xs
xsm
sm
md
lg

“วรนัยน์” แนะ “ตรีนุช” เลิกบังคับเรียน หยุดระบบอำนาจนิยม ชี้ “ลูกเสือ-เนตรนารี” ควรเป็นวิชาทางเลือก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“วรนัยน์” แนะ “ตรีนุช” เลิกบังคับเรียน หยุดระบบอำนาจนิยม ชี้ “ลูกเสือ-เนตรนารี” ควรเป็นวิชาทางเลือก เหน็บบางอาชีพแต่งเครื่องแบบ-ฝึกวินัยทั้งชีวิต ยังไม่เคารพสิทธิ ปชช.

วันนี้ (9 มิ.ย.) นายวรนัยน์ วาณิชกะ หัวหน้าพรรครวมไทยยูไนเต็ด โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวผ่านเพจ “Voranai Vanijaka - วรนัยน์ วาณิชกะ” เรื่อง “การปรับวิชาบังคับลูกเสือ-เนตรนารีเป็นวิชาทางเลือก” โดยระบุว่า ถ้าผมเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ผมจะแยกแยะระหว่าง “ข้อบังคับ” กับ “ทางเลือก” ย้อนไปสองปีที่แล้ว ประเด็นโรงเรียนบังคับตัดผมนักเรียน อดีต รมว.ศธ. ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ เพียงแค่พูดว่า กระทรวงศึกษาฯ ไม่มีนโยบายบังคับตัดผมนักเรียน มันขึ้นอยู่กับการเลือกปฏิบัติของแต่ละโรงเรียน สรุปคือ “ผมไม่รับผิดชอบ”

ถ้าตนเป็นรัฐมนตรี จะตั้งกฎบังคับห้ามโรงเรียนตัดผมเด็กนักเรียน และ จะใช้กฎหมายปกป้องสิทธิส่วนบุคคลในการบังคับให้โรงเรียนปฏิบัติตามกฎนี้

เพราะอะไร? เพราะว่าในระบอบประชาธิปไตย สิทธิส่วนบุคคลไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นข้อตกลงระหว่างภาครัฐและประชาชน ที่ภาครัฐมีหน้าที่รับผิดชอบและต้องยึดมั่น

เข้าสู่ประเด็นปัจจุบัน กรณีผู้ปกครองร้องเรียนไม่มีเงินซื้อชุดลูกเสือและเนตรนารี ทาง รมว.ศธ. ตรีนุช เทียนทอง ก็ได้ขอให้โรงเรียนอะลุ่มอล่วยในกรณีนี้ สรุปคือ “ดิฉันทำอะไรไม่ได้” และถ้าผมเป็น รมว.ศธ. ผมจะไม่อะลุ่มอล่วย

วิชาลูกเสือและเนตรนารีเป็นวิชาที่ดีและมีประโยชน์ หากเราเครื่องบินตกและติดอยู่ในป่า ไม่มี google map ไม่มีเสียงของ siri ความรู้ในการอ่านทิศทางโดยดูพระอาทิตย์หรือดาวเหนือย่อมมีประโยชน์ ความรู้ที่จะเอาเถาวัลย์มาทำเชือกและผูกปมต่างๆนานาย่อมมีประโยชน์ ความรู้ของลูกเสือและเนตรนารีจะมีประโยชน์มากมายในกรณีเช่นนี้

แต่ถ้าลำดับความสำคัญในระบบการศึกษา ความรู้ที่อนาคตของชาติควรมี เวลาเรียนที่ควรเอาไปใช้เพื่อฝึกฝนทักษะและวิชาชีพ วิชาลูกเสือและเนตรนารีนั้น คงไกลตัวเกินไปที่จะเป็นวิชาภาคบังคับ แต่เหมาะสมที่จะเป็นทางเลือกของเด็กนักเรียนที่สนใจและเลือกที่จะเรียนวิชานี้

คำตอบไม่ใช่ “ยกเลิก” แต่คือ “ทางเลือก”
หลายคนอาจจะตั้งข้อโต้แย้งว่า เครื่องแบบและการฝึกฝนของลูกเสือ-เนตรนารี ซึ่งเปรียบเสมือนการฝึกทหารนั้น มีผลดีต่อการสร้างสังคมที่มีระเบียบวินัย แต่ผมขอให้ตระหนักถึงโลกของความเป็นจริง

เราอยู่ในสังคมที่ผู้สวมใส่เครื่องแบบและฝึกฝนระเบียบวินัยมาทั้งชีวิต ละเมิดกฎหมาย ละเมิดรัฐธรรมนูญ ปล้นชิงอำนาจจากประชาชนและประชาธิปไตย

เราอยู่ในสังคมที่ระบบการศึกษาฝึกทุกคนเยี่ยงทหาร แต่เรายังเข้าคิวไม่เป็น ยังจอดรถรอไฟเขียวไม่เป็น ยังทิ้งขยะไม่ถูกที่ถูกทาง

เพราะฉะนั้นความเชื่อที่ว่า เครื่องแบบและการฝึกฝนระเบียบวินัยจะทำให้สังคมมีระเบียบวินัยนั้น เป็นความเชื่อลมๆแล้งๆ เป็นเพียงโฆษณาชวนเชื่อ เป็นเพียงแค่ระบบอำนาจนิยมที่หวังจะให้เด็กเติบโตมาเป็นพลเมืองที่เชื่องและเลี้ยงง่าย ซึ่งมันก็ไม่เป็นจริง

“ฉะนั้น ถ้าผมเป็น รมว.ศธ. ผมมีนโยบายมากมายที่จะพลิกโฉมการศึกษาของประเทศไทย แต่มีสองสิ่งที่ผมอยากจะฝากไว้ ถ้าการศึกษาจะมีภาคบังคับ ก็ต้องบังคับให้การศึกษาเคารพสิทธิส่วนบุคคลของทั้งครูและนักเรียน และการศึกษาที่ทันสมัยต้องแยกแยะออกว่าทุกวิชามีประโยชน์ แต่มีวิชาที่จำเป็นในโลกปัจจุบัน และมีวิชาที่ควรเป็นทางเลือกและหากนักเรียนเลือกวิชาลูกเสือเนตรนารี ผู้ปกครองก็เลือกจ่าย ไม่ใช่บังคับเรียนและบังคับจ่าย” นายวรนัยน์ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น