ว่า ธนบัตรดอลลาร์สหรัฐของกลางดังกล่าวทั้งหมดเป็นธนบัตรปลอมแต่มีความใกล้เคียงกับธนบัตรของจริงมาก โดยที่ผ่านมาในอดีตพบการแพร่ระบาดไปที่เมืองไทย และประเทศเพื่อนบ้าน
“นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำให้มีการบังคับใช้กฎหมายจัดการขบวนการ กลุ่มมิจฉาชีพต่างๆ ที่สร้างความเดือดร้อนให้สังคม และประชาชนอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ โทษฐานปลอมหรือแปลงธนบัตร คือจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 10-20 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-40,000 บาท ตามประมวลกฎหมายอาญา และขอเตือนให้ประชาชนใช้ความระมัดระวัง เลือกร้านค้ารับแลกเงินที่น่าเชื่อถือเท่านั้น” นายอนุชา กล่าว