หญิงแม่ไม่ช่วยอะไร “อุ๊งอิ๊ง” เรตติ้งตก “สมคิด” แคนดิเดตนายกฯ คนเชื่อมั่น เชื่อมือ ** “บบ.” ชัชชุอร โมกศรี นักตบสาว “มงลง” บนเวทีโลก

ข่าวปนคน คนปนข่าว

**หญิงแม่ไม่ช่วยอะไร “อุ๊งอิ๊ง” เรตติ้งตก “สมคิด” แคนดิเดตนายกฯ คนเชื่อมั่น เชื่อมือ

กางไทม์ไลน์การเมืองออกมาก็จะเห็นว่า เหลือเวลาไม่มากนักที่ใกล้เลือกตั้งกันใหม่ อุณหภูมิการเมืองตอนนี้จึงเรียกว่าเดือดปุดๆ “นายกฯ ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะอยู่จะไป 30 ก.ย.นี้ ทุกพรรคการเมืองดูเหมือนจะมองข้ามช็อตกันไปแล้ว แต่ละค่ายแต่ละพรรค ต่างจัดอีเวนต์ ลงพื้นที่กันถี่ๆ พยายามช่วงชิงสร้าง “กระแส” เรียกคะแนนกัน

พูดถึงกระแส ก็ต้องพูดถึงโพลที่เป็นดัชนีชี้วัด “เรตติ้ง” ปรากฏว่า ล่าสุด “นิด้าโพล” โพลที่เชื่อถือได้มากกว่าใคร ได้เปิดผล “การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาส ครั้งที่ 3/2565” ที่ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 15-21 ก.ย.ที่ผ่านมา

โฟกัสไปที่ “แคนดิเดต” นายกฯ จากการถามประชาชนว่า ต้องการสนับสนุนใคร ผลออกมาส่วนใหญ่ตอบว่า “ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้” ไม่มีใครอยู่ในดวงใจของชาวบ้านเลย มาเป็นอันดับแรก เปอร์เซนต์สูงถึง 24.16

ขณะที่อันดับ 2 ร้อยละ 21.60 ระบุว่า เป็น “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ที่ “พ่อโทนี่” ทักษิณ ชินวัตร ส่งเข้าประกวดทวงคืนอำนาจรัฐ, อันดับ 3 “เสี่ยทิม” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล, อันดับ 4 เป็นเจ้าเก่า “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา, อันดับ 5 “หญิงหน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ พรรคไทยสร้างไทย, อันดับ 6 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส พรรคเสรีรวมไทย, อันดับ 7 ตอบว่า “ไม่ตอบ/ไม่สนใจ”


ขณะที่ อันดับ 8 ระบุว่า เป็น “หมอหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ว่ากันว่า เลือกตั้งครั้งที่จะถึงนี้ ภูมิใจไทย มีสิทธิ์น่ากวาด ส.ส.ได้มากกว่าคราวที่แล้วไม่ยากเย็น, อันดับ 9 เป็น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว พรรคเพื่อไทย และอันดับ10 เป็น บุรุษผู้แข็งแกร่งในปฐพี ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่วันนี้อยู่ในตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.

นี่คือ 10 อันดับแรก ของแคนดิเดตนายกฯ ที่นิด้าโพลสำรวจมา

ถ้าไล่ลงไปดูรายละเอียด กลุ่มรายชื่อต่ำกว่า 10 ลงมา ที่หากเอ่ยชื่อขึ้นมาก็ถือเป็น “บิ๊กเนม” ในวงการการเมือง อาทิ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่ของ “3 ป.” หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ, กรณ์ จาติกวณิช, จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

ที่น่าสนใจอยู่ที่ “เฮียกวง” สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่เพิ่งเปิดตัวเข้ามาเป็นประธานพรรคสร้างอนาคตไทย ติดเข้ามาอยูที่อันดับ 12 ถือว่าออกสตาร์ทได้แรง แซงกลุ่มคนหน้าเดิม อย่าง “จุรินทร์” หรือกระทั่ง “ลุงป้อม”


เหตุผลที่ประชาชนต้องการสนับสนุน “เฮียกวง” ก็น่าสนใจเช่นกัน เพราะมีความรู้ความสามารถ เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ เป็นคนที่พูดจริงทำจริงและมีความน่าเชื่อถือ ขณะที่บางส่วนระบุว่า เชื่อมั่นในการทำงาน

เหตุผลนี้น่าจะเป็นคนเดียวที่ประชาชน เชื่อถือ เชื่อมือ เชื่อใจ ในการทำงาน จากผลงานการดูแลเศรษฐกิจให้รัฐบาลมาหลายยุค

