ข่าวปนคน คนปนข่าว
**พีคไม่พัก! กราบลา "พระมารดา"แล้วพูดได้ "ทนายจุ๊กกรู๊" ปูด 30 ภาพลับในมือ "บังแจ็ค" เกี่ยวคนดัง-นักธุรกิจ สุดอันตราย!!
วงแตกแล้วแยกย้าย ตัวใครตัวมันตามคาด เมื่อ "ทนายเดชา" เดชา กิตติวิทยานันท์ บอกลาการทำหน้าที่ทนายความของ "แม๊" ภนิดา ศิระยุทธโยธิน "แม่แตงโม" นักแสดงสาวที่เสียชีวิตตกเรือกลางแม่น้ำเจ้าพระยา โดยให้สัมภาษณ์สื่อตามประสาจุ๊กกรู๊ ว่า " ขอกราบลาพระมารดา อะไรที่ทำให้ไม่สบายใจ ก็ขอโทษด้วย ขอให้ได้ที่ปรึกษาใหม่ ที่รักมารดานานๆ มารดาจงเจริญ จุ๊กกรู๊ หมดเวรหมดกรรมแล้ว" และ เจ้าตัวยังขอร้องให้ "รถทัวร์" ย้ายไปที่อื่นได้แล้ว เพราะเขาคงไม่ยุ่งเกี่ยวกับคดีแตงโมอีกต่อไปนับแต่นี้ ที่ผ่านมาต้องกราบขออภัยทุกคนที่เห็นไม่ตรงกับเขา
เหตุผลการบอกลาพระมารดาของทนายเดชา ว่ามาจาก 3 เรื่อง
หนึ่ง ความคิดเห็นทางคดีไม่ตรงกัน ส่วนตัวเชื่อเป็น "คดีอุบัติเหตุ" แต่แม่เชื่อทีมที่ปรึกษาใหม่ว่าเป็น "คดีฆาตกรรม"
สอง กรณีแม่แตงโมยอมรับได้นำโทรศัพท์ของแตงโมไปให้ "บังแจ็ค" จนต่อมามีข้อมูลหลุดไปสู่สาธารณะ และแม่ยังบอกว่า โทรศัพท์มือถืออยู่ที่ตัวทนายเดชา ซึ่งเขารับไม่ได้
ฟางเส้นสุดท้าย แม่ไม่พอใจ "ทนายตั้ม" ได้ให้โทรไปคุยกับทนายตั้มให้มาขอโทษ แต่ทนายตั้มไม่มา แม่จึงต้องการดำเนินคดีกับทนายตั้ม ซึ่งเขาเป็นเพื่อนกับทนายตั้ม จึงรู้สึกอัดอัดใจ
เมื่อมาสุดทางจึงขอถอนตัว แต่ “ทนายจุ๊กกรู” ยังทิ้งปมไว้ให้ชาวเน็ตต้องตามต่อว่า ตอนนี้ข้อมูลต่างๆ ในมือถือแตงโมถูกดูดไปหมดแล้ว คนที่เคยติดต่อกับแตงโมอันตราย ทราบว่ามีภาพอันตรายอยู่ในโทรศัพท์มือถือ 30 ภาพ เกี่ยวข้องกับคนมีชื่อเสียง เป็นนักธุรกิจ เกรงว่า “บังแจ็ค” จะนำภาพดังกล่าวไปทำให้เกิดความเสียหาย เป็นความผิดพลาดร้ายแรง อันตรายมาก!!
