มท.2 ยัน การพิจารณาทางแพ่ง ไม่สามารถนำมาใช้ในทางอาญาได้ เผย อสส. สั่งไม่ฟ้องคดีอาญา เนื่องจาก ป.ป.ช.ไม่สามารถชี้แจงข้อไม่สมบูรณ์ของสำนวนได้ อีกทั้ง ผู้ตรวจรับรถฯ ไม่มีอำนาจในการตรวจรับ
วันนี้ (9 มิ.ย.) นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกณีที่ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดกรณีไม่อนุมัติจ่ายเงินให้แก่บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด ผู้ขาย การพิจารณาในวันนี้เป็นเรื่องเดิมที่มีมาก่อนที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา สั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และ คกก.ตรวจฯ ก็สรุปความเห็นว่าบริษัท พลวิศว์ ทำผิด พ.ร.บ.ฮั้วจริง ซึ่งเป็นการพิจารณาในทางแพ่งไม่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาในคดีอาญา และโดยหลักการพิจารณาทางแพ่งจะนำมาใช้กับการพิจารณาทางอาญาไม่ได้ แต่ทางอาญาสามารถนำไปปรับเข้ากับการพิจารณาทางแพ่งได้
ซึ่งกรณีนี้มีความย้อนแย้งกันกัน ขณะเดียวกัน กองปราบปรามก็ได้สรุปสำนวนแล้วว่า บริษัท พลวิศว์ ได้กระทำผิดตาม พ.ร.บ.ฮั้วฯ และส่งสำนวนไปให้ ป.ป.ช.ได้พิจารณาเพิ่มเติม ประกอบกับในสำนวนที่ ป.ป.ช.ทำไปยังอัยการสูงสุด เพื่อยื่นฟ้องนั้น ขณะนี้อัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้อง และได้ส่งสำนวนกลับไปยัง ป.ป.ช.แล้ว อีกทั้งได้ร้องขอความเป็นธรรมไปยัง ป.ป.ช.ให้พิจารณาเพิ่มเติมว่า นอกจากมีการฮั้วกันแล้ว การตรวจรับรถอเนกประสงค์ทั้ง 2 คัน ผู้ตรวจรับไม่มีอำนาจในการตรวจรับ จึงถือเป็นการตรวจรับโดยมิชอบ