ขณะที่เหตุผลคนอื่นๆ ตั้งแต่อันดับสอง “อุ๊งอิ๊ง” ที่เลือกเพราะ ต้องการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ เข้ามาบริหารประเทศ ชื่นชอบพรรคเพื่อไทย นโยบายของพรรค คล้ายๆ กับ “พิธา” ที่คนเห็นว่า เป็นคนรุ่นใหม่

ส่วน “ลุงตู่” เลือกเพราะบุญเก่า ทุกอย่างสงบจบที่ลุง ที่เลือก “หญิงหน่อย” เพราะชอบผลงานในอดีต เลือก “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์” เพราะตรงไปตรงมา เลือก “หมอหนู” อนุทิน เพราะชื่นชอบผลงานที่ผ่านมา ขณะที่บางส่วนระบุว่า ชื่นชอบนโยบายพรรคภูมิใจไทย


เพราะฉะนั้นจะเห็นว่า “สมคิด” จากสร้างอนาคตไทย ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ แคนดิเดตตัวเต็งทั้งหลายต้องมีเหล่กันบ้างล่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “อุ๊งอิ๊ง” หัวหน้าครอบครัวชินวัตร ยิ่งมายิ่ง “เรตติ้งตก” แม้จะพยายามสร้างกระแส ขนาด “ตัวแม่” คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร ออกจากบ้านทรายทอง มาปรากฏตัวกับสาธารณชนเชียร์ลูกอิ๊ง ทางหนึ่งนั้นเพื่อปั่นกระแส อีกทางหนึ่งหวังสยบข่าวว่า “ชินวัตร” เหนียว “กระสุน” จนลูกพรรคแตกรัง เลือดไหล และแม้ “พ่อโทนี่” และ “อาปู” ยิ่งลักษณ์ จะมาป้วนเปี้ยนๆ ทำทีมาเที่ยวใกล้ๆ บ้านอย่างมาเลเซีย ก็ยังช่วยอะไร “อุ๊งอิ๊ง” ไม่ได้

กล่าวคือ เมื่อเปรียบเทียบกับผลการสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาสครั้งนี้ กับครั้งที่ 2/65 เดือน มิ.ย. 65 พบว่า ผู้ที่ระบุว่า น.ส.แพทองธาร มีสัดส่วนลดลง ชัดเจน

งานนี้ เวลาเหลือน้อยแล้ว คอการเมืองคงต้องจับตาดูการขับเคี่ยวของเหล่าบรรดา “แคนดิเคต” ทั้งหลาย สุดท้ายแล้วใครจะแรง ใครจะปัง ใครจะถึงฝั่งฝัน ใครจะสะดุด หลุดวงโคจร

อย่าลืมว่า ผลโพลอันดับหนึ่ง ณ ตอนนี้ คือ “ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้” จึงไม่แน่นัก พอถึงเวลาลง “สนามสู้ศึกสงครามจริง” อาจจะมีชื่อ “คนหน้าใหม่” ที่ไม่มีใครคาดคิด แต่มีคุณสมบัติเพียบพร้อม ไม่ได้มีชื่ออยู่ในโพลโผล่พรวดขึ้นมาก็เป็นได้

ใครคนนั้น คือใคร? ตอนนี้ก็ให้คาดเดากันไปพลางๆ ก่อนละกัน นะจ๊ะ!.



** “บบ.” ชัชชุอร โมกศรี นักตบสาว “มงลง” บนเวทีโลก

นอกจากช่วยเล่นกันทั้งทีม และการวางแผนแก้เกมของ “โค้ชด่วน” ดนัย ศรีวัชรเมธากุล หัวหน้าผู้ฝึกสอนวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย จนสู่ชัยชนะ ประเดิมนัดแรก ไปแบบสะใจคนไทยทั้งชาติ ที่ยังคงโจษจันไปทั่วทุกหัวระแหงในพาราโลกโซเชียลฯ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะแฟนๆ กีฬาตอนนี้เรียกว่า “ใจฟู” กันสุดๆ ยินดีและปลาบปลื้มไปกับฟอร์มของน้อง บุ๋มบิ๋ม “ชัชชุอร โมกศรี” ฮีโร่ MVP หมายเลข 19 ผู้ทำ 33 คะแนน พาทีมวอลเลย์บอลหญิงไทยระเบิดฟอร์มเอาชนะตุรเคีย ทีมอันดับ 6 ของโลก 3-2 เซต ในรายการ “FIVB Women's World Championship 2022” ที่ สนามเจลเรโดม เมืองอาร์เนม ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 24 ก.ย. ที่ผ่านมา

