สตช.แจ้งรัฐ ย้ายเมกะโปรเจกต์ “แฟลตตำรวจ” 4 พันล้าน จากสโมสรตำรวจบางเขน ไปที่ราชพัสดุ ย่านโครงการเมืองทองธานี เหตุโครงการเดิม พบมีความสูงเกินกำหนดในเขตห้ามบิน ครม.ไฟเขียว ขยายก่อหนี้ผูกพัน เดิม 4 ปี ให้เป็น 6 ปี ยันโคตรงการใหม่ เป็นสวัสดิการแฟลตตำรวจ พ่วงที่จอดรถ 4 ตึก 17 ชั้น สร้างเพื่อศักดิ์ศรีตำรวจไทย
วันนี้ (7 มิ.ย.) มีรายงานจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) มีหนังสือถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) แจ้งมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อ 30 พ.ค. 2565
หนังสือระบุถึงมติ ครม. ตอนหนึ่งว่า อนุมัติ สตช. ปรับแผนการก่อสร้างอาคารที่พักอาศัยเพื่อข้าราชการตำรวจ หน่วยงานที่มีสถานที่ทำงานตั้งอยู่ในที่ดินดังกล่าว จำนวน 4 อาคาร วงเงินงบประมาณ 3,849,900,000 บาท
“ไปก่อสร้างในที่ดินราชพัสดุของ สตช. ในโครงการเมืองทองธานี ย่าน ถ.แจ้งวัฒนะ ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จำนวน 4 อาคารๆ ละ 17 ชั้น แทน โครงการเดิม ภายในสโมสรตำรวจ แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ที่จะสร้าง 5 อาคารๆ ละ17 ชั้น”
สตช. ระบุว่า การย้ายพื้นที่ไปยังโครงการเมืองทองธานี นั้น ที่ผ่านมา สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) แจ้งภายหลังได้ตรวจสอบบริเวณพื้นที่ก่อสร้างโครงการเดิม 5 อาคารภายในสโมสรตำรวจ
พบว่า อยู่ในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศบริเวณใกล้เคียงสนามบินดอนเมือง มีความสูงอนุญาตที่ความสูงไม่เกิน 43.28 เมตร จากระดับดินเดิม
“และอาคารที่พักอาศัยขนาด 17 ชั้น จำนวน 4 อาคาร ที่จะดำเนินการก่อสร้างในพื้นที่ดังกล่าว มีความสูงจากระดับดินเดิมจำนวน 61.40 เมตร ซึ่งความสูงของอาคารสูงเกินกว่าระดับความสูงที่จะสามารถดำเนินการก่อสร้างในพื้นที่ดังกล่าวได้”
ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงรายการก่อหนี้ผูกพัน งบประมาณปี 2564 โดยไม่เพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ของรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ
อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ สำนักงานส่งกำลังบำรุง สตช. ได้ทำสัญญาจ้างบริษัท วรวิสิฎฐ์ จำกัด เป็นผู้ทำการก่อสร้าง พื้นที่เดิมแขวงตลาดบางเขน ตามสัญญา เลขที่ ยธ. 26/2564 ลงวันที่ 15 มิ.ย.2564 กำหนดทำงานแล้วเสร็จภายใน 1,350 วัน สัญญาเริ่มทำงาน วันที่ 16 มิ.ย. 2564 ครบกำหนดวันที่ 24 ก.พ. 2568
ต่อมา สตช. ได้รับแจ้งจาก กพท. ว่า โครงการ “มีความสูงเกินกำหนดในเขตปลอดภัย” ในการเดินอากาศบริเวณใกล้เคียง จึงไม่สามารถดำเนินงานก่อสร้างในพื้นที่ของสโมสรตำรวจได้ โดยเห็นควรปรับเปลี่ยนพื้นที่ก่อสร้าง
ต่อมา นายกรัฐมนตรี ได้เห็นชอบให้ดำเนินโครงการ แต่เนื่องจากงบประมาณของ สตช. ที่ได้รับจัดสรรในปี พ.ศ. 2565 มีจำนวนจำกัด จึงยังไม่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณ
ล่าสุด สำนักงบประมาณ มีหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ นร 0716/5616 ลงวันที่ 22 มี.ค. 2565 เห็นชอบให้ สตช. เปลี่ยนแปลงสถานที่ก่อสร้าง ในวงเงิน 3,859,900,000 บาท โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณ ปี 2564 จำนวน 773,020,000 บาท ให้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีได้
ส่วนที่เหลืออีกจำนวน 3,086,880,000 บาท ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565-2569 ล่าสุด ครม.เห็นชอบให้อนุมัติขยายระยะเวลาก่อหนี้ ผูกพันข้ามปีงบประมาณ จากปีงบประมาณ พ.ศ. 2564-2567 เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. 2564-2569 แล้ว
สำหรับโครงการ “อาคารที่ทำการพร้อมที่จอดรถและอาคารที่พักอาศัยข้าราชการตำรวจ” เดิม มีแผนก่อสร้าง 6 อาคาร วงเงินรวม 4,089,480,000 บาท
เป็นคำของบประมาณปี 2566 จำนวน 817,896,000 บาท และเป็นภาระผูกพันปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 - ปีสิ้นสุดระยะเวลา ดำเนินการอีก จำนวน 3,271,484,000 บาท
ทั้งโครงการจะมี 1,778 ห้องพัก แยกเป็น อาคารที่ทำการ ขนาด 8 ชั้น จำนวน 1 อาคาร อาคารที่จอดรถยนต์ ขนาด 8 ชั้น จำนวน 1 อาคาร
“อาคารที่พักอาศัยข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร ขนาด 14 ชั้น จำนวน 2 อาคารๆ ละ 438 ห้องพัก รวม 2 อาคาร รวมห้องพักจำนวน 876 ห้องพัก อาคารที่พักอาศัยข้าราชการตำรวจชั้นประทวน ขนาด 14 ชั้น จำนวน 2 อาคารๆ ละ 441 ห้องพัก รวม 2 อาคาร รวมห้องพักจำนวน 902 ห้องพัก”
ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบนโยบายว่า จะดูแลสวัสดิการบ้านพักข้าราชการตำรวจ
ขณะที่เงินเดือนตำรวจ เหลือเลี้ยงชีพไม่เพียงพอกับการเช่าบ้านพัก ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพได้อย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรี ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ไม่ดี เกิดความกดดัน บีบคั้น และต้องดิ้นรนในการหาอาชีพเสริมหรือรายได้จากทางอื่น
เพื่อให้ตำรวจมีเงินรายได้เพียงพอ ขาดขวัญกำลังใจ ในการปฏิบัติหน้าที่ และไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