อารมณ์ไหน? “สมศักดิ์ เจียม” แซะปัญญาชน “สามกีบ” เคยแอนตี้ทักษิณ “เพชร ก้าวไกล” โดดป้อง “ลาซาด้า”

“ไผเป็นไผ” สมศักดิ์ เจียม แซะ ปัญญาชนสามกีบเคยแอนตี้ทักษิณปี 49 นำมาซึ่งกระแสศักดินา ประชาไทตัวดี “เพชร ก้าวไกล” โดดป้อง “ลาซาด้า” ชี้ กองทัพอย่าคิดสู้รบกับเอกชน “อานนท์” กลัวรัฐประหาร “กวิ้น” เย้ย “สลิ่ม” หมาเห่าไม่เขยื้อนภูเขา

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (10 พ.ค. 65) เฟซบุ๊ก Somsak Jeamteerasakul ของ นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ผู้ลี้ภัยคดี 112 ที่ฝรั่งเศส โพสต์ข้อความระบุว่า

“ผมว่างๆ เลยลองค้นอะไรเก่าๆ ดู ปรากฏว่า น่าเสียดายที่เว็บไซต์เก่าๆ หายไปเยอะ ที่เหลือก็น้อยเต็มทีและขาดๆ นับว่าน่าเสียดายจริงๆ

เท่ายังเหลืออยู่ นับว่าเหลือเชื่อเหมือนกัน สมัยปี 2549 บรรดาปัญญาชนพากันแอนตี้ทักษิณขนาดนี้ ผมดูๆ แล้วก็หัวเราะในใจ สมัยนั้น ผมจำไม่ได้ถนัด แต่ที่นึกออกมีผมอยู่คนเดียวที่ไม่เอาด้วยกับการแอนตี้ทักษิณ ข้อเสนอของผม คือ กระแสแอนตี้ทักษิณจะนำมาซึ่งกระแสศักดินา จะทำให้อำนาจศักดินาขึ้นสูง แต่ไม่มีใครเชื่อ ที่ผมเซอร์ไพรส์ คือ บรรดาคนที่เอาด้วยกับกระแสแอนตี้ทักษิณมีบางชื่อ ผมเพิ่งรู้เหมือนกัน........

นี่ควรจะเป็นที่รวมของแถลงการณ์แอนตี้ทักษิณ เมื่อไม่กี่ปีก่อน ผมยังเข้าไปดูได้ เดี๋ยวนี้ต้องพึ่ง archive แล้ว และไม่สามารถดูได้อีก
https://web.archive.org/web/20100326113058/https://prachatai.com/journal/2006/02/22175

นี่เป็นรวมหน้า “ให้กำลังใจ” ไชยันต์ ชัยพร ไม่กี่ปีก่อนยังดูได้ เดี๋ยวนี้ หายไปเสียแล้ว เหลือแต่คำชี้แจงสั้นๆ “พวกเราหลายคน “ได้แต่ฉีกบัตรในใจ” (ขอยืมคำของ อาธร นวทิพย์สกุล) จึงชวนกันทำสิ่งที่พอทำได้อย่างสงบ ด้วยการส่งกำลังใจมอบให้แด่อาจารย์ไชยันต์”
https://prachatai.com/journal/2006/04/8020

เมื่อหลายปีก่อน ผมเคยบอกคนทำประชาไท ว่า สมัยก่อนประชาไทน่ะ “ตัวดี” ในการแอนตี้ทักษิณเลย เขายังไม่ค่อยเชื่อ ผมบอกว่าขนาดทำหน้าให้กำลังใจไชยันต์ แล้วลบความเห็นที่ไม่เห็นด้วยออก “เนื่องจากพื้นที่ส่วนนี้ประชาไทเปิดขึ้นเพื่อให้กำลังใจ ขอความร่วมมืองดเว้นถ้อยคำที่มีลักษณะเสียดสี หยาบคาย หรือด่าทอ โดยประชาไทจะลบความเห็นในลักษณะดังกล่าว

