รมว.สธ. ประชุมผู้ประกอบการ ขอเดินหน้าเปลี่ยนกัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจ หวังประชาชน เข้าใจประโยชน์ และใช้ให้ถูกทาง ไม่พากัญชา กลับไปเป็นพืชเสพติด ยัน เดินหน้านโยบายด้วยความบริสุทธิ์ใจ
วันนี้ (30 พ.ค.) ณ โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายในงานประชุมหารือเพื่อส่งเสริมการประกอบการด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพจากกัญชา และกัญชง ซึ่งมีผู้ประกอบการเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก ระบุว่า
เราสามารถปลดล็อกกัญชาออกจากการควบคุม สู่การเป็นพืชเศรษฐกิจ ไปจนถึงเป็นยาสมุนไพร ใช้รักษาโรคได้แล้ว นอกจากนี้ เราได้บรรจุกัญชา เป็นสูตรยาแผนไทยและยาน้ำมันกัญชารวม 8 รายการ เข้าในบัญชียาหลักแห่งชาติ ด้านยาสมุนไพร เพื่อผลักดันการเข้าถึงและการใช้ยาจากสมุนไพรในทางการแพทย์และการสาธารณสุขอย่างเป็นรูปธรรม ทำให้เกิดความต้องการผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนทั้งระบบ นโยบายกัญชาจะประสบผลสำเร็จตามเจตนารมณ์ได้นั้น การขับเคลื่อนในส่วนปลายน้ำมีส่วนสำคัญมาก ผลิตภัณฑ์ต้องดี มีความปลอดภัย การใช้กัญชา กัญชง เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์สุขภาพ กำลังเป็นที่ต้องการของตลาด ทั้งผู้บริโภคชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่ปัจจุบันให้ความสนใจในผลิตภัณฑ์สุขภาพ วันที่ 9 มิถุนายนนี้แล้ว ที่กัญชา จะถูกปลดล็อก เรามุ่งมั่น ให้กัญชา เป็นพืชเศรษฐกิจ
ผู้ประกอบการไทยตื่นตัวมาก ทุกคนก็พยายามทำความเข้าใจกฎหมาย ขอให้พวกท่านได้พัฒนาต่อยอดในการนำกัญชา กัญชง ไปทำผลิตภัณฑ์ พวกท่านเป็นส่วนสำคัญในการทำให้กัญชากลายเป็นพืชเศรษฐกิจ ให้พวกท่านสร้างกำลังซื้อ ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับเกษตรกรต่อไป ส่วนที่ขอให้เลื่อนการบังคับใช้กฎหมาย ขอย้ำว่า เราต้องเดินหน้าต่อครับ มีคนไทยจำนวนมากที่มีความหวัง ที่ลงทุน ลงแรงไปแล้ว มีหลายคนต้องการใช้กัญชาเพื่อรักษาตัวเอง เป็นพืชสมุนไพรในครัวเรือน เรามองเห็นประโยชน์ของนโยบายมากกว่ามองเห็นโทษที่สามารถควบคุมได้
“เราได้อนุญาตให้กับผู้ประกอบการไปเป็นจำนวนหลายพันรายแล้ว จะเห็นว่า แม้ยังไม่ถึงวันที่ 9 มิถุนายน แต่ผู้ที่ใช้กัญชา เป็นวัตถุดิบ สามารถนำไปผลิตสินค้าต่างๆ สามารถสร้างสินค้าออกมาได้อย่างมาก ตั้งแต่เป็นอาหาร เป็นเครื่องดื่ม เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เป็นเครื่องสำอาง ยาสมุนไพร มีการจ้างงาน ส่งผลให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบมหาศาล คนไทยมีรายได้เพิ่มขึ้นในทุกระดับ ขอร้อง อย่านำกัญชาไปใช้ในทางที่ผิด ขอให้เห็นใจคนที่ใช้กัญชาอย่างถูกต้อง เพื่อสุขภาพ เพื่อแก้ปัญหา ปากท้อง เราต้องช่วยกัน ไม่ให้กัญชา ถูกมองว่าเป็นยาเสพติด”
นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า การผลักดันนโยบายกัญชานี้ เป็นเรื่องของการทำในสิ่งที่พูด เราไม่มีพรรคพวกหรือมีคนใกล้ชิดทำเรื่องกัญชา เอาจริง คือ ทางใครทางมัน ถ้าไม่ได้ให้สัญญาในเรื่องนี้ ไว้ตั้งแต่ตอนหาเสียง ก็คงไม่ได้มาทำ เรื่องนี้แน่นอน ส่วนที่มีความกังวล เรื่องจะมีการใช้กัญชา แล้วเกิดผลข้างเคียงต่อสังคม ขอย้ำว่า ตรงนั้น เรากำลังออกกฎกรอบมาควบคุม โดยใช้อำนาจของกระทรวงสาธารณสุข ย้ำว่า เราตัดสินใจเดินหน้า โดยมองครอบคลุมทุกมิติแล้ว