ศบค.เห็นชอบถอดมาสก์ตามความสมัครใจ หวั่นปล่อยฟรีเกิดระบาดระลอกเล็กตามมา

ศบค.เห็นชอบถอดมาสก์ตามความสมัครใจ หวั่นปล่อยฟรีเกิดระบาดระลอกเล็กตามมา ไม่บูลลี่คนสวมหน้ากากอนามัยเป็นคนน่ารังเกียจ

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 17 มิ.ย.ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงผลการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธาน ว่า นายกฯรับทราบสถานการณ์ตัวเลขผู้ติดเชื้อ 1,967 ราย ถือว่าลดลง โดยนายกฯขอบคุณประชาชนและทุกภาคส่วนที่มีส่วนในการช่วยลดจำนวนผู้ติดเชื้อและเข้าสู่บรรยากาศในการซึ่งจะบอกว่าหมดการระบาดก็ไม่เชิง คาดการณ์ว่า อาจจะมีการระบาดระลอกเล็กๆ เกิดขึ้นได้ จึงจะต้องเป็นช่วงเวลาที่เฝ้าระวังแล้วก็ขึ้นอยู่กับภูมิคุ้มกันในการป้องกันโรค รวมถึงการได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น โดยประชาชนจะต้องช่วยกันสวมหน้ากากอนามัย แต่ก็มีเสียงเรียกร้องว่าขอให้ลดการสวมหน้ากากอนามัยลงบ้าง ซึ่งอาจจะเป็นเหตุให้เกิดการระบาดเป็นกลุ่มก้อนเล็กๆ ขึ้นมาได้

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ส่วนการสวมใส่หน้ากากอนามัย โดยนายกฯ และ ผอ.ศบค.เน้นย้ำว่า ขอให้เป็นความสมัครใจ โดยผู้ที่ติดเชื้อและเป็นผู้เสี่ยงสัมผัสสูงขอให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เมื่อจำเป็นต้องอยู่ร่วมกับบุคคลอื่น ทั้งนี้ สถานที่ภายนอกอาคารที่โล่งแจ้ง โดยให้สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ร่วมกับบุคคลอื่น โดยไม่สามารถเว้นระยะห่างหรือมีความแออัด หรือมีการรวมกลุ่มของคนจำนวนมาก ส่วนการถอดหน้ากากอนามัยสามารถทำได้ในกรณีอยู่คนเดียวหรืออยู่ร่วมกับบุคคลอื่นที่ไม่ได้อาศัยอยู่ที่พำนักเดียวกัน หรือกรณีมีกิจกรรมที่จำเป็นต้องถอดหน้ากากอนามัย เช่น การรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย หรือรับบริการบริเวณใบหน้า ในสถานเสริมความงามหรือศิลปะการแสดง แต่หลังจากเสร็จแล้วควรจะต้องสวมหน้ากากอนามัยทันที

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ที่ประชุม ศบค.ยังกล่าวอีกว่า ในต่างประเทศการสวมหน้ากากอนามัยบางครั้งก็อาจจะแสดงว่าจะกลายเป็นเฉพาะคนติดเชื้ออย่างเดียวคนกลุ่มนี้จะน่ารังเกียจ ดังนั้น การบูลลี่ หรือแสดงทัศนคติที่ไม่ดี กับคนที่สวมหน้ากากอนามัยต้องประชาสัมพันธ์ ฉะนั้น การสวมหน้ากากอนามัยอาจจะเป็นคนที่รับผิดชอบกับสังคมไม่ใช่ว่าจะเป็นคนที่ติดเชื้อ หรือมีความเสี่ยงสูง