วันนี้ (23 ก.ย.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นคำร้องต่อ กกต. เพื่อขอให้ตรวจสอบและแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษเอาผิดผู้ที่นำชื่อพรรคการเมือง ไปใช้ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองโดยไม่มีการยื่นจดแจ้งต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองตามกฎหมาย นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 65 ที่ผ่านมา น.ส.วรินทร์ทิพย์ วัชรวงษ์ทวี หรือ เสียวเป้า ได้แถลงข่าวเปิดตัวพรรคไฟเย็น และได้แจ้งว่า จะเดินทางไปยื่นจัดตั้งและจดทะเบียนต่อ กกต. ในวันที่ 5 ก.ย. 65 โดยมีนโยบายประการหนึ่งที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์กันมาก และถูกนำไปโฆษณาหาแนวร่วมมาโดยตลอด คือ ข้อ 3 ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์และราชวงศ์ และข้อ 8 ยกเลิกกฎหมายมาตรา 112 ซึ่งนโยบายดังกล่าวชี้ให้เห็นโดยชัดแจ้งว่า อาจไม่สอดคล้องกับ ม.45 ของรัฐธรรมนูญ 2560 และอาจเข้าข่ายขัดหรือแย้งต่อ ม.13(3) ประกอบ ม.14(1) (2) และ (3) แห่ง พ.ร.ป. ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ที่บัญญัติไว้ชัดเจนว่า ข้อบังคับพรรคการเมืองจะเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน และอาจก่อให้เกิดความแตกแยกระหว่างชนในชาติมิได้
ทางสมาคมฯจึงได้ไปยื่นหนังสือต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง และ กกต.เพื่อคัดค้านการขึ้นทะเบียนจัดตั้งพรรคดังกล่าว ซึ่งนายทะเบียนพรรคการเมืองได้มีหนังสือแจ้งมายังสมาคมฯ เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 65 ว่า ได้ตรวจสอบแล้ว ยังไม่ปรากฏว่ามีผู้ใดยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งพรรคไฟเย็น ต่อ กกต.แต่อย่างใด
ดังนั้น การที่ น.ส.วรินทร์ทิพย์ ได้ออกมาแถลงข่าวการจัดตั้งพรรคไฟเย็น และแจ้งว่า จะเดินทางไปยื่นจดทะเบียนขอจัดตั้งพรรคไฟเย็น ในวันที่ 5 ก.ย. 65 นั้น จึงเป็นเท็จ แต่กลับมีการนำชื่อพรรคไฟเย็นไปใช้ในการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองมากมาย อันถือได้ว่าเป็นการฝ่าฝืน ม.32 ประกอบ ม.110 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนั้น ยังปรากฏว่า ยังมีการใช้ชื่อพรรคการเมืองอื่นไปดำเนินกิจกรรมทางการเมืองอีก อาทิ “พรรคก้าวล่วง” โดยมีนายอรรถพล บัวพัฒน์ เป็นหัวหน้าพรรค เมื่อตรวจสอบกับนายทะเบียนพรรคการเมืองแล้ว ก็ไม่ปรากฏว่า มีการยื่นเรื่องเพื่อขอจดแจ้งจัดตั้งเป็นพรรคการเมืองตามกฎหมายแต่อย่างใด ทางสมาคมฯจึงนำพยานหลักฐานมาร้องต่อ กกต. เพื่อให้ดำเนินการแจ้งความเอาผิดต่อบุคคลที่ฝ่าฝืน แอบอ้างใช้ชื่อพรรคการเมืองโดยไม่เป็นไปตามกฎหมาย หากไม่ดำเนินการ จะเข้าข่ายประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ได้