ขอให้คุณแม่มีสติ ต้องดูให้ดีว่าใครหวังดี เพราะคดีนี้อีกยาวไกล มีบางคนเสนอกับคุณแม่ว่า จะได้เงิน 200-500 ล้าน ซึ่งไม่รู้ว่าจะได้หรือไม่ ก็ขอให้คุณแม่คิดดีๆ
หวังว่าที่ปรึกษาชุดใหม่ของคุณแม่จะอยู่กับคุณแม่ไปตลอดจนจบคดี...ทนายเดชา ส่งท้าย
ขณะที่ "ทนายตั้ม" ษิทรา เบี้ยบังเกิด ได้โพสต์ข้อความผ่าน เฟซบุ๊ก "ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ" ถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า "เป็นไปตามคำคาดการณ์ผม ตอนนี้แม่กับอาจารย์เดชา วงแตกแล้วนะครับ และไปเข้าร่วมกับอีกกลุ่มแทน ผมบอกแล้วเรื่องนี้เป็นขบวนการ ติดตามดูกันต่อไป ว่าใครเอี่ยว ใครเกี่ยวข้องกับการที่มือถือของแตงโมถูกนำไปใช้เพื่อหวังผลนอกคดีบ้าง เกมนี้ดูกันไปยาวๆ ครับ ไม่ต้องรีบด่า ส่วนใครที่ว่าผมไปแล้ว มาขอโทษขอโพย ยินดีให้อภัย 1000%"
ตอนนี้จึงเท่ากับว่า “แม๊” ที่เพิ่งได้อวยยศเป็น "พระมารดา" ใช้ทนายเปลืองหมดไปสองคนที่เห็นๆ โดยบ่ายหน้าไปหา "พี่เต้ พระราม7" มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ซึ่งเจ้าตัวได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์" ระบุว่า แม่แตงโม ได้มอบให้ฝ่ายกฎหมายของพรรคไทยศรีวิไลย์ ดูแลคดีแตงโม และทุกคดีที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไป
“เต้ พระราม7” ยังเคลมว่า งานนี้พรรคมี "ลุงอัจ" อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ จากชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม มาช่วยทำคดีด้วย เพราะแม่เชื่อว่าลูกสาวถูกฆาตกรรม โดยจะทำเป็น 2 ชุด คือคดีอาญา และคดีแพ่งเรียกร้องค่าเสียหายประมาณ 200 ล้านบาท
“เต้” เชื่อว่า ถ้าทุกอย่างสว่าง ข้อมูลจะมาเรื่อยๆ จะทำให้ดีที่สุด และไม่ได้คิดค่าใช้จ่ายใดๆ กับแม่แตงโม พรรคออกให้ทั้งหมด และหากแม่ฟ้องทางแพ่ง และได้รับเงินมาก็เป็นเรื่องของแม่ ว่าจะเอาไปทำอะไร
ส่วน กรณี "ทนายตั้ม" ตั้งข้อสังเกตว่า มีกระบวนการใช้โทรศัพท์มือถือของแตงโมในการเรียกรับผลประโยชน์ “มงคลกิตติ์” ย้อนถามว่า รับผลประโยชน์อะไร ก่อนจะบอกว่าให้ ทนายตั้มจะพูดอะไรก็ตาม ก็จะต้องรับผิดชอบในสิ่งที่พูด ลำพัง “ทนายตั้ม”ก็มีคดีเยอะอยู่แล้ว ถ้าไม่ช่วยคดีแตงโมก็ควรจะอยู่เงียบๆ
งานนี้ พีคไม่พักจริงๆ คงต้องตามต่อกันยาวๆ
** “ธรรมนัส”เบ่งคับสภา ประกาศรวม 40 เสียง ผนึกฝ่ายค้านคว่ำ“ลุงตู่”
การที่ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” อดีตเลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย เล่นเกมหัก “บิ๊กน้อย” พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา หัวหน้าพรรค ก็เพื่อให้เห็นภาพว่าหลังจากนี้พรรคเศรษฐกิจไทย ไม่ใช่สาขาของพรรคพลังประชารัฐแล้ว ..
“ร.อ.ธรรมนัส” ต้องการให้พรรคเศรษฐกิจไทย มีอำนาจต่อรอง เพื่อไปเขย่าขวัญสั่นประสาทรัฐบาล โดยเฉพาะ 2 ป. “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กับ“บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย
เพราะเป็นที่รู้กันว่า จุดแตกหักระหว่าง “บิ๊กน้อย” กับ “ร.อ.ธรรมนัส” คือการเห็นไม่ตรงกันเรื่องสนับสนุน หรือไม่สนับสนุน “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม
เมื่อ “ร.อ.ธรรมมนัส” เล่นเกมนี้ บรรดาพรรคเล็ก และกลุ่ม16 ที่มี “พิเชษฐ สถิรชวาล”เป็นหัวหอก ก็ออกมาขันรับกันทันที มีการแจงแจง แบ่งข้างนับจำนวนส.ส.กันให้เห็นจะจะ และกะว่าจะเปิดปฏิบัติการหยั่งเชิงในการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ. งบประมาณปี 66 วาระ 1 ในสัปดาห์หน้านี้เลย ไม่ต้องไปรอให้ถึงศึกซักฟอก ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะมีขึ้นเมื่อไร
