วันนี้ (14 พ.ค.) น.ส.ศิชดา ภาจิตรภิรมย์ รองหัวหน้าพรรคแนวทางใหม่ ระบุว่า ในวันที่ 17 พ.ค.นี้ กระทรวงศึกษาธิการประกาศให้เปิดเรียนเต็มรูปแบบ หลังจากสถานการณ์โควิด 19 ทำให้เด็กๆของเราต้องหยุดการเรียนในโรงเรียนเป็นเวลาเกือบ 2 ปี ขณะนี้เข้าสู่ช่วงขาลงของโควิด 19 ประกอบกับมีการฉีดวัคซีนที่มากขึ้นทำให้ลดความกังวลเรื่องความรุนแรงของโรคไปได้ ตนในฐานะมีบุตรในวัยที่ต้องการพัฒนาทักษะจึงเห็นด้วยที่โรงเรียนทั่วประเทศจะกลับมาเปิดเรียนเต็มรูปแบบอีกครั้ง เพื่อลดผลกระทบจากภาวะการเรียนรู้ถดถอย
น.ส.ศิชดา กล่าวต่อว่า สถานการณ์โควิดที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าหลายครอบครัวได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจไม่ว่าในต่างจังหวัดหรือในกรุงเทพ หลายครอบครัวได้รับผลกระทบการเปิดเรียนครั้งนี้จึงเหมือนกลายเป็นภาระใหญ่หลวงที่จุกอกอยู่สำหรับผู้ปกครอง และต้องยอมรับว่าสวัสดิการด้านการศึกษาไม่ว่า แบบเรียนฟรี ชุดนักเรียนฟรี อาหารกลางวันที่มีตอนนี้ล้วนไม่เป็นจริงและไม่เพียงพอในทางปฏิบัติ สิ่งที่เกิดขึ้นในทุกครั้งเมื่อเปิดเทอมใหญ่และคงหนักที่สุดในครั้งนี้ คือภาพของผู้ปกครองทยอยกันเดินเข้าโรงรับจำนำ เพื่อเอาทรัพย์สินที่ยังพอเหลือติดตัวอยู่บ้างไปเปลี่ยนเป็นอนาคตทางการศึกษาของลูก
"ดิฉันคิดว่า เมื่อสิ่งที่กระทรวงศึกษาธิการและรัฐบาลต้องคำนึงคือทำอย่างไรให้เด็กทั้งหมดหลับไปเรียนได้ โดยที่ไม่เป็นภาระผู้ปกครอง ยิ่งมีลูกมากกว่าหนึ่งคน รายจ่ายก็ยิ่งเพิ่มขึ้น บวกกับตอนนี้ค่าครองชีพก็แพงหูฉี่ ค่าน้ำมัน ค่าเดินทางแพงไปหมดทุกอย่าง จึงอยากวิงวอนไปยังภาครัฐให้ลงทุนสักครั้งเพื่ออนาคต ด้วยการจัดเติมงบประมาณลงมาช่วยเหลือสวัสดิการเพื่อการศึกษาให้มากขึ้น อย่าปล่อยให้นโยบายเรียนฟรี 15 ปี เป็นเพียงแค่การขายฝัน"รองหัวหน้าพรรคแนวทางใหม่ กล่าว