รวมบรรดาสะใจ! “3 นิ้ว” ดิ้นพล่าน “ไทยเทเนียม” ปล่อยเพลง “พ่อมึง” กระทบใจ “ปวิน” คำเดียวสั้นๆ บรรดา “ตุ๊ด” เสียบ “สมศักดิ์ เจียม” ให้สาวกล้มเจ้ากระหน่ำ “ช่อ” โวสนั่น ฝังอุดมการณ์เป็นค่านิยมหลักในสังคมคือชัยชนะ
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (17 พ.ค.) กรณีสื่อสังคมออนไลน์ เกิดกระแสแฮชแท็ก #พ่อมึง ขึ้นอันดับ 1 ในเทรนด์ทวิตเตอร์ หลังจาก ศิลปินแร็ประดับตำนานของไทย “ไทยเทเนียม” ได้ปล่อยผลงานใหม่ “พ่อมึง” โดยเนื้อหาเพลงมีการเขียน RHYME (ไรห์ม) ที่มีเนื้อหาระบุว่า “ไม่ต้องถาม ใครสร้างมาตรฐานให้พวกมึงตาม” และยังมีการพูดถึงว่า ตัวเองเป็นรุ่นใหญ่ที่เป็นผู้บุกเบิกเส้นทาง
งานนี้ จึงมีกระแสวิจารณ์ในโซเชียล บรรดาเด็กรุ่นใหม่และแนวร่วมกลุ่มสามนิ้ว ต่างก็แสดงความคิดเห็นโจมตีเพลงใหม่ของวงไทยเทเนียม
อย่างไรก็ตาม เพจเฟซบุ๊ก Street Hero V3 โพสต์ข้อความว่า สรุป #พ่อมึง เป็นภาษาแร็ป ปกติหลิ่มฟังแต่เพลงรัก แต่ต้องมาฟังเพลงแร็ป เพราะกระแส พ่อมึง พ่อมึง! เนื้อเพลงไม่ได้มีอะไร ทำไมน้องสามนิ้วถึงดิ้น แค่คำว่า พ่อมึง พ่อมึง !
ตอนคลิปนาราเสียดสีสถาบัน บอกสลิ่มอย่าอ่อนไหว
พ่อมึง พ่อมึง ! ตอนโดนเอง กูน่ะรุ่นพ่อ ถึงกับกรีดร้อง โถ..ใจบางเป็นใยไหม พ่อมึง พ่อมึง !
ชอบมีพ่อไม่ใช่หรือ พ่อทอน พ่อฟ้า พ่อหมี พ่อโรจน์ มีอีกซักพ่อ พ่อมึง พ่อมึง !
หลิ่มขำฟันปลอมจะร่วง ท้องแข็งหมดแล้ว พอแค่นี้นะ บั๊บบาย โย่ว โย่ว !
ขณะที่มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อ @AngelMayaTKBlu1 โพสต์ข้อความว่า แนวเพลงสไตล์ #THAITANIUM อาจไม่ถูกจริต ไม่ใช่รสนิยมชาวกีบ ชาวกีบต้องงี้ ด่าประเทศ เหยียดคนเห็นต่างให้ต่ำ หยาบคายแค่ไหนก็สุภาพ!!
เพลงด่าประเทศชาวกีบสะใจกัน ทีงี้มาเป็นสุภาพชน ดัดจริต!!! (จากไทยโพสต์)
ขณะเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก Pavin Chachavalpongpun นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ รองศาสตราจารย์ประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต ลี้ภัยคดี 112 แชร์ เฟซบุ๊ก สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ที่โพสต์พาดพิงบรรดา “ตุ๊ด” ล้มเจ้าที่นิยมเพื่อไทย โดยระบุสั้นๆ ว่า บรรดา “ตุ๊ด” ก่อนที่จะมีผู้เข้ามาวิจารณ์ “สมศักดิ์ เจียม” เป็นการใหญ่
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เพจเฟซบุ๊ก The METTAD โพสต์ข้อความระบุว่า
“แปะสติกเกอร์กันเอง มันคือการต่อสู้ที่สง่างามตรงไหนวะครับ
เจตนามึงบ่อนทำลายสถาบันฯกันอยู่แล้วนี่” พร้อมแชร์ภาพกลุ่มทะลุวัง มีพฤติกรรมหมิ่นเบื้องสูง
นอกจากนั้น นางสาวพรรณิการ์ วานิช หรือ “ช่อ” แกนนำคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊ก Pannika Chor Wanich ระบุว่า ทุกแคมเปญเลือกตั้ง คือ โอกาสในการสร้างความเปลี่ยนแปลง
เราไม่ได้หวังแค่ชนะด้วยคะแนนเสียง ในระยะยาว แนวทาง อุดมการณ์ นโยบายของเรา จะถูกฝังลงไปและกลายเป็นค่านิยมหลักในสังคม
วันนั้นต่างหากคือชัยชนะที่แท้จริง
แน่นอน, คงจะได้เห็นแล้วว่า สังคมไทยในเวลานี้ มีความคิดเห็นต่าง ที่ฝังลึกอย่างมาก มากพอที่จะไม่สนใจอะไรมากไปกว่า ความคิดความเชื่อของพวกตัวเอง และทนไม่ได้ที่จะมีความเห็นต่างอยู่ร่วม ซึ่งนับว่าเป็นอันตราย
ถือว่า สวนทาง และย้อนแย้งอย่างมาก กับสิ่งที่แอบอ้างว่า ต่อสู้เพื่อ “ประชาธิปไตย” เพราะประชาธิปไตย ที่แท้จริง คือ การอยู่ร่วมกันของสังคมที่มีความคิดเห็นต่าง ซึ่งถ้ายังตีโจทย์ข้อนี้ไม่แตก ก็ยากที่จะไปต่อเหมือนกัน
เหนืออื่นใด ข้ออ้าง “ปฏิรูปสถาบันฯ” ยกเลิก ม.112 ของขบวนล้มเจ้า อาจเป็นแค่ รสนิยมส่วนตัว อย่างที่ “สมศักดิ์ เจียม” ชี้ให้เห็นก็เป็นได้ อาจไม่ได้เกี่ยวกับ ประชาธิปไตย แต่อย่างใด หรือไม่จริง!?