พิษวิจารณ์กัญชา! “คุณปลื้ม” ขาสั่นกลัวคุก? อ้างจัดรายการกวนประสาทแค่ “ความบันเทิง” หวังดี ภท. ไม่จำเป็นต้องฟ้องถึงศาล “โรม” ซัด “พรรคการเมือง” ต้องใจกว้าง ทำเหมือนฟ้องปิดปาก “ดร.สุขุม” ชี้ หาเสียงง่ายขึ้น
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (11 มิ.ย. 65) เว็บไซต์สถาบันทิศทางไทย โพสต์ข้อความระบุว่า จากกรณีพรรคภูมิใจไทย มีมติให้ ส.ส.แต่ละเขต รัฐมนตรีของพรรค และสมาชิกพรรคทั่วประเทศ ไปร้องทุกข์กล่าวโทษ รายการ “The Daily Dose โลกการเมือง” ทางเพจเฟซบุ๊ก Voice TV นั้น
ทั้งนี้ เนื่องจากการดำเนินรายการของ ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล หรือ “คุณปลื้ม” หัวข้อไม่สนเยาวชนติดกัญชาบ้างเลยหรือ มีเนื้อหาบิดเบือนข้อเท็จจริง ใส่ร้ายป้ายสี จากนโยบายปลดล็อกกัญชาโดยมีกฎหมายมารองรับ
ล่าสุด วันนี้ ม.ล.ณัฏฐกรณ์ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ส่วนตัว ถึงกรณีดังกล่าว มีเนื้อหาระบุว่า
“ผมได้ขอให้ทีมงานถอนคลิปย่อยที่ตัดแล้วที่ไปโพสต์ทางช่องทาง Youtube/FB ที่พาดพิงท่าน รองนายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล และพรรคภูมิใจไทย ออกไปเรียบร้อยแล้วนะครับ
มันเป็นของรายการสด #Liveยามเช้า The Daily Dose วันที่ 9 มิถุนายน เวลา 06.30 น. การจัดรายการมีเจตนารมณ์สร้างความบันเทิง ประกอบด้วย สาระต่อสังคม และรวมไปถึงการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล ไม่มีเจตนาที่จะดูหมิ่นดูแคลนใคร ถ้าเนื้อหาในคลิปทำให้สมาชิกพรรคภูมิใจไทย รวมถึงทั้งหัวหน้าพรรค มีความรู้สึกว่าไม่เหมาะสม และเสียดสีเเรงเกินไปนั้นผมขออภัย
รวมถึงที่อาจจะได้สื่อสารเชิงลบแบบตลกขบขันไปว่า ในสมัยวัยหนุ่มอาจจะมีบางท่านในคณะรัฐมนตรีที่เคยชอบกัญชา ซึ่งเป็นเพียงแค่มุกในการดำเนินรายการ
ผมเชื่อว่า เราอยู่ในสังคม และระบบนิเวศวิทยาทางการเมืองเดียวกัน และไม่จำเป็นที่จะต้องมานำเรื่องขึ้นศาลเพื่อฟ้องร้องกันโดยมิจำเป็น หากการจัดรายการทำให้มีความรู้สึกเสื่อมเสียเกียรติยศ หรือศักดิ์ศรีของผู้ซึ่งถูกพาดพิง ผมยินดีถอดถอนเนื้อหาออกให้ตามที่ได้สั่งการให้มีการกระทำไปแล้ววันนี้
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า กระทรวงสาธารณสุข และเจ้าหน้าที่ตำรวจภายใต้นโยบายกัญชากึ่งเสรีใหม่ที่นำเสนอโดยผู้ซึ่งมีอำนาจ ณ เวลานี้ จะสามารถควบคุมไม่ให้ทุกคนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะเข้าถึงการสูบเสพติดกัญชาได้ครับ
ผมหวังดีเสมอแค่วิธีนำเสนอเนื้อหาอาจกวนประสาทเล็กน้อยเนื่องด้วยสไตล์ ขอบพระคุณครับ”
