“หมอชลน่าน” ฉะ รบ. จัดงบฯ ปี 66 วางยาให้รัฐบาลใหม่ ชี้จัดงบลงไปในพื้นที่ไม่เหมาะสม แสวงหาโอกาสในช่วงใกล้เลือกตั้ง
เมื่อเวลา 09.20 น. วันที่ 31 พ.ค. ที่รัฐสภา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ว่า พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญ และเตรียมพร้อมอย่างดียิ่ง การอภิปรายในแต่ละวัน จะมีการแบ่งคนรับผิดชอบตามโจทย์ที่เราได้ตั้งไว้ และจะเจาะไปในประเด็นที่มีความผิดพลาดล้มเหลว โดยจะใช้คำว่ารัฐบาลหมดสภาพ หรือสิ้นสภาพต่อด้วยงบสิ้นหวัง ดังนั้น การอภิปรายวันแรก 7 ชั่วโมงกว่า ส่วนวันที่สองพรรคเพื่อไทยได้เตรียมความพร้อมผู้อภิปรายเกี่ยวกับการจัดงบประมาณโดยเฉพาะทางตันของงบประมาณปี 2566 และตามด้วยงบสิ้นหวังต่อ เนื่องจากมีรายการที่จะต้องพิจารณาเป็นจำนวนมาก โดยมีผู้อภิปรายประมาณ 30 คน ส่วนการอภิปรายวันที่สาม จะมุ่งเน้นไปที่งบส่อโกงและเติมด้วยงบสิ้นหวัง โดยผู้อภิปรายจะทำงานในลักษณะต่อเนื่อง แม้การอภิปรายจะมีการสลับกับฝ่ายรัฐบาลก็ตาม โดยให้ผู้อภิปรายในประเด็นเดียวกันอภิปรายติดต่อกัน ซึ่งทั้งหมดเป็นเหตุและผลที่พรรคฝ่ายค้านมีมติร่วมกันว่าเราไม่รับร่างงบประมาณฉบับนี้ โดยตนในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรจะเป็นผู้เริ่มอภิปรายคนแรก เพื่อให้เห็นภาพรวมว่าเหตุใดจึงไม่รับร่างดังกล่าว และพรรคร่วมฝ่ายค้านมีมติเรียบร้อยแล้วว่าไม่รับร่างฉบับนี้ ซึ่งไม่รวมกับ ส.ส.ของพรรคเศรษฐกิจไทย เพราะเขาไม่ได้อยู่ในพรรคร่วมรัฐบาล
เมื่อถามว่า คิดว่าจะได้เสียงจากพรรคเศรษฐกิจไทย มาช่วยสนับสนุนให้ไม่รับร่างดังกล่าวหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า การจะได้เสียงหรือไม่อยู่ที่เหตุผลในการอภิปรายของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ว่า ในข้อเท็จจริงมีเหตุผลเพียงพอหรือไม่ เพราะหลายเรื่องเป็นภาวะสุ่มเสี่ยงที่เราใช้คำว่าทางตัน ถ้าเขาเห็นอย่างนั้นเขาอาจจะมีดุลพินิจในการพิจารณาว่าไม่สามารถให้รัฐบาลชุดนี้บริหารต่อไปได้ เพราะจะเกิดความเสียหายต่อประเทศชาติบ้านเมืองและประชาชน
เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และอดีตเลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่ได้คุยกัน แต่เมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้พบกันก็พูดคุยกันเรื่องทั่วไป เมื่อถามย้ำว่า ฝ่ายค้านมีความมั่นใจว่าจะโหวตคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบฯ ฉบับนี้ได้มากน้อยแค่ไหน นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ในนามของฝ่ายค้านตนยังมั่นใจในเรื่องภาพรวมภาพใหญ่ที่เป็นวิกฤต หลายคนอาจใช้พี่น้องประชาชนเป็นตัวประกัน ว่า หากคว่ำงบประมาณแล้วประชาชนจะเดือดร้อน แต่เรามีคำตอบว่าการคว่ำงบประมาณนี่แหละ ทำให้ประชาชนเดือดร้อนน้อยกว่าที่จะปล่อยให้ร่างฉบับนี้ผ่านไป สังเกตหรือไม่ว่า งบประมาณปี 2566 รัฐบาลชุดนี้จะบริหารได้มากสุดถึงแค่เดือน มี.ค. ปี 66 ดังนั้น การจัดงบประมาณของเขาก็จะเอื้อต่อการจัดเม็ดเงินให้ใช้ให้หมดในไตรมาสสอง หมายถึงงบลงทุน แต่สิ่งที่จะเป็นปัญหา คือ รัฐบาลที่มารับช่วงต่อจะก่อวิกฤตมาก เพราะเป็นการจัดงบแบบวางยา และเป็นการจัดงบที่ลงไปในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสมเป็นการแสวงหาโอกาสในช่วงใกล้เลือกตั้ง ซึ่งฝ่ายค้านจะต้องชี้ให้เห็น