อันนี้เป็นไม่กี่อันที่ยังพอหลงเหลืออยู่ https://prachatai.com/journal/2006/03/22310 ดูผู้ลงชื่อเอาแล้วก็ขำๆ ศราวุธ ปทุมราช, กนกรัตน์ เลิศชูสกุล, นฤมล ทับจุมพล

ส่วนอันนี้ เป็นแถลงการณ์ของนักวิชาการ “แถลงการณ์ผ่าทางตัน เว้นวรรคทักษิณ....” มีหมด นิธิ, สมชาย ปรีชาศิลปกุล, เกษียร, ประภาส, อรรถจักร, สายชล, ปิ่นแก้ว เหลืองอร่ามศรี ฯลฯ

https://web.archive.org/web/20140524111532/http://prachatai.com/journal/2006/03/22355


ส่วนกรณี พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้สั่งให้หน่วยทหารทั่วประเทศ งดสั่งสินค้าจากแอปพลิเคชันลาซาด้า (Lazada) และห้ามให้รถส่งสินค้าของแบรนด์ดังกล่าวเข้ามาในพื้นที่หน่วยทหาร แต่ไม่ห้ามกำลังพลสั่งสินค้าจากแอปพลิเคชันนี้ แต่หากสินค้ามาส่งก็ให้ไปรับเองนอกพื้นที่หน่วยทหาร และ พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) มีความกังวลเป็นอย่างมาก ที่แพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ ได้มีการนำเสนอโฆษณาด้านการตลาดในลักษณะที่หมิ่นเหม่ ก้าวล่วงสถาบันเนื่องจากได้สร้างผลกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนชาวไทย

นายกรุณพล เทียนสุวรรณ หรือ เพชร รองโฆษกพรรคก้าวไกล ได้แสดงความเห็นต่อกรณีดังกล่าว ว่า ไม่คิดว่าบุคคลที่มีตำแหน่งถึงผู้บัญชาการทหารบก จะมีคำสั่งที่ไม่เข้าใจโลกขนาดนี้ อีกทั้งกองทัพเป็นหน่วยงานรัฐควรวางตัวเป็นกลาง ไม่เลือกปฏิบัติต่อเอกชนผู้ให้บริการรายใด รวมถึงกองทัพไม่มีหน้าที่ชี้นำต่อสังคมว่าควรหรือไม่ควรใช้บริการใด

นอกจากนี้ การออกมาแบนโดยอ้างเหตุเรื่องพฤติกรรมไม่เหมาะสมและสร้างความแตกแยก ยิ่งเป็นการสร้างบรรยากาศความหวาดกลัวในสังคม ทั้งยังเป็นการผลักภาระให้กลุ่มธุรกิจ โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์รายเล็กรายน้อย ซึ่งหากการชี้นำของกองทัพในครั้งนี้ มีผลในการสร้างความลำบากติดขัดขวางการดำเนินธุรกิจทั้งที่ควรสนับสนุนให้มีความสะดวกยิ่งขึ้นในยามเศรษฐกิจแบบนี้ ยิ่งเท่ากับว่า กองทัพไทยกำลังเป็นแกนนำในการแบนธุรกิจ ผู้ประกอบการ และพาร์ตเนอร์ที่ทำการค้าในแพลตฟอร์มนี้ให้ได้รับผลกระทบและต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่กำลังจะเกิดขึ้น


“ผมคิดว่า ถ้าท่านไม่รู้เรื่องอะไรก็อย่าเสนอหน้าเข้าไปยุ่งเลย ปกติลำพังการซื้ออาวุธคนเขาก็ระอาใจกับพวกท่านพอแล้ว หากคุณไม่เคยสนับสนุนอะไรกับประชาชนที่เขาทำมาหากิน ก็อย่าไปสร้างความลำบากให้พวกเขาดีกว่า”

