โฆษกรัฐบาล เผย รัฐบาลโดยทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควบคุมบูรณาการการทำงาน ตรวจสอบ ประเมินสถานการณ์จากเหตุการณ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมดำเนินการช่วยเหลือ ดูแล ให้ความสำคัญกับสุขภาพประชาชนเป็นหลัก
วันนี้ (22 ก.ย.) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยความคืบหน้ากรณีสารเคมีรั่วไหลจากโรงงาน อินโดรามา โพลิเอสเตอร์ อินดัสตรีส์ จำกัด จ.นครปฐม
ซึ่งภายหลังเหตุการณ์ดังกล่าว นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ได้สั่งปิดโรงงานชั่วคราว และโรงเรียนในพื้นที่ใกล้เคียง 1 วัน พร้อมสั่งอุตสาหกรรมจังหวัดตรวจสอบ ในส่วนของผู้ที่ได้รับผลกระทบให้มาแจ้งเรื่องที่อำเภอหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะมีการดูแลต่อไป โดยอุตสาหกรรมจังหวัดนครปฐม เปิดเผยว่า สาเหตุที่ตัวผลิตความร้อน Hot Oil Boiler เกิดรั่วไหลน่าจะเป็นการใช้งานมานานกว่า 20 ปี แม้มีการตรวจสอบทุกปี แต่ก็สามารถเกิดเหตุได้ เป็นสัญญาณเตือนให้โรงงานต้องตรวจสอบในรายละเอียดอีกครั้ง ทั้งนี้ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เผยได้วัดปริมาณก๊าซพิษ รัศมี 17 กม.รอบโรงงาน อินโดรามาฯ รวม 3 จุด แต่ยังไม่พบสารอันตราย
ต่อมา ตำรวจสถานีตำรวจภูธรนครชัยศรี เชิญเจ้าของกิจการและผู้ดูแลโรงงานไปให้ปากคำที่โรงพัก ขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายกลับมาเป็นปกติ ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ใด ส่วนกรณีที่มีผู้ได้รับผลกระทบจนส่งผลเสียต่อสุขภาพ สามารถแจ้งความและประสานเข้ามาได้ไม่ว่าผู้เสียหายจะอยู่พื้นที่ใด ทางพนักงานสอบสวนจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างยุติธรรมที่สุด
เบื้องต้น ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในส่วนกรมควบคุมมลพิษ อุตสาหกรรมจังหวัด หรือ กระทรวงมหาดไทย ได้ให้ข้อมูล และการดูแลประชาชนในพื้นที่ ซึ่งความเสียหายยังไม่ลุกลาม ขยายตัวมากไปจากเมื่อเช้า ในส่วนของสถานศึกษานั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ให้แนวทางว่าโรงเรียนพิจารณาหยุดการเรียนการสอนได้ หากพบความเสี่ยง ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ เด็กนักเรียน และครูผู้สอน
“รัฐบาลโดยทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ประสานการทำงานกันอย่างเข้มข้น พร้อมเข้าดำเนินการทุกด้าน โดยได้ตรวจสอบ ประเมิน สถานการณ์จากเหตุการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยให้ยึดถือความปลอดภัยและสุขภาพของประชาชนเป็นสำคัญ” นายอนุชา กล่าว