xs
xsm
sm
md
lg

“เชาว์” ชี้ เทบัตรแดงเดือด “พิมรี่พาย” ไม่ผิด กม.จี้ฟันโฆษณาเกินจริง-ฉ้อโกง-นำข้อมูลเท็จเข้าระบบคอมพ์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อดีตโฆษก ปชป. กางข้อกฎหมาย แนะ ลูกค้า “พิมรี่พาย” เทบัตรแดงเดือดได้ ไม่ต้องจ่าย ไม่ผิดกฎหมาย เหตุบี้ สคบ.- ดีอีเอส ดำเนินคดี ฐานโฆษณาเกินจริง-ฉ้อโกงประชาชน-นำข้อมูลเท็จเข้าระบบคอมพิวเตอร์ อย่าปล่อยให้ทำผิดซ้ำซาก

วันนี้ (29 มิ.ย.) นายเชาว์ มีขวด ทนายความอาสา อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัว เรื่อง บัตรแดงเดือด พิมรี่พาย ไม่ใช่แค่ดรามา แต่เข้าข่ายโฆษณาเกินจริง ผิดทั้งแพ่งและอาญา มีเนื้อหาระบุว่า ประเด็นดรามา กรณีพิมรี่พาย แม่ค้าออนไลน์ชื่อดัง สร้างความฮือฮาไลฟ์ผ่านเพจ “พิมรี่พายขายทุกอย่าง” ว่า ได้ทุ่มเงินกว่า 400 ล้านบาท เพื่อซื้อบัตรแมตช์ดังกล่าวมาขาย 20,000 ใบ แบบลดราคา และยังมีการโฆษณาว่าจะมีการจับบัตรสุ่มหาผู้โชคดี รับประทานอาหารกับนักฟุตบอลทั้งสองทีม รวมทั้ง แจ็คสัน หวัง ศิลปินชื่อดังแห่งวง GOT7 ที่จะมาแสดงเปิดเกมแดงเดือด ต่อมาสโมสรฟุตบอล ลิเวอร์พูลและแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รวมทั้ง บริษัทของ แจ็คสัน หวัง ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงว่า ไม่มีตั๋วที่มีการร่วมรับประทานอาหารค่ำกับทั้งสองทีม หรือตั๋วศิลปินในระหว่างการมาทัวร์ปรีซีซันที่ประเทศไทย และรู้สึกไม่พอใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ข่าวดังกล่าวสร้างความอับอายไปทั่วโลก เนื่องจากเป็นงานใหญ่ระดับโลก แต่ใช้แม่ค้าออนไลน์มาเร่ขายบัตร แถมใช้กลยุทธ์ต่ำเตี้ยหลอกลวงผู้บริโภค ล่าสุด พิมรี่พายกล่าวผ่านไลฟ์ของตัวเองเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ว่า “ยังไม่จบอีกเหรอ จบเถอะ ก็ต้องตามที่ผู้จัดงานเขาออกมาออกข่าว ตามนั้นแหละ ทางสโมสรหรือว่าทางคนขายตั๋วเขาก็ต้องออกมาบอกว่า มันไม่มีตั๋วกินข้าวอยู่แล้ว ก็ถูกแล้ว ก็มันไม่มีตั๋วกินข้าวไง ก็บอกไปหลายครั้งแล้ว ว่าไม่มีตั๋วกินข้าว และโอดครวญว่า ถูกคนจองซื้อบัตร “ศึกแดงเดือด” เทไม่ยอมโอนเงินให้ เพราะมีกระแสข่าวดรามากันไปมา ตนเองลงทุนไปทั้งหมด 400 ล้านบาท แต่ตอนนี้ขายได้ 207 ล้านบาท ก็ยังต้องตามอยู่อีกครึ่งหนึ่ง

นายเชาว์ ระบุว่า มีผู้จองตั๋วท่านหนึ่งโทร.มาปรึกษาผม ว่า คนที่ถูกพิมรี่พายทวงถามให้จ่ายค่าตั๋วที่จองซื้อ ถ้าไม่จ่ายจะมีความผิดหรือไม่ ผมตอบได้เลยว่าไม่ต้องจ่าย และไม่มีความผิด เพราะการโฆษณาขายตั๋วของพิมรี่พายเป็นการโกหกหลอกลวงอย่างแจ้งชัด ผิด พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภคที่ห้ามมิให้โฆษณาด้วย ข้อความที่เป็นเท็จหรือเกินความจริง ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญ ตามมาตรา 22 มีโทษจำคุกไม่เกินสามเดือนหรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับทตามมาตรา 48 นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่ซื้อตั๋วจ่ายเงินไปแล้วสามารถยกเลิกและเป็นผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดี ข้อหาฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 343 และเรียกเงินคืนได้ด้วย เพราะเป็นการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง ทั้งๆ ที่ตั๋วกินข้าวกับนักฟุตบอลและนักร้องมันไม่มี และอาจจะเข่าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ด้วย

“ผมไม่เข้าใจว่าความผิดโจ่งแจ้งขนาดนี้ แต่ทำไมหน่วยงานของรัฐไม่ว่าจะเป็น สคบ.ที่มีหน้าที่ดูแลคุ้มครองผู้บริโภคและดีอีเอส.ที่ควบคุมกำกับในสังคมออนไลน์ จึงปล่อยให้พิมรี่พาย กระทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะไม่ใช่กรณีนี้กรณีเดียว แต่ก่อนหน้านี้ก็เคยถูกร้องเรียนมาหลายครั้งแล้ว เช่น กรณีพบหมอปลอมในคลินิกศัลยกรรมของเธอ และยังมีโฆษณาเกินจริงอีกหลายรายการ ทั้งแจกโชค กล่องสุ่ม และขายน้ำแถมเอทีเค อย่าให้เธอคิดว่า ทำไม่ตรงไปตรงมาหลายๆ ครั้ง หันกลับมาสร้างภาพทำดีคนก็ลืมหมด เพราะสุดท้ายกลายเป็นว่าเงินที่คิดว่าจ่ายไป เพื่อส่วนหนึ่งไปช่วยเหลือสังคม ส่วนใหญ่ไปเพิ่มความรวยให้เธอทำการค้าที่ต้องตามทวงถามความรับผิดชอบไม่จบ ไม่สิ้น” นายเชาว์ ระบุทิ้งท้าย


กำลังโหลดความคิดเห็น