“รสนา” โพสต์แจง ตั้ง “สัญญา มัครินทร์” แกนนำ “กลุ่มก่อการครู” เป็นที่ปรึกษาด้านการศึกษา เพื่อเปิดพื้นที่การมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคม ร่วมกันแก้ไขปัญหาที่หมักหมม ไม่ได้มีเจตนาเอากลุ่มดังกล่าวมาเป็นฐานการหาเสียง ขออภัยหากข้อความที่พูดบนเวทีดีเบตไม่ชัดเจน
วันนี้ (16 พ.ค.) นางสาวรสนา โตสิตระกูล ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หมายเลข 7 โพสต์ข้อความชี้แจงการดีเบตที่พูดถึงโครงการ “ก่อการครู” หลังถูกวิจารณ์ว่า การอ้างอิงไม่ถูกต้อง ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน โดยระบุว่า ดิฉันมีทีมนโยบายที่ปรึกษาด้านการศึกษา อยู่หลายท่าน หนึ่งในนั้น คือ ครูสัญญา มัครินทร์ ครูผู้ได้รับเลือกให้เป็นปาฐกของมูลนิธิโกมลคีมทอง ปี 2565 ซึ่งเป็นครูแกนนำคนหนึ่งในโครงการก่อการครู ซึ่งโครงการก่อการครูเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่มีความตั้งใจ และมีอุดมการณ์ ในการเปลี่ยนแปลงการศึกษาไทยที่น่าสนใจ และสามารถเป็นแนวทางต่อวงการการศึกษา ดิฉันมีความตั้งใจที่จะเปิดพื้นที่ให้ภาคประชาสังคมในแต่ละด้านที่มีความตั้งใจจะร่วมกันแก้ไขปัญหาในด้านต่างๆ ทั้งปรับปรุงและพัฒนา เพราะเชื่อมั่นว่ามีแต่พลังของชุมชน ภาคประชาสังคมที่ตื่นรู้ที่จะช่วยกันแก้ไขปัญหาที่หมักหมมในแต่ละด้านได้
ดิฉันไม่ได้มีความตั้งใจจะเอากลุ่มก่อการครูมาเป็นฐานในการหาเสียงแต่ประการใด แต่นโยบายที่ดิฉันประกาศ คือ เปิดพื้นที่การมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในทุกภาคส่วน ในด้านการศึกษา ซึ่งดิฉันได้รับเกียรติอย่างสูงจากครูสัญญา มัครินทร์ ครูรุ่นใหม่ที่เป็นผลผลิตของโครงการ “กลุ่มก่อการครู” มาเข้าร่วมในทีมที่ปรึกษาของดิฉันซึ่งได้ประกาศสู่สาธารณะไปก่อนหน้านี้แล้ว
ดิฉันถอดเทปคำต่อคำที่ดิฉันพูดในการดีเบต ดังนี้
“ดิฉันมีทีมงานนะคะ ที่เป็นกลุ่มก่อการครู ที่เขาเปิดโอกาสให้เด็กเนี่ยสามารถออกแบบการเรียนรู้ด้วยตัวเขาเอง และดิฉันคิดว่าถ้าเราสามารถเปิดโอกาสให้เด็กได้เรียนรู้ด้วยตัวเขาเอง ด้วยวิธีการที่เขาอยากจะเรียนเนี่ย จะเป็นสิ่งที่สามารถจะทำให้เด็กเหล่านั้นไม่ตกไปอยู่ในสิ่งที่เป็นสิ่งแวดล้อม ที่ไปสู่อบายมุข และดิฉันคิดว่าประเด็นที่สำคัญที่สุดคือว่า เราต้องเปิดพื้นที่ในชุมชน ดิฉันได้เจอ วันก่อนนะคะ เด็กเขาบอกว่า เขาอาศัยศิลปะในการที่จะทำในชุมชน และผู้ใหญ่เพียงแต่ให้โอกาสและสนับสนุนเด็กเหล่านี้ในการทำในสิ่งที่เขาต้องการ การที่จะไม่ให้เด็กไปสู่อบายมุขต้องเปิดโอกาสให้เขาค่ะ”
หากมีผู้เห็นว่าข้อความที่ดิฉันพูดยังไม่ชัดเจน ดิฉันต้องน้อมขออภัยเป็นอย่างยิ่งที่ทำให้เกิดการเข้าใจผิดดังกล่าว และทำให้ “กลุ่มก่อการครู” และคนที่เกี่ยวข้องไม่สบายใจและได้รับความเสียหาย ดิฉันจึงขอชี้แจงว่า ดิฉันไม่เคยมีเจตนาที่จะเด็ดยอด หรือหมายรวมเอาโครงการก่อการครูมาเป็นผลงานหรืออยู่ภายใต้ดิฉันแต่ประการใด
แต่ยังขอยืนยันความชื่นชมที่ดิฉันมีต่อแนวคิดทางการศึกษาแบบใหม่ของ “กลุ่มก่อการครู” ที่ควรจะขยายกว้างออกไปในวงการศึกษาของไทย