ส.ส.เพชรบูรณ์ พปชร. เชื่อขึ้นป้ายต้อนรับ “ประวิตร” ไม่ผิดระเบียบ กกต. ชี้ไม่ได้มุ่งเน้นหาเสียง แต่เพื่อประชาสัมพันธ์งานอุ้มพระดำน้ำ ซึ่งเป็นประเพณีที่มีมานาน
วันนี้ (25 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลงพื้นที่ตรวจราชการในพื้นที่ อ.เมืองเพชรบูรณ์ ของพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี โดยจุดพิธีอุ้มพระดำน้ำ ณ วัดโบสถ์ชนะมาร ทางพื้นที่ผู้จัดงานได้มีการขึ้นป้ายขนาดใหญ่ต้อนรับ ระบุว่า “ชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ ยินดีต้อนรับ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประธานพิธีอุ้มพระดำน้ำประจำปี 2565 จังหวัดเพชรบูรณ์ วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน 2565”
ขณะเดียวกัน ยังมีป้ายขนาดใหญ่ ต้อนรับ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง โดยมี ส.ส.จังหวัดเพชรบูรณ์ ในพื้นที่ร่วมในภาพด้วย
อย่างไรก็ตาม ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ จังหวัดเพชรบูรณ์ ที่มาร่วมพิธีอุ้มพระดำน้ำ และให้การต้อนรับ พลเอก ประวิตร และ นายสันติ ประกอบด้วย นางวันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ ส.ส.เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ นายจักรัตน์ พั้วช่วย ส.ส.เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ น.ส.พิมพ์พร พรพฤฒิพันธุ์ ส.ส.เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ นายเอี่ยม ทองใจสด ส.ส.เขต 5 พรรคพลังประชารัฐ จังหวัดเพชรบูรณ์ และ นางสาวกัลยา รุ่งวิจิตรชัย ส.ส. เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ จ.สระบุรี
ด้าน นายเอี่ยม ทองใจสด ส.ส. เขต 6 จังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวถึงกรณีระเบียบข้อกำหนดเรื่องป้ายหาเสียงของ กกต.ที่มีการกำหนดขนาดไม่เกิน 1.2 x 2.4 ม. ซึ่งมีการติดตั้งช่วงที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกฯ ลงพื้นที่เพชรบูรณ์ จะส่งผลต่อประกาศดังกล่าวหรือไม่ ว่า งานอุ้มพระดำน้ำเป็นประเพณีที่มีมายาวนาน จึงจำเป็นต้องมีการประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบ ตนจึงไม่คิดว่าจะมีปัญหากับข้อระเบียบของ กกต. พร้อมกับมองว่า ป้ายดังกล่าวไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การหาเสียง เพราะเสียงได้หามานานแล้ว พร้อมย้ำว่า จากการเข้าใจของตนคงไม่มีปัญหา แต่หากมีปัญหาก็คงต้องแก้กันไป
ส่วนได้มีการพูดคุยเบื้องต้นกับ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หรือไม่ นายเอี่ยม ระบุว่า ทุกพื้นที่ได้นำป้ายลงหมด ยกเว้นพื้นที่ที่จัดงานอุ้มพระดำน้ำ และไม่ใช่ป้ายของ ส.ส.คนใดคนหนึ่ง พร้อมยืนยันว่า ตนไม่มีความกังวล และมองว่า คงเป็นเรื่องทั่วไปที่คนมักจะจับจ้อง และทางผู้ใหญ่ก็ได้คุยกับ กกต. แล้ว ว่าไม่ใช่การหาเสียงตนคิดว่าคงต้องแก้กันไปแนวๆนี้ และก็ยังไม่รู้ว่ากรอบเวลา 180 ประกาศวัน ที่ กกต.ประกาศจะแน่นอนหรือเปล่า