ก่อนหน้านี้ (9 มิ.ย. 65) นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย แถลงกรณีรายการ The Daily Dose โลกการเมือง ที่ดำเนินรายการโดยหม่อมหลวงณัฏฐกรณ์ ผ่านเพจเฟซบุ๊ก Voice TV โดยในรายการ มีการกล่าวถ้อยคำหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาทำให้สมาชิกพรรค และพรรคภูมิใจไทย เสียหาย เป็นการใส่ร้ายป้ายสีพรรค มีลักษณะข้อความอันเป็นเท็จ ทำให้ผู้ได้ฟังได้ยินมีลักษณะดูหมิ่นเกลียดชังพรรคภูมิใจไทย
ทั้งนี้ นายศุภชัย กล่าวอีกว่า สิ่งที่ หม่อมหลวงณัฏฐกรณ์ เสนอในรายการจึงเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง ใส่ร้ายป้ายสี ขอยืนยันว่า การเสนอกฎหมาย และการลงมติเกี่ยวกับประมวลกฎหมายยาเสพติด เพื่อให้ประเทศไทยได้รับประโยชน์จากการนำกัญชามาใช้อย่างสูงสุด และปลอดภัย พรรคภูมิใจไทยเสียหาย
“จึงมีมติว่า ให้ ส.ส.แต่ละเขต รัฐมนตรีของพรรค และสมาชิกพรรคทั่วประเทศ ไปร้องทุกข์กล่าวโทษตามจังหวัดต่างๆ ถ้าตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่าเจ้าของสื่ออย่าง Voice TV รู้เห็นเป็นใจต่อการดำเนินการรายการเช่นนี้แล้วท่านไม่สั่งระงับระหว่างดำเนินรายการก็จะดำเนินคดีกับ voice TV ด้วย เราไม่ได้ฟ้องขู่แต่เราเอาจริง”
ขณะเดียวกัน นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ส่วนตัวระบุว่า
“เป็นพรรคการเมืองต้องใจกว้าง การฟ้องปิดปากผู้วิจารณ์นโยบายเป็นอันตรายต่อเสรีภาพของประชาชนอย่างยิ่ง
ตามที่เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา คุณศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย แถลงข่าวกรณี ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล ผู้ดำเนินรายการประจำสถานีโทรทัศน์ Voice TV วิจารณ์นโยบายกัญชาของพรรคภูมิใจไทย พร้อมทั้งประกาศว่า พรรคภูมิใจไทยมีมติให้ ส.ส. ของพรรค รัฐมนตรีของพรรค และสมาชิกพรรคทั่วประเทศไปร้องทุกข์กล่าวโทษตามจังหวัดต่างๆ รวมทั้งจะดำเนินคดีกับ Voice TV ด้วยนั้น
ผมคิดว่า การที่ประเทศนี้มีรัฐบาลที่เที่ยวปิดปากประชาชนที่แสดงออกและแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ด้วยการไล่จับกุมดำเนินคดี ใช้กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมทำลายล้างผู้เห็นต่าง ก็นับว่าเลวร้ายเกินไปแล้ว แต่นี่เรายังจะมีพรรคการเมืองที่ใช้วิธีการแบบเดียวกันเล่นงานผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์ตัวเอง โดยเฉพาะเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ต่อนโยบายของพรรคที่อาจส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งประเทศ ด้วยอีกหรือ