อีกหนึ่งประเด็นที่สะท้อนให้เห็นว่า การออกตัวแบนลาซาด้าในครั้งนี้ คือ ความไม่เข้าใจโลกของผู้นำกองทัพที่ดี แต่ใช้อำนาจ คือสุดท้ายแล้วปฏิบัติการคงไม่สามารถทำให้บรรลุผลสำเร็จได้จริง นอกจากออกตัวเพื่อเอาหน้าเอาสะใจเท่านั้น เพราะท่านยังไม่เข้าใจเลยว่า ลาซาด้าไม่ใช่บริษัทขนส่ง หากสินค้าที่สั่งมาส่งโดยบริษัทขนส่งอื่น อาจจะไปรษณีย์ไทย แฟลช เคอร์รี่ ฯลฯ ท่านจะรู้ได้อย่างไร


ทั้งนี้ เป็นการตอกย้ำว่า แล้วแบบนี้คนไทยจะฝากความหวังไว้กับปฏิบัติการของกองทัพได้อีกหรือ ลำพังแค่จะรบกับลาซาด้า ท่านก็ไม่รู้เขารู้เราแบบนี้ แต่ที่เห็นเก่งมากจริงๆ คือ ออกมาไล่ล่าประชาชนที่ไม่มีอาวุธเท่านั้น

“ผมยังคิดไม่ออกว่า การแบนนี้ได้ประโยชน์อะไร นอกจากเป็นการใช้อำนาจรัฐที่ส่งผลกระทบสร้างความเดือดร้อนต่อคนทั่วไปที่ทำมาหาเลี้ยงชีพ และต้องถามต่อไปอีกว่าเหมาะสมแล้วหรือไม่ที่กองทัพจะมาซ้ำเติมคนทำมาหากินในช่วงเวลาที่ข้าวยากหมากแพงแบบนี้ ผมอยากตั้งคำถามว่า การที่กองทัพใช้อำนาจในทางไม่เป็นมิตรกับภาคเอกชนเช่นนี้ จะสร้างความเชื่อมั่นกับนักลงทุนและบริษัทเทคโนโลยีที่เป็นอนาคตของโลกในยุคนี้ได้อย่างไร”


ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นายอานนท์ นำภา แกนนำม็อบเยาวชนปลดแอก โพสต์ข้อความ ผ่านเฟซบุ๊ก “อานนท์ นำภา” ระบุว่า

...อย่ามาอ้างเรื่อง LAZADA ยึดอำนาจนะ ไอ้...

ขณะ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน แกนนำม็อบราษฎร ทวีตข้อความผ่าน ทวิตเตอร์ @paritchi ระบุว่า

“หมาเห่าไม่อาจเขยื้อนภูเขาฉันใด สลิ่มก็ทำอะไรลาซาด้าไม่ได้ฉันนั้น #แบนลาซาด้า” (จากสยามรัฐออนไลน์)
แน่นอน, เห็นได้ชัดว่า ฝ่ายที่สนับสนุนการเคลื่อนไหวต่อสู้ทางการเมือง โดยต้องการ “ปฏิรูปสถาบันฯ” ล้วนออกมาถือหาง “ลาซาด้า” เพื่อตอบโต้ฝ่ายที่ “ปกป้องสถาบันฯ” โดยแทบไม่สนใจเนื้อหาสาระที่เกิดขึ้น ว่า “ลาซาด้า” ทำอะไร ทำไมผู้คนที่มีความจงรักภักดี จึงออกมาแบน “ลาซาด้า” กันยกใหญ่ ไม่แต่เฉพาะกองทัพเท่านั้น จนเป็นกระแสร้อนอยู่หลายวัน

ที่สำคัญ พรรคการเมืองบางพรรค กำลังทำให้ประชาชนเห็นถึง “แนวคิดทางการเมือง” ที่มีต่อ “สถาบันฯ” อย่างไร หรือไม่

ทุกอย่างเห็นได้ชัดก็ตอนนี้!