“ก้าวไกล” ขอบคุณ ส.ส.รัฐบาล-ฝ่ายค้าน โหวตผ่านร่างกกฎหมายสุราก้าวหน้าผ่านวาระแรก ยก 7 ข้อดี การปลดล็อกสุรา ด้าน “เท่าพิภพ” เล็งหาจุดร่วม ให้ผ่านวาระ 2-3 แนะสรรพสามิต-ก.คลัง แก้กฎกระทรวงรอ
เมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ 9 มิ.ย. ที่รัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรโหวตรับหลักการร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ...) พ.ศ. ... หรือ พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ในวาระ 1 เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ที่ผ่านมา ว่า เราอยากร่วมฉลองกับประชาชนที่ช่วยเหลือพวกเรา และขอบคุณเครือข่ายเหล้าพื้นบ้านประเทศไทยที่ต่อสู้ร่วมกันมากกว่า 10 ปี ขอมอบความสำเร็จนี้ให้กับเครือข่ายดังกล่าว และคนตัวเล็กๆ ที่มีความฝันในการทำคราฟต์เบียร์ ธุรกิจบาร์ และสุราชุมชนที่ต่อสู้กับการกดขี่ และช่วงวิกฤตโควิด-19ที่ผ่านมา ทั้งนี้ หากร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้าผ่าน และได้ใช้เป็นกฎหมายจริงจะมีประโยชน์ ดังนี้ 1. ของถูกจะกลายเป็นของแพง ด้วยการแปรรูปสินค้าเกษตรให้มีมูลค่าสูงขึ้น 2. มีธุรกิจใหม่เกิดขึ้น และจะมีเม็ดเงินเข้าสู่เศรษฐกิจชุมชนไม่น้อยกว่า 3 หมื่นล้านบาท 3. เปิดโอกาสการท่องเที่ยวท้องถิ่น เพราะมีสินค้าชุมชนเกิดขึ้นทำให้เกิดอัตลักษณ์ 4. มีภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เป็นจุดขายให้กับประเทศได้ 5. ลดการนำเข้าเหล้าเบียร์จากต่างประเทศ และยังสามารถส่งออกได้ด้วย ทำให้เกิดดุลการค้ากลับมา 3 พันล้านบาทต่อปี 6. ลดอำนาจการต่อรองราคาพืชผลทางการเกษตร และ 7. เกิดอุตสาหกรรมต่างๆ เกี่ยวข้องกับการสุรา เช่น การนำกาก ไปทำอาหารสัตว์ หรือทำก๊าซชีวภาพเพื่อใช้ในครัวเรือน ทั้งหมดนี้เราจะต่อยอดให้ประชาชนได้เห็นเป็นภาพ อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์หน้า ขอให้ทุกคนร่วมสนับสนุนการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ...) พ.ศ. ... หรือ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ที่รัฐบาลนำร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต มาประกบด้วย
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่า ร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า จะไม่ผ่านวาระ 2 และวาระ 3 นายพิธา กล่าวว่า เรามีความหวัง โดยช่วงเวลาต่อจากนี้พรรคก้าวไกลจะเดินสายทำความเข้าใจกับประชาชนให้มากขึ้น และจะอธิบาย 7 เหตุผลดังกล่าวให้ ส.ส.รับทราบ และสัปดาห์หน้าตนจะเดินทางที่ประเทศสิงคโปร์ และ ออสเตรเลีย หากมีโอกาสก็จะไปดูกฎหมายของทั้งสองประเทศว่าบังคับใช้ไปแล้วมีข้อดีข้อเสียอย่างไร เรามีความหวัง ในวาระ 2 และวาระ 3 และจะไม่ยอมแพ้
ด้าน นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้เสนอร่างกฎหมายดังกล่าว กล่าวว่า ตนขอขอบคุณทุกคนที่เชื่อมั่นในตัวของตน รวมถึงพรรคก้าวไกล พรรคร่วมฝ่ายค้าน และพรรคร่วมรัฐบาล ถือเป็นประชาธิปไตยในสภาที่ช่วยโหวตให้คะแนนผ่านได้ และก็ขอบคุณทุกคนที่อยู่เป็นองค์ประชุมให้ ซึ่งเห็นได้ยาก เพราะเป็นเรื่องกฎหมายของฝ่ายค้าน ทำให้จุดไฟแห่งความหวังในใครหลายคน และพี่น้องในวงการเบียร์ที่สู้มาก่อนตน เมื่อร่างกฎหมายได้ถูกผลักดันจนผ่านวาระ 1 ต่อไปจึงเป็นเรื่องของกรรมาธิการ (กมธ.) ซึ่งยืนยันว่าจะสู้เรายืนหยัดในหลักการ และจะพยายามพูดคุยหาจุดที่ลงตัว เพื่อทำให้ร่างกฎหมาย ผ่านในวาระ 2 และวาระ 3 ให้ได้ เพื่อไม่ให้เป็นปาหี่มวยล้มต้มคนดู
“ผมตอบได้ไม่เต็มปากว่าดีใจหรือไม่ แต่ความรู้สึกที่เด่นที่สุด คือ ผมไม่ใช่ซีโร่ทูฮีโร่ เพราะการเมืองทำคนเดียวไม่ได้ และอยากฝากถึงเจ้าหน้าที่สรรพสามิตและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังว่า ให้แก้กฎกระทรวงรอไว้เลย เพราะมันเปลี่ยนไปแล้ว 3 เดือน ยังไงสภาฯก็ผ่านร่างกฎหมายนี้” นายเท่าพิภพ กล่าว