ผมและพรรคก้าวไกล ยืนยันว่า ทุกๆ นโยบายที่ออกมาจากทุกๆ พรรคการเมืองนั้น ต้องสามารถถูกตั้งคำถามและวิพากษ์วิจารณ์โดยประชาชนและสื่อมวลชนได้ ในพรรคก้าวไกลเอง ส.ส. หลายคนก็สนับสนุนนโยบายปลดล็อคกัญชา ทั้งยังได้ประกาศสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.กัญชาฉบับประชาชน และลงมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.กัญชา-กัญชง ในวาระแรกด้วย อย่างไรก็ตาม หากมีใครที่คัดค้านนโยบายนี้ มีข้อมูลหรือแง่มุมที่ใช้โต้แย้งได้ว่านโยบายปลดล็อกกัญชาจะส่งผลร้ายมากกว่าผลดี และอาจถึงกับแสดงการต่อต้านพรรคการเมืองที่ผลักดันนโยบายนี้ไม่เว้นแม้แต่พรรคก้าวไกล ถึงที่สุดแล้วนั่นก็เป็นเสรีภาพที่พวกเขาพึงกระทำได้
และอันที่จริงทุกๆ ท่านก็คงเห็นกันอยู่ว่าที่ผ่านมาพรรคก้าวไกลเองก็เคยถูกวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชนหลายคนหลายกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายของเรา ข้อเสนอของเรา การอภิปรายของเรา ถึงขั้นรณรงค์ให้ไม่เลือกพรรคเราเลยก็มี แต่สุดท้ายสิ่งที่เราทำคือก็ต้องค่อยๆ ชี้แจงทำความเข้าใจต่อประชาชนเหล่านั้น เปิดเผยข้อมูลข้อเท็จจริงออกมาให้มากที่สุด เพื่อหวังว่าประชาชนที่เคยคลางแคลงสงสัยจะได้หันมาให้การสนับสนุนนโยบายของเราในอนาคต มิใช่คิดแต่จะไปฟ้องร้องเป็นคดีความในลักษณะที่ทำให้ผู้วิพากษ์วิจารณ์ต้องแบกรับภาระเดินทางไปต่อสู้คดีตามพื้นที่ต่างๆ ที่เห็นได้ชัดว่าเป็นการกลั่นแกล้งไม่ให้ผู้คนเหล่านั้นกล้าออกมาวิพากษ์วิจารณ์อีกนั่นเอง
ผมคิดว่า นี่คือ หนึ่งบทพิสูจน์ความใจกว้างของพรรคการเมืองว่าพร้อมที่จะรับฟังความเห็นแย้งจากประชาชนหรือไม่ และหากปล่อยให้พรรคการเมืองใดๆ ฟ้องปิดปากประชาชนต่อไปจนกลายเป็นประเพณีปฏิบัติได้แล้ว
ผมเห็นว่า นั่นย่อมเป็นอันตรายต่อเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชนเป็นอย่างยิ่ง และเป็นเรื่องที่ต้องตั้งคำถามจริงๆ ว่าเราสามารถไว้ใจให้พรรคการเมืองแบบนั้นเป็นรัฐบาลปกครองประเทศและประชาชนได้หรือ?” (สยามรัฐออนไลน์)
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน รศ.สุขุม นวลสกุล อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง กล่าวภายหลังประเทศไทย ปลดล็อกกัญชา จากยาเสพติด ว่า นี่คือ ผลงานของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งตรงนี้ มันไม่มีทางแย่งเขาได้แน่นอน เป็นผลงานใหญ่ เขาน่าจะศึกษามาดีว่าเรื่องนี้ ทำได้ มีช่อง ทำแล้วมีคะแนน เพราะอันที่จริง ประเทศไทยใช้กัญชามานานแล้ว แต่มันผิดกฎหมาย จึงแอบใช้ ทางพรรคคงรู้ ก็พยายามหาทางที่เป็นประโยชน์กับประชาชน อย่างสมัยก่อน ก่อนขึ้นเวที บางที ก็ใช้กัญชานะ มันเป็นยา มองให้เป็นประโยชน์ กัญชา มันมีประโยชน์ แล้วคนยอมรับกันเยอะ ที่สภาผ่านกันมากๆ ก็เพราะปฏิเสธเรื่องนี้ไม่ได้ มันทำไปเพื่อประชาชนคนเป็นผู้แทนราษฎร ก็ต้องช่วยกัน แล้วยิ่งพรรคภูมิใจไทย เป็นพรรครัฐบาล แค่เสียงฝั่งเขาก็เยอะพอแล้วมาได้แรงหนุนจากฝ่ายค้านอีก ก็ยิ่งเดินง่าย ขอแสดงความยินดี ที่ทำเรื่องนี้ได้ เพราะคุณหาเสียงเรื่องพูดแล้วทำ ถ้าเรื่องนี้ทำไม่ได้ มันไปต่อลำบาก แต่พอทำสำเร็จ ก็หาเสียงกันง่ายเลย
