มหาวิทยาลัยรังสิต แต่งตั้ง “ดร.อรรถวิท อุไรรัตน์” บุตรชาย “อาทิตย์ อุไรรัตน์” เป็นอธิการบดีคนใหม่ ยกย่องบิดาเป็นตำนานของมหาวิทยาลัยและประเทศ
วันนี้ (11 พ.ค.) ตามที่ ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ ได้มีหนังสือขอลาออกจากตำแหน่งอธิการบดี มหาวิทยาลัยรังสิต โดยมีผลวันที่ 9 พฤษภาคม 2565 นั้น เพื่อให้การบริหารงานของมหาวิทยาลัยดำเนินไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ คณะกรรมการสภามหาวิทยาลัยรังสิต จึงมีมติให้แต่งตั้ง ดร.อรรถวิท อุไรรัตน์ ดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต ทั้งนี้ มีผลตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป
ดร.อรรถวิท อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ ยังคงเป็นตำนานของมหาวิทยาลัยรังสิต ของประเทศชาติ และท่านยังคงเป็นเสาหลักให้กับมหาวิทยาลัยของเราต่อไป และตลอดไป ด้วยคุณูปการของ ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ ท่านเป็นผู้บุกเบิก เป็นผู้ที่คิดต่างอย่างสร้างสรรค์
“เมื่อสมัยเปิดวิทยาลัยแพทยศาสตร์ ตอนนั้นในฐานะที่เป็นมหาวิทยาลัยเอกชน จึงไม่ค่อยได้รับการสนับสนุนสักเท่าไร แต่ด้วยวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นของ ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ นั้น จนถึงปัจจุบัน วิทยาลัยแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ได้สร้างอาชีพให้เด็กๆ ได้เป็นหมอ รุ่นละ 100 คน 150 คน มาตลอดระยะเวลา 30 ปี ซึ่งนับรวมได้เป็นหลักพันคน เพื่อตอบโจทย์และความต้องการของประเทศ ที่ยังคงต้องการหมอ ต้องการบุคลากรทางการแพทย์มากมาย คณะทันตแพทยศาสตร์ก็ดี คณะเทคนิคการแพทย์ก็ตาม เรายังต้องการบุคลากร และอีกมากมาย
ผมเองก็ติดตาม ดร.อาทิตย์ มาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ตั้งแต่เป็นผู้ว่าการการประปาฯ หรือแม้ตอนที่เป็นนักการเมืองออกหาเสียงก็ตาม นี่จึงเรียกได้เต็มปากว่า ท่านผู้นี้เป็นตำนานอย่างแท้จริง เกี่ยวกับมหาวิทยาลัยรังสิตนั้น ตัวผมก็ผูกพัน มาที่นี่ตั้งแต่ยังเป็นทุ่งรังสิต เมื่อขับรถเข้ามาก็จะรู้สึกเหมือนว่ามาไร่มานา ยามค่ำคืนก็ได้ยินเสียงจักจั่นเรไรร้อง จนเวลาผ่านมาค่อยๆ เติบโตจากสองคณะ มาสู่สามสิบกว่าคณะ มหาวิทยาลัยรังสิตของเราถูกขนานนามว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่อยู่ในอันดับที่ 5 บ้าง อันดับที่ 7 บ้าง เมื่อสิบปีต่อมานี้ ก็ขยับมาเป็นอันดับที่ 3 บ้างหล่ะ แต่ช่วง 8 ปีที่ผ่านมานี้ เราได้รับการจัดอันดับจาก Webometrics Ranks ให้เป็นอันดับที่ 1 มาโดยตลอด แม้การประเมินจาก สมศ. เราก็ได้รับการประเมินให้อยู่ในระดับดีมาก นั่นหมายถึง คุณภาพของมหาวิทยาลัยของเรา การเรียนการสอนที่โดดเด่น และมีคุณภาพ
ภารกิจต่างๆ ที่เราทำ ไม่ว่าจะเป็นด้านการช่วยเหลือสังคม ด้านการส่งเสริมคุณภาพชีวิต ด้านการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม และอีกมากมาย ไม่เพียงองค์กรที่เราจะต้องร่วมกันผลักดัน ในส่วนของนักศึกษาก็อยากให้พวกเราช่วยกันดูแล สอดแทรกความเป็นสังคมธรรมาธิปไตย เราต้องสอนทักษะความดีให้แก่พวกเขาด้วย หรือทางด้านกายภาพสิ่งแวดล้อมบริเวณมหาวิทยาลัย สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ก็ต้องดูแลตรงนี้ให้ดี ช่วงเวลากว่า 20 ปีที่ได้ทำงานที่มหาวิทยาลัยรังสิต ผมก็ได้ทำงานมาหลายหน้าที่ ทั้งในส่วนกลาง และการบริหารคณะ ด้วยองค์กรของเราเป็นองค์กรที่ใหญ่ ผมเองก็อยากให้พวกเราได้ทำงานอยู่บนพื้นฐานของความดี ความยุติธรรม ร่วมกันผลักดันและทำงานโดยยึดหลักสังคมธรรมาธิปไตยเช่นกัน ไม่ว่าสิ่งที่พวกเราตั้งทำไว้นั้น จะสำเร็จในระดับใดก็ตาม ผมเองก็จะตั้งใจทำร่วมกับพวกเราอย่างดีที่สุด”