จากวันนั้นสู่วันนี้ ทำให้ใครๆ ต่างก็อยากรู้จัก “น้องบุ๋มบิ๋ม” หรือที่แฟนๆ รู้จักกันว่า “บบ.” นั้นมากขึ้น แม้ว่าจริงๆ แล้วชื่อเสียงของเธอก็เป็นที่รู้จักของแฟนๆ มาพักใหญ่ๆ แล้ว จากผ่านการเล่นชิงแชมป์โลกครั้งแรก เมื่อปี 2014 ตามด้วยปี 2018 และ 2022 เป็นสมัยที่ 3

“ชัชชุอร” ปัจจุบันสังกัด “สโมสรซาริเยร์ เบลิเยดิซี่” ในตุรกี เล่นในตำแหน่งตัวตบหัวเสา เกิดเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2542 วันนี้ด้วยวัย 23 ปี ถือว่าเธอจะเป็นกำลังหลักของทีมชาติไทยไปอีกนาน

“บุ๋มบิ๋ม” เป็นชาว อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ฝึกฝนพากเพียรเล่นวอลเลย์บอล มาตั้งแต่เป็นเยาวชนเรียนชั้นมัธยม ไต่ระดับพัฒนาฝีมือมาอย่างต่อเนื่อง


เมื่อใดก็ตามที่เข้าร่วมรายการแข่งขันระดับเยาชนนานาชาติ ในนามทีมชาติไทยเธอก็สร้างเกียรติประวัติการลงเล่นให้ตัวเองได้อย่างโดดเด่น จนถูกตั้งฉายา “บบ.ผู้สร้างตำนานทุกสนาม”

ถ้าไล่เรียงกันตั้งแต่ปี 2014-2019 “ชัชชุอร” เป็นผู้เล่นที่ได้รับเลือกให้เป็น “ผู้เล่นทรงคุณค่า” และ “ตัวตบหัวเสายอดเยี่ยม” และ “ตบยอดเยี่ยม” ในทุกปี

วันนี้ต้องบอกว่า นักตบสาวทีมชาติไทยผู้นี้กลายเป็น “ไอดอล” ของเด็กผู้หญิงด้วยกัน ทั้งความมานะพยายาม อดทน และเป็นแบบอย่างที่ดี ของน้องๆ

ว่ากันว่า “ชัชชุอร โมกศรี” เมื่อมีเวลาว่างเว้นจากการฝึกซ้อมและแข่งขัน ก็ไม่ลืมที่จะกลับไปที่โรงเรียนที่พุทไธสง ไปให้กำลังใจน้องๆ และเยี่ยมเยียนครูบาอาจารย์อยู่เสมอ

หลายๆ คนที่รู้จัก “บบ.” นอกจากจะยอมรับความเก่งกาจในวันนี้ แต่ก็จะรู้ดีกว่า “บบ.” นั้นผ่านอะไรมาเยอะ เส้นทางการเป็นผู้เล่น “ทรงคุณค่า” “นักตบหัวเสายอดเยี่ยม” นั้นไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่เป็นเพราะ วินัย และความมุ่งมั่นตั้งใจ ซึ่งวันเวลาก็ได้พิสูจน์ตัวตนของเธอมาเป็นอย่างดี กระนั้นเมื่อใดก็ตามที่ประสบความสำเร็จ “บุ๋มบิ๋ม” ก็ไม่ลืมยกเครดิตให้กับโค้ชผู้เปรียบเป็นอาจารย์ อย่างที่เธอโพสต์ไว้ผ่านเพจ ระบุ “จากวันนั้น สู่วันนี้” พร้อมถ่ายภาพคู่กับ “โค้ชอ๊อด” เกียรติพงษ์ รัชตะเกรียงไกร ผู้ปลุกปั้น เด็กนักเรียนหญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งก้าวสู่ความสำเร็จในนามตัวแทน “ทีมชาติไทย” จนได้รับรางวัลในครั้งนี้

ฟังว่า โพสต์นี้มีแฟนๆ กีฬาเข้ามาแสดงความเห็นเป็นจำนวนมาก ด้วยความประทับใจ นักตบสาวทีมชาติไทย

งานนี้ เชื่อว่า โปรแกรมหน้า ที่ทีมวอลเลย์บอลสาวไทย จะลงสนามดวลกับเจ้าภาพร่วม ทีมชาติโปแลนด์ คืนวันที่ 27 ก.ย.นี้

หรือนัดต่อๆ ไป ที่ทีมชาติไทยลงแข่ง จะมีคนติดตามผลงาน “ชัชชุอร” มากขึ้น และแน่นอนว่า ลุ้นและเชียร์ ให้ “น้องบุ๋มบิ๋ม” และทีมชาติไทย “มงลง” ในเวทีโลกไปนานๆ