ศบค.เผยสถานการณ์“โควิด” ขาลง พบ 50 จังหวัดลดลงต่อเนื่อง ส่วน 17 จังหวัด พบแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย คาดการณ์ข้างหน้าหลังจากนี้ อาจพบการระบาดแบบ Small Wave ได้อีก ขึ้นกับระดับภูมิคุ้มกัน และการใส่หน้ากาก เชื่อ 1 ก.ค.มีโอกาสเข้าสู่ระยะหลังการระบาด หากทุกคนยังร่วมมือกัน
เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงภายหลังการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ว่า วันนี้มี 7 ประเด็นสำคัญ คือ 1. สถานการณ์โควิด-19 ตัวเลขติดเชื้อลดลงเรื่อยๆ วันนี้มีรายใหม่ 1,967 ราย หายป่วยมากกว่า 2,123 ราย เสียชีวิต 19 ราย อัตราการครองเตียงระดับ 2-3 ประมาณ 9.3% มีพื้นที่เตียงยังว่าง เน้นย้ำว่า ถ้าศักยภาพสาธารณสุขไปได้ดี ก็สามารถเปิดกิจการกิจกรรมเพิ่มขึ้น ส่วนผู้ป่วยรายวัน ผู้ป่วยปอดอักเสบ ใส่ท่อช่วยหายใจ และเสียชีวิตยังมีทิศทางลดลง โดยเฉพาะใส่ท่อช่วยหายใจ ผู้เสียชีวิต เส้นสถานการณ์จริงลดต่ำกว่าเส้นคาดการณ์สีเขียวที่ดีที่สุด
“ขณะนี้อยู่ในระยะที่ 3 ระยะขาลง (Declining) ฉะนั้น 1 ก.ค.มีโอกาสเป็น Post Pandemic ระยะหลังการระบาด ก็ต้องขอให้ร่วมมือกันเหมือนเดิม โดยขณะนี้ 50 จังหวัดอยู่ในทิศทางลดลง มี 17 จังหวัดลดลงแล้วแต่ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กๆ ได้แก่ กทม. ภูเก็ต อุบลราชธานี ชัยนาท ตราด ยโสธร อำนาจเจริญ อุตรดิตถ์ สตูล ชลบุรี สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี เพชรบุรี สมุทรสาคร กระบี่ และ พิจิตร จึงต้องให้มีมาตรการป้องกันเฝ้าระวังเพื่อไม่ให้เป็นภาระในเรื่องการรักษา” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เรามียอดติดเชื้อสูงคือ เม.ย. 64 และ ม.ค. 65 อย่างไรก็ตาม ถ้าจะให้ดีต้องคาดการณ์ไปข้างหน้า ซึ่งหลังจากนี้จะบอกว่า หมดการระบาดก็ยังไม่เชิง ยังคาดการณ์ว่าอาจจะมีระลอกเล็กๆ เกิดขึ้นมาได้บ้าง เป็น Small Wave ซึ่งตรงนี้ขึ้นกับภูมิคุ้มกันป้องกันโรครวมถึงเข็มกระตุ้น และประชาชนช่วยกันสวมหน้ากาก แต่มีการร้องว่าอยากจะลดสวมหน้ากากลงบ้าง ก็อาจเป็นเหตุหนึ่งทำให้เกิดระบาดกลุ่มก้อนเล็กๆ ขึ้นมาได้ด้วย