xs
xsm
sm
md
lg

ภท.เตือน “ภูมิธรรม” อย่าผลักมิตรเป็นศัตรู หลังแซะกัญชา-วัคซีน ชี้ หวังดีพูดจริงอย่าดิสเครดิต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รองโฆษก ภท. เตือน ที่ปรึกษา พท. อย่าผลักมิตรไปเป็นศัตรู หลังวิจารณ์นโยบายกัญชา-วัคซีนของพรรค ชี้ หากหวังดี ควรพูดความจริงแทนการสร้างความหวาดหวั่นให้สังคมหวาดกลัว หวังดิสเครดิตทางการเมือง
วันนี้ (22 มิ.ย.) นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา และ รองโฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านในสภาผูแทนราษฎร โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ วิจารณ์นโยบายกัญชาและวัคซีนของพรรคภูมิใจไทย ว่า ทุกภารกิจที่รัฐมนตรีของพรรคที่ดำเนินการมา เป็นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนและส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนอย่างตั้งใจ ไม่ใช่การโฆษณาเกินจริง โดยเฉพาะนโยบายกัญชาที่กระทรวงสาธารณสุขได้ออกมาตรการและประกาศกระทรวงมารับมือ รับสถานการณ์ไว้แล้ว ด้วยการห้ามเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี กลุ่มกลุ่มเสียงใช้กัญชา พร้อมขอบคุณในข้อห่วงใยของนายภูมิธรรมที่ได้ทักท้วงให้เห็นผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น แต่อยากให้เผยข้อมูลที่ครบถ้วน ไม่บิดเบือน หรือหวังผลทางการเมืองเหมือนเช่นปัจจุบันที่มีนักการเมืองบางกลุ่มความพยายามสร้างกระแสต่างๆ ให้เกิดความหวาดหวั่น หวังดิสเครดิตพรรคภูมิใจไทย มากกว่าการคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชน ยืนยันว่า การปลดล็อกกัญชาเป็นความมุ่งหวังประโยชน์ทางการแพทย์ และเป็นพืชเศรษฐกิจที่จะมายกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน

“ในฐานะนายภูมิธรรมเป็นที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค และเป็นที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้าน ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญในการขับเคลื่อนพรรค จะไม่ใช่วิธีการพูดเช่นนี้ ซึ่งไปทำลายมิตรภาพระหว่างพรรคการเมือง หรือพูดโจมตีนโยบายพรรคอื่น เพราะผมเชื่อว่าท่านเคยเจ็บปวดกับการกระทำแบบนี้มาแล้ว แต่ผมอยากเห็นท่านช่วยกันพูดเรื่องจริงที่รัฐบาลทำอยู่ เพื่อลดข้อกังวลในสังคม และในฐานะที่ผมมีความสนิทกับนายภูมิธรรม อยากจะบอกว่าอย่าผลักมิตรไปเป็นศัตรู เพราะการจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ดูที่ความนิยมของประชาชนเพียงอย่างเดียว แต่ดูที่จำนวน ส.ส.ซึ่งมีสิทธิโหวตทางการเมือง ดังนั้น แสดงว่า ส.ส.แต่ละพรรคมีความสำคัญในการโหวต เช่นเดียวกับ ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ที่พรรคเพื่อไทยได้โหวตให้ความเห็นชอบเช่นกัน” นายณัฎฐ์ชนน กล่าวและว่า นายภูมิธรรม ถือเป็นผู้ใหญ่แล้ว ตนจึงอยากแนะนำว่า เรื่องนี้ควรปล่อยให้เด็กๆ เค้าว่ากันในสภาจะดีกว่า


กำลังโหลดความคิดเห็น