แบบว่าถือโอกาสตีเหล็กตอนร้อน เพราะฝ่ายรัฐบาลเพิ่งพ่ายยับในสนามเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. และ ส.ก. จนถูกตีความว่าประชาชนคนกรุงไม่เอารัฐบาลนี้แล้ว... ดังนั้นเป็นความชอบธรรมที่ตัวแทนประชาชนจะได้โละรัฐบาลชุดนี้ออกไป
ส.ส.กลุ่ม16 และพรรคเล็ก พรรคจิ๋ว ที่เปิดหน้าออกมาตอนนี้มี 18 คน ได้แก่ “พิเชษฐ สถิรชวาล” พรรคพลังประชารัฐ “คฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล” พรรคพลังไทยรักไทย “พีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค” พรรคไทรักธรรม “ปรีดา บุญเพลิง” พรรคครูไทยเพื่อประชาชน “ดำรงค์ พิเดช” พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย “ยรรยงก์ ถนอมพิชัยธำรง” พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย “จารึก ศรีอ่อน” พรรคพลังท้องถิ่นไท “กวินนาถ ตาคีย์” พรรคพลังท้องถิ่นไท “นพดล แก้วสุพัฒน์” พรรคพลังท้องถิ่นไท “สมัคร ป้องวงษ์” พรรคชาติพัฒนา
“ดล เหตระกูล” พรรคชาติพัฒนา “สุรทิน พิจารณ์” พรรคประชาธิปไตยใหม่ “ภาสกร เงินเจริญกุล” พรรคเศรษฐกิจใหม่ “สุภดิช อากาศฤกษ์” พรรคเศรษฐกิจใหม่ “มารศรี ขจรเรืองโรจน์” พรรคเศรษฐกิจใหม่ “จิราพร นาคดิลก” พรรคเศรษฐกิจใหม่ “บุญญาพร นาตะธนภัทร” พรรคพลังชาติไทย และ “วัชรพล โตมรศักดิ์” พรรคชาติพัฒนา
เพื่อให้บรรยากาศร้อนแรงยิ่งขึ้น ล่าสุด“ร.อ.ธรรมนัส” เปิดแถลงที่สภาว่า ในกลุ่มของตนมีเสียงส.ส.อยู่16 เสียง เมื่อรวมกับกลุ่มพรรคเล็กและยังมี “พี่น้อง” ที่สังกัดพรรคร่วมรัฐบาลอยู่ในตอนนี้ ก็จะมีถึง 40 เสียง หรืออาจจะมากกว่านั้น
ขณะที่“ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์” รมว.ดิจิทัลฯ และรองหัวหน้า พรรคพลังประชารัฐ ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ด้วยความมั่นใจว่า ดูจากจำนวนเสียงที่มีอยู่ของรัฐบาล หากไม่นับส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทย เชื่อว่าเสียงยังผ่านเกมสภาและการอภิปรายไม่ไว้วางใจไปได้ ... แม้จะปริ่มน้ำแต่มั่นใจว่าเสียงยังพอแน่นอน!!
ที่ “ชัยวุฒิ” มั่นใจเช่นนั้น ส่วนหนึ่งอาจเชื่อมั่นในตัว “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนาวยการพรรคพลังประชารัฐ ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลพรรคเล็ก คงจะเอาอยู่ ไม่ให้ “ธรรมนัส” มาคว้าไปได้ อีกทั้งก่อนหน้านี้ แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคภูมิใจไทย ของ”เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล ก็เคยกางรายชื่อให้ “บิ๊กตู่” ดูถึงจำนวน และรายชื่อส.ส.ที่อยู่ฝ่ายรัฐบาลแน่...
เพราะนอกจากที่เห็นๆ กันอยู่ ก็ยังมี“ส.ส.ฝากเลี้ยง” ที่ตอนนี้อยู่ในพรรคร่วมฝ่ายค้าน ไม่เว้นแม้แต่ในพรรคเศรษฐกิจไทย ที่พร้อมจะหันมาสนับสนุนรัฐบาลเมื่อได้รับสัญญาณคับขัน ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องที่ต้องไปตกอกตกใจ
อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบบรรยากาศและภาพในทางการเมืองขณะนี้ จะเห็นได้ว่า“ร.อ.ธรรมนัส” กำลังพองคับสภา กำลังเป็นฝ่ายรุกไล่ และมีโอกาสที่จะคว่ำรัฐบาลได้... ขณะที่ “ลุงตู่” ต้องเป็นฝ่ายตั้งรับ ประคับประคองรัฐบาลไปให้ถึงการประชุมเอเปค ซึ่งเป็นจุดหมาย
ต้องจับตาว่าการเมืองหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร รัฐนาวาลุงตู่ จะไปไม่ถึงที่หมายหรือไม่... หรือ“ธรรมนัส”จะเบ่งพองจนแตกไปเอง !!