xs
xsm
sm
md
lg

“สุชาติ” ลั่นไม่กลัวถูกซักฟอกกลางสภา ซัดก้าวไกลอย่ายุ่ง เดี๋ยวเจอกัน ย้ำข้องใจขั้นตอนญัตติซักฟอกฝ่ายค้าน ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สุชาติ” ลั่นไม่กลัวถูกซักฟอกกลางสภา ซัดก้าวไกลอย่ายุ่ง เดี๋ยวเจอกัน ย้ำ ข้องใจขั้นตอนญัตติซักฟอกฝ่ายค้าน ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ท้าคนเบื้องหลังยัดชื่อเพิ่ม วัดสู้กันล่างสภา ฟ้องกันไป แนะ ส.ส. ถอนรายชื่อ ก่อนถึงมือ ป.ป.ช. ตรวจสอบ ชี้ เซ็นชื่อแทนผิดเทียบเคียงเสียบบัตรแทนกัน

วันนี้ (21 มิ.ย.) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงความคืบหน้าในการร้องให้สภา ตรวจสอบญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านที่เพิ่มชื่อตนเอง ว่า ถือเป็นสิทธิของตนเองในการตรวจสอบ เพราะอยู่ในสภานิติบัญญัติ เป็นผู้ออกกฎหมายให้กับประชาชน หากมีข้อสงสัยสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งเป็นดุลพินิจของประธานสภา ขณะเดียวกัน นายเรืองไกร กิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ก็ได้ร้องในประเด็นคล้ายกัน และจะมีการร้องไปยัง ป.ป.ช.ด้วย โดยเทียบเคียงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญประกอบ ยอมรับว่า ตนเองไม่ใช่นักกฎหมาย แต่ผู้มีความรู้ทางกฎหมายได้ออกมาให้ข้อมูลต่างๆ หากการดำเนินการของฝ่ายค้าน เป็นไปตามที่ถูกร้อง ในขั้นตอนการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้อง ก็ถือว่าไม่ถูกต้อง

นายสุชาติ กล่าวว่า มีฝ่ายค้านบางคนพูดทำนองตนเองกลัวการตรวจสอบนั้น ไม่ใช่ เพราะการตรวจสอบเป็นไปตามรัฐธรรมนูญตามระบอบประชาธิปไตยที่ถูกต้อง แต่ประเด็นที่ให้ตรวจสอบ คือ ขั้นตอนก่อนที่จะมีการเสนอญัตติ นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้าน แถลงเอง ร่างญัตติตอนแรกในวันที่ 14 มิถุนายน มี 10 คน แต่วันที่ 15 มิถุนายน กลับมีเพิ่มเติม มาอีกหนึ่งคน เป็น 11 คน ซึ่งเจตนารมณ์ในวันที่ 14 มิถุนายน ได้มีสมาชิกเซ็นรับรอง 100 กว่าคน และวันที่ 15 มิถุนายน ได้มาเซ็นครบทั้งกว่า 100 คนหรือไม่ ที่สภา ดังนั้น จึงคล้ายกับการฝากกดบัตรแทนกัน ซึ่งทำผิดระเบียบ ที่ผ่านมา ศาลได้สั่งลงโทษไปแล้วหลายคน

นายสุชาติ กล่าวยืนยันว่า ตนเองไม่ได้กลัวการตรวจสอบตามที่พรรคก้าวไกลกล่าวอ้าง และพรรคก้าวไกลอย่ามายุ่งกับตนเอง หากมายุ่งจะได้รู้สึก เดี๋ยวเจอกัน หากจะตรวจสอบก็ดำเนินการไปอย่าเบี่ยงประเด็น ย้ำว่า ตนเองร้องว่าการยื่นญัตติถูกต้องตามกฎหมายรัฐธรรมนูญหรือไม่ ดังนั้น ขอให้สื่อมวลชนเข้าใจด้วยในฐานะที่เป็น ส.ส.ในสภา มีหน้าที่ออกกฎหมาย ถ้าปฏิบัติไม่ถูกต้องจะไปตรวจสอบคนอื่นได้อย่างไร

นายสุชาติ ยังกล่าวถึงกรณีที่เคยระบุว่า มีคนนอกพรรคฝ่ายค้านที่มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้นั้น ว่า เคยบอกแล้วว่าแค่คนๆ เดียว สามารถทำให้ นายแพทย์ ชลน่าน มีปัญหาได้ ก็ไปคิดเอาว่าอะไรจะเกิดขึ้น ตนเองเป็นลูกผู้ชายชัดเจน ถ้าอยู่ในสิ่งที่ถูกต้องตามครรลองครองธรรมกฎหมายไม่มีปัญหา แต่แบบนี้เปรียบได้ว่า ตนเองเดินอยู่แล้ว ถูกไม้ตีหัว เมื่อหันกลับไปสู้ จะมาร้องได้อย่างไรตอนทำไม่คิด แถมระบุว่า การตรวจสอบจะได้คะแนนมากคะแนนน้อย เป็นเรื่องปกติ ได้คะแนนบ๊วยคนอื่นก็ได้มาแล้ว พรรคร่วมรัฐบาลมีหลาย 10 พรรค เป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส. ที่จะให้คะแนน และการอภิปรายประชาชนก็จะได้รับรู้ว่า สามารถหักล้างข้อกล่าวหาฝ่ายค้านได้หรือไม่ ทั้งนี้ แม้แต่ไม่มีชื่อถูกอภิปราย ก็ใช้เวทีอภิปรายข้างล่างสภาได้ ก็พร้อมที่จะชี้แจงและต่างคนต่างฟ้องคดีกัน สู้กัน และกล้าท้า เพราะเชื่อมั่นในตนเองว่าไม่ได้ทำอะไรผิด วัดกันไป เมื่ออยู่ในประเทศไทยก็ต้องยึดถือรัฐธรรมนูญเพื่อความถูกต้อง ถ้าปฏิบัติไม่ถูกต้องในฐานะที่เป็นผู้ออกกฏหมายใครจะเชื่อถือ ขณะนี้ไม่ได้บอกว่าใครผิดใครถูกแต่เมื่อเรื่องร้องถึง ป.ป.ช. ก็ต้องมีการตรวจสอบกันไป

ทั้งนี้ สุดท้ายจะต้องมีการตรวจสอบลายเซ็นทั้งหมด ว่า ตอนลงชื่อเซ็นอยู่ที่สภาหรือไม่ และ ป.ป.ช.มีวิธีการตรวจสอบ แต่ถ้าใครไม่อยากถูกตรวจสอบก็ให้ทำเรื่องถึงสภาให้ถอนชื่อออก ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแต่ละคน ซึ่งตนเองไม่ได้มีปัญหากับฝ่ายค้านและพรรคฝ่ายค้านก็มีเพื่อนอยู่หลายคน จึงทำให้รู้ข้อมูล การกระทำที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้น ต้องถามนายแพทย์ ชลน่าน ว่าทำได้อย่างไร โดยไม่ได้บอกเพื่อนอีกกว่า 100 คน ซึ่งไม่ได้ปรักปรำ นายแพทย์ ชลน่าน แต่ นายแพทย์ ชลน่าน แถลงข่าวเอง แม้แต่ พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ยังให้ไปสอบถามกับ นายแพทย์ ชลน่าน เพราะที่เซ็นไปพลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ ก็ไม่ได้ดูว่ามีกี่คน ดังนั้น ต้องไปตรวจสอบว่าที่เซ็นนั้น ในร่าง 10 คน หรือ 11 คน


กำลังโหลดความคิดเห็น