ชาวประมงล่องเรือเทียบท่ารัฐสภา ร้องหยุดจับสัตว์น้ำอ่อนวัย เปิดปฏิบัติการทวงคืนน้ำพริกปลาทู หลังเอกชนใช้เทคโนโลยีจับสัตว์น้ำ
วันนี้ (8 มิ.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น. สมาคมรักษ์ทะเลไทย และสมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทย นำโดย นายปิยะ เทศแย้ม นายกสมาคมชาวประมงฯ ล่องเรือประมงเป็นเวลา 13 วัน จากอ่าวไทย มาเทียบท่าที่อาคารรัฐสภา ตามปฏิบัติการ “ทวงคืนน้ำพริกปลาทู หยุดจับ หยุดซื้อ หยุดขาย สัตว์น้ำเศรษฐกิจวัยอ่อน สู่การจัดการอาหารทะเลไทยอย่างยั่งยืน เนื่องในวันมหาสมุทรโลก 2565” เพื่อแก้วิกฤตทรัพยกรประมง พร้อมเรียกร้องให้นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร ใช้กระบวนการของสภา เร่งรัดกระบวนการคุ้มครองสัตว์น้ำเศรษฐกิจวัยอ่อน และขนาดเล็ก และขอให้ส่งหนังสือเวียนถึงสมาชิกทุกคนให้รับทราบ และช่วยประสานให้หยุดจับสัตว์น้ำวัยอ่อน โดยเฉพาะปลาทู
เนื่องจากทางสมาคมเรียกร้องมา 7 ปี แล้ว แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ ไม่ดำเนินการใดๆ ไม่มีการประกาศความเหมาะสมในการจับปลา แต่ปล่อยให้เอกชนเข้าไปใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้าไปจับสัตว์น้ำ เป็นปลาเป็ดป้อนอาหารสัตว์ และป้อนเข้าสู่ตลาดผู้บริโภคจำนวนมาก ทำให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจของประเทศ ทำให้ปัจจุบันมีปลาทูเหลืออยู่ 1.8 พันตันต่อปี ไม่ทราบว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีญาติทำประมงหรือไม่ จึงไม่ดำเนินการเรื่องนี้ เพราะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ชาวประมงพื้นบ้าน และต่อเศรษฐกิจ สังคมโดยรวม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวประมงที่เดินทางมาพร้อมเรือ 4 ลำ ได้แสดงเชิงสัญลักษณ์ โดยทำการลากอวนจับปลาในแม่น้ำเจ้าพระยา หน้าอาคารรัฐสภา ที่ถูกต้อง แต่ไม่ได้ปลาสักตัว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแม้แต่ในแม่น้ำเจ้าพระยา ก็ไม่เหลือปลาให้จับ
ทั้งนี้มีเรือตรวจการณ์ของตำรวจน้ำ 2 ลำมาประกบ เพื่อรักษาความปลอดภัยตลอดเส้นทางด้วย
จากนั้นเวลา 10.30 น.ตัวแทนกลุ่มประมงพื้นบ้านฯ 30 คน เข้ายื่นหนังสือต่อนายชวน ผ่าน นายราเมศ รัตนะเชวง เลขานุการประธานรัฐสภา พร้อมกล่าวว่า ทางสภาพร้อมรับฟังปัญหาของประชาชน เพราะเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญ จากนั้นทางกลุ่มประมงฯ จะเข้าพบประธานสภา เพื่อให้ข้อมูลปัยหาที่เกิด เพื่อดำเนินการตามกลไกของสภา
