รมว.ยธ. รับได้ ส.ก. 2 ที่นั่ง พปชร.ต้องปรับเปลี่ยนแนวทาง เหตุความพึงพอใจ ปชช.เปลี่ยนไป เปลี่ยนจากสายศิลป์ เป็นสายวิทยาศาสตร์ มากขึ้น ยังไม่ถึงต้องปรับเพิ่มจำนวนแคนดิเดตนายกฯ รับฟัง “อัจฉริยะ” บี้ DSI รับคดีแตงโม ไม่งั้นถือตกต่ำ
วันนี้ (24 พ.ค.) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.และ ส.ก. ว่า จะเห็นว่า แนวทางของพรรคการเมืองในอนาคตจะต้องมีการปรับเปลี่ยน จากเดิมที่มีผู้คนออกมาในลักษณะเหมือนเล่นสงกรานต์ สาดสี ใส่ไข่แบบนั้น อาจจะต้องเปลี่ยนแปลง เพราะประชาชนเข้าใจและรู้ถึงการเมือง ต้องขอบคุณคน กทม.ที่ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งจำนวนมากและขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ชนะการเลือกตั้ง และผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ที่อยู่ในลำดับที่ 2 และ ลำดับที่ 3 ก็เป็นวิศวกรหลายคน ซึ่งประชาชนคาดหวังและต้องการในลักษณะนี้ ส่วนในทางการเมืองรัฐบาลจะนำไปปรับปรุงอย่างไร เพราะคะแนนเลือกตั้งในรอบนี้ได้น้อย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ก็คงไม่พูดถึงรัฐบาล แต่จะพูดถึงพรรค พปชร. ในฐานะที่เป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค พปชร. ตนคิดว่า เราก็ไม่ควรที่จะพูดคุยอะไรในลักษณะเหมือนน้ำท่วมทุ่ง ผักบุ้งโหลงเหลง ส่วนพรรค พปชร.เดิมได้ ส.ส.เขต 12 เขต แต่ตอนนี้ได้ ส.ก. 2 ที่นั่ง นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ซึ่งเป็นเรื่องที่เราจะต้องมีการปรับเปลี่ยนแนวทางต่างๆ ให้ตรงกับความรู้สึก และความพึงพอใจของประชาชน เปลี่ยนจากสายศิลป์เป็นสายวิทยาศาสตร์มากขึ้น
เมื่อถามว่า จะคัดคุณภาพคนมากขึ้นมากกว่าที่จะเอากลุ่มการเมือง นายสมศักดิ์ กล่าวว่า กลุ่มการเมืองในอดีตมีลักษณะของการวิพากษ์วิจารณ์ ฟังจากเสียงสะท้อน แต่ไม่ได้นึกถึงหลักเกณฑ์แนวทางอย่างแท้จริง ทั้งนี้ ย้ำว่า เป็นแนวทางที่พรรคจะต้องพูดคุยกัน ส่วนผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ถือเป็นการสะท้อนแค่ กทม.จังหวัดเดียว หรือทั่วประเทศที่เราจะปรับปรุงนายสมศักดิ์ กล่าวว่า ประกอบกัน ก็คงไม่ไปพูดอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งการเลือกตั้งพรรคก็ดูอยู่แล้ว แต่ตอนมองดูในเรื่องการพูดคุย การสื่อสารออกไปในแต่ละเรื่องถ้าไม่เป็นแก่นสารก็อาจจะเกิดความผิดพลาด และยังไม่ถึงขนาดที่จะต้องมีการปรับเพิ่มจำนวนแคนดิเดตนายกฯในส่วนของพรรค พปชร.
นายสมศักดิ์ ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ออกมาระบุว่า ขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับคดีการเสียชีวิตของน.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม เป็นคดีพิเศษ หากดีเอสไอไม่รับเป็นคดีพิเศษ ถือว่ากระทรวงยุติธรรมในยุคของท่านตกต่ำ ว่า ก็รับฟังไว้ ไม่มีปัญหา ยังเป็นเรื่องศิลปะอยู่ไม่ใช่วิทยาศาสตร์