“เสรีพิศุทธ์” โวย กกต.ออกกฎเหล็ก 180 วัน เอื้อผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ปิดกั้นฝ่ายค้านช่วยเหลือ ปชช.ยามเดือดร้อน จี้ เลขาฯ กกต.เร่งแก้ไขภายใน 1 สัปดาห์ หากไม่ทำเตรียมนำเข้า กมธ.ป.ป.ช.
วันนี้ (5 ต.ค.) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกประกาศแนวทางการปฏิบัติ และข้อควรระมัดระวังในช่วงระยะเวลาเลือกตั้ง ส.ส.ของผู้สมัคร และพรรคกการเมืองในช่วง 180 วัน ก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง ว่า เท่าที่ตนได้อ่านรายละเอียดของประกาศดังกล่าวแล้ว คิดว่า ไม่ควรเป็นเช่นนี้ เพราะเป็นการบังคับผู้สมัครและพรรคการเมืองไม่ให้ทำอย่างโน้นอย่างนี้ แต่เปิดโอกาสให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองสามารถดำเนินการได้ เป็นประกาศที่ทำให้เห็นว่า กกต.ที่มาจากการเมืองวางตัวไม่เป็นกลาง ออกประกาศเอาเปรียบพรรคการเมืองฝ่ายค้าน เช่น ผู้สมัครเลือกตั้งและพรรคการเมืองไม่สามารถมอบสิ่งของช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์ต่างๆ ได้ โดยเฉพาะการมอบสิ่งของช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาอุทกภัย และอัคคีภัย รวมถึงโรคระบาดต่างๆ ได้ ซึ่งในช่วงนี้มีพายุโนรู ทำให้เกิดน้ำท่วมทั่วประเทศจนประชาชนเดือดร้อน แต่ กกต.ยังกล้าออกประกาศมาแบบนี้อีก ทำให้พวกเราทำอะไรไม่ได้เลยในยามที่ประชาชนกำลังเดือดร้อนต้องการความช่วยเหลือจากพรรคการเมืองและผู้สมัคร แม้จะเห็นในสายตาใกล้ๆว่าเขากำลังเดือดร้อน แต่กกต.กลับเอื้อประโยชน์ให้รัฐบาลและผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
“เมื่อวานนี้ (4 ต.ค.) นายกฯ ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี แต่พวกเราทำไม่ได้เลย นายกฯใช้ตำแหน่งหน้าที่และใช้เงินหลวงไปดูแลประชาชนได้ ถามว่า เป็นการเอาเปรียบพรรคการเมืองต่างๆ หรือไม่ และยังไปเป็นประธานพิธีเปิดงานต่างๆ ลงตรวจพื้นที่ พบประชาชนได้ แต่ปิดโอกาสพรรคการเมืองฝ่ายค้าน กกต.ออกประกาศเอื้อประโยชน์ให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวต่อว่า ส่วนที่ นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.บอกว่า มีความจำเป็นต้องออกประกาศเช่นนี้ เพราะเป็นไปตามกฎหมายนั้น เนื้อหาของประกาศไม่ควรเป็นเช่นนี้ ดังนั้น ขอให้เลขาธิการ กกต.ไปแก้ไขประกาศใหม่ เพราะผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองคงลงพื้นที่ไม่ทั่งถึง เพื่อให้นักการเมืองทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน ไม่เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบกัน หากเลขาธิการ กกต.ไม่ยอมแก้ไขประกาศนี้ภายใน 1 สัปดาห์ ตนจะเสนอเรื่องนี้ต่อที่ประชุม กมธ. เพื่อตรวจสอบประกาศดังกล่าวว่าออกมาสุจริตเที่ยงธรรมและชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ รวมถึงเชิญเลขาธิการ กกต.มาชี้แจงด้วย