“พรรคภูมิใจไทย เป็นพรรคใจถึง ใจนักเลง กระสุนเยอะ กระสุนคือ ความใจกว้าง ความกล้าช่วยเหลือกันชาวบ้านในพื้นที่เดือดร้อน เขาหาทางออกได้ อันนี้เป็นกระสุน แต่ที่ผ่านมา เขาขาดสิ่งที่สำคัญคือกระแสพรรคเลยเงียบๆ แต่เมื่อนโยบายกัญชาสำเร็จ คนชื่นชมกันเยอะเลย อันนี้ คือกระแสแล้ว พรรคได้กระแสแล้ว พูดแล้วทำ กัญชาเสรี ตอนนี้พรรคภูมิใจไทยมีครบสูตรสำเร็จการเมืองไทย เพราะมีพร้อมทั้งกระสุนและกระแส” (สยามรัฐออนไลน์)
แน่นอน, สิ่งที่เข้าใจได้ก็คือ พรรคภูมิใจไทย คาดหวังอย่างสูง ว่า นโยบายกัญชาเสรี จะเป็นผลงานชิ้นโบแดงในการหาเสียงเลือกตั้งสมัยหน้า และไม่มีพรรคการเมืองไหนแย่งซีนไปได้ จึงไม่ยอมให้การวิพากษ์วิจารณ์ของสื่อมีการบิดเบือนข้อเท็จจริง หรือ นำเสนอในแง่มุมที่เป็น “ลบ” เพราะจะมีผลกระทบทางการเมืองไม่มากก็น้อย
แล้วที่ต้องไม่ลืม ก็คือ “คุณปลื้ม” เองก็เป็นสื่อในสังกัดธุรกิจของคนที่มีอิทธิพลต่อพรรคการเมืองบางพรรค จึงถือว่า มีผลในทางการเมืองอย่างไม่ต้องสงสัย
ยิ่งพรรคการเมืองดังกล่าว ในหลายพื้นที่ถือว่า เป็นคู่ต่อสู้ทางการเมืองของพรรคภูมิใจไทย และเป็นที่ทราบกันดีว่า ในบางจังหวัดพรรคภูมิใจไทย ยังดูดผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคการเมืองดังกล่าวแทบยกจังหวัดก็ว่าได้ อย่างที่รู้กันว่า มี “งูเห่า” เกิดขึ้นจากผลของพลังดูดของพรรคภูมิใจไทย
เรื่องฟ้องร้องการวิจารณ์นโยบายกัญชาของพรรคภูมิใจไทย จึงอาจมีส่วนผสมทางการเมืองอยู่ด้วย?
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าคิดอีกอย่างก็คือ เป็นการ “ปิดปาก” สื่อหรือไม่? ถ้ามองในแง่ของผู้เสียหาย เมื่อเห็นว่า ได้รับความเสียหาย การฟ้องร้องถือเป็นเรื่องปกติ “ผิด-ถูก” ไปว่ากันที่ศาล ยกเว้นเจรจายอมความกันได้ ในคดีที่ไม่ใช่คดีอาญา และไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการ “ปิดปาก” อยู่ที่สื่อวิพากษ์วิจารณ์ด้วยความบริสุทธิ์ใจมากน้อยแค่ไหน หรือ มีการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง
เพราะนอกจากจะปกป้องตัวเองตามกฎหมายแล้ว ยังเป็นบทเรียนให้กับคนที่วิพากษ์วิจารณ์ด้วยว่า ต้องระมัดระวังไม่ให้หมิ่นประมาทบุคคลอื่น หรือ บิดเบือนข้อเท็จจริง และหรือ ทำเป็นเล่น เห็นเป็นเรื่องบันเทิง ในเรื่องที่ล้อเล่นไม่ได้ เพราะมีผลกระทบสูง ฯลฯ
ถ้ายกเรื่อง “เสรีภาพ” มาอธิบาย ก็ต้องว่ากันที่ “เสรีภาพอย่างมีขอบเขต” ไม่ละเมิดคนอื่น นักกฎหมายอย่าง “โรม” น่าจะรู้ดี หรือเพียงเพราะต้องการเล่นเกมการเมือง จึงไม่สนใจสาระสำคัญของกฎหมายข้อนี้